กรุงเทพฯ--8 ก.ย.--กทม.
ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เมื่อวานนี้ (7 ก.ย.43) เวลา 10.00 น. นายประเสริฐ สมะลาภา ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการสะพานพระราม 8 ว่า วันนี้ได้มีการประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการประชุมปกติเพื่อติดตามงานและแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ของโครงการ โดยในครั้งนี้ได้มีการพิจารณาในเรื่องค่าเงินบาท ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการสั่งซื้อวัสดุจากต่างประเทศ ทั้งนี้เพราะเคเบิ้ลที่สั่งจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ จำนวน 500 ตัน นั้น ตามสัญญาต้องจ่ายเป็นค่าเงินฟรังซ์ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐฯ แล้ว เท่ากับ 41 บาท แต่ตอนที่กทม.เซ็นสัญญาในปี 2541 นั้น ค่าเงินเท่ากับ 36 บาท ดังนั้น จึงต้องมีการจ่ายเงินเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20 ล้านบาท อย่างไรก็ดีกทม.ได้ยึดตามสัญญาโดยจะไม่มีการปรับราคา ผู้รับเหมาจะเป็นผู้จ่ายเงินในส่วนที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว ยกเว้นจะมีมติครม. เกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้รับเหมาออกมา รวมทั้งยังมีเรื่องเหล็กที่ใช้เป็นคานสะพาน ซึ่งบริษัทไชน่า สเตทฯ จะสั่งจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน แต่ก็ติดปัญหาเรื่องค่าเงินบาทเช่นกัน เพราะถ้าสั่งจากประเทศจีนจะต้องเพิ่มเงินอีกประมาณ 10 ล้านบาท จึงได้มีการพิจารณาว่าจะสั่งในประเทศไทยได้หรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นการดี เพราะเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศ แต่ก็มีข้อกังวลเกี่ยวกับคุณภาพของเหล็กว่าจะใช้ได้หรือไม่ ซึ่งในเรื่องนี้ทางบริษัทที่ปรึกษาได้อธิบายว่าเหล็กทุกชิ้น ก่อนนำไปใช้จะต้องมีการทดสอบคุณภาพก่อน ถ้าทดสอบไม่ผ่านก็จะไม่ใช้ ข้อกังวลเรื่องนี้จึงเป็นอันหมดไป ประกอบกับในสัญญาก็ได้อนุโลมให้ใช้เหล็กจากที่ใดก็ได้ ดังนั้นจากเดิมที่จะสั่งเหล็กจากประเทศจีน จึงเปลี่ยนมาเป็นใช้เหล็กในประเทศไทยแทน
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ตนยังได้กำชับให้หลีกเลี่ยงการขุดเพื่อทำท่อระบายน้ำบริเวณหน้าธนาคารชาติ โดยขอให้เบนแนวระบายน้ำไปทางอื่น อาทิ อาจจะระบายไปลงที่คลองผดุงกรุงเกษม หรือซอยพายัพ 5 เป็นต้น ในส่วนเรื่องการเพิ่ม – ลด เนื้องาน ซึ่งได้แก่ การเปลี่ยนรูปแบบของเสาประธานต่าง ๆ ให้มีรูปแบบไทย ๆ การใส่เพดานบริเวณใต้ท้องสะพานบางส่วนที่ธนาคารชาติ เพื่อให้มีความเรียบร้อย และการเพิ่มการติดตั้งลิฟท์ภายในเสารับเคเบิ้ล นั้น จะต้องพิจารณาร่วมกัน 3 ฝ่ายคือ กทม. บริษัทที่ปรึกษา และบริษัทผู้ก่อสร้าง ขณะนี้ใกล้จะได้ข้อยุติแล้ว โดยการพิจารณาได้อิงเรื่องระเบียบและความยุติธรรม
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวอีกว่า โครงการสะพานพระราม 8 ขณะนี้ได้ปริมาณงานประมาณ 40 % ช้ากว่าแผน 10% อย่างไรก็ดีถึงแม้จะได้เนื้องาน 40% แต่ก็เป็นงานที่ค่อนข้างยาก เช่น การก่อสร้างฐานราก การตอกเข็ม เป็นต้น ดังนั้นงานที่เหลือแม้จะมีปริมาณงานที่ค่อนข้างมาก แต่ก็เป็นงานที่ง่ายสามารถก่อสร้างได้รวดเร็ว ทั้งนี้คาดว่าโครงการสะพานพระราม 8 จะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2544--จบ--
-นศ-