เบย์ จับมือกับ 12 บริษัทคอมพิวเตอร์ชั้นนำ หาแนวทางใหม่ มุ่งแก้ปัญหา การเข้ารหัสบนเครือข่าย

กรุงเทพ--6 ส.ค.--เบย์ เน็ตเวิร์คส บริษัท เบย์ เน็ตเวิร์คส ผู้นำทางด้านผลิตภัณฑ์เชื่อมต่อเครือข่าย และบริการคอมพิวเตอร์ครบวงจรระดับโลก และอีก 12 บริษัทคอมพิวเตอร์ร่วมมือกันสนับสนุนโซลูชันใหม่ ภายใต้ชื่อ "Private Doorbell"ซึ่งอาจจะเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหา เกี่ยวกับข้อตกลงเรื่องการเข้ารหัสบนเครือข่าย ที่ยังหาข้อยุติไม่ได้ หรือ ที่เรียกว่า "Operator Action" ทั้งนี้ บริษัทคอมพิวเตอร์ อย่างน้อย 10 รายในกลุ่มดังกล่าว เคยดำเนินการยื่นคำร้องต่อกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ เพื่อขออนุญาตในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เข้ารหัส ที่ใช้เทคโนโลยี Operator Action ออกสู่ตลาดต่างประเทศไปแล้ว ซึ่งระหว่างรอผลการอนุญาตในการส่งออกจากรัฐบาล ซึ่งกลุ่มบริษัทดังกล่าว ไม่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์หรือเทคโนโลยีการเข้ารหัสแต่อย่างใด ขณะเดียวกันได้เสนอที่จะให้จำกัด การขายให้กับรัฐบาลและกองทัพของบางประเทศด้วย อย่างไรก็ตามกลุ่มบริษัทเหล่านี้ ก็ยังคงทำตามกฏข้อบังคับของกระทรวงพาณิชย์ ของสหรัฐอยู่ต่อไป สำหรับโมเดล Operator Action นับว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการป้องกันความปลอดภัยของข้อมูล และสิทธิส่วนบุคคล "Private Doorbell" ให้กับผู้ที่สามารถเข้าดูข้อมูลได้ตามกฏหมาย และภายใต้โมเดล Operator Action นี้ จะทำให้ข่าวสารในเครือข่ายนั้นๆมีความปลอดภัย และเป็นความลับอยู่ จนกว่าผู้ควบคุมเครือข่ายจะเข้ามาฟิลเตอร์ข่าวสารในเครือข่ายส่วนตัว (private network) หรือเครือข่ายอินเตอร์เน็ต แต่โดยทั้งนี้จะต้องมีหมายแจ้งจากทางการ หรือตามคำสั่งศาล และแม้ว่าความพยายามเหล่านี้ จะเป็นเพียงวิธีหนึ่งของการหาทางออก สำหรับความขัดแย้งเรื่องการเข้ารหัสข้อมูลที่เกิดขึ้น แต่กลุ่มบริษัทหล่านี้ก็สัญญาว่าจะร่วมมือกันทำโซลูชันนี้ให้สมบูรณ์ต่อไป อย่างไรก็ตาม นายเดฟ เฮ้าส์ ประธานและหัวหน้าคณะบริหารของเบย์เน็ตเวิร์คส ก็ได้กล่าวเสริมว่า ทางเบย์ เน็ตเวิร์คส และบริษัทอื่นๆของสหรัฐอเมริกาต่างก็ได้พัฒนาเทคโนโลยีการเข้ารหัสในระดับชั้นนำของโลกอยู่แล้ว ซึ่งลูกค้าทั่วโลกก็ยังคงต้องการเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยเป็นความต้องการที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กับที่ต้องการความเป็นส่วนตัวจากสิ่งเหล่านี้ด้วย และโซลูชันดังกล่าวจะทำให้อเมริกาสามารถส่งออกเทคโนโลยีชนิดนี้ของตัวเองสู่ตลาดโลกได้ แทนที่จะต้องให้บริษัทต่างชาติมาทำธุรกิจเหล่านี้แทน กลุ่มบริษัทคอมพิวเตอร์อีก 12 แห่งนั้นได้แก่ แอคเซน(Ascend), ซิสโก้ (Cisco Systems), 3คอม (3Com), ฮิวเลตต์-แพคการ์ด(Hewlett-Packard Company), อินเทล (Intel), ไมโครซอฟท์ (Microsoft), เน็ตสเคป คอมมูนิชั่น (Netscape Communications), เน็ตเวิร์คส แอสโซซิเอท (Network Associates), โนเวล(Novell), เรดคริก คอมมูนิเคชั่น (RedCreek Communications), ซีเคียว์ คอมพิวติ้ง (Secure Computing) และ ซัน ไมโครซิสเต็มท์ (Sun Microsystems) ซึ่งทั้งหมดได้ร่วมกันสนับสนุนโซลูชั่นนี้ เพื่อหวังให้เกิดความสมดุลต่อกันและกัน ระหว่างความต้องการในความเป็นส่วนตัวของแต่ละบุคคลหรือแต่ละธุรกิจ กับความปลอดภัยด้านข้อมูล ที่กฏหมายของสหรัฐบังคับใช้ และการประกาศร่วมมือกันในครั้งนี้ ก็มีผลต่อการรวมตัวกันของทั้ง 13 บริษัท บนหลักการ ที่ว่าเทคโนโลยี แสดงถึงให้เห็นถึงปัญหาซับซ้อนของการเข้าถึงข่าวสาร ที่ถูกเข้ารหัสบนเครือข่ายข้อมูล คำร้องดังกล่าวยังเรียกร้องให้มีการผ่อนปรน การจำหน่ายผลิตภัณฑ์เน็ตเวิร์คประเภท ไฟร์วอล (Firewall), VPN (Virtual Private Network) และผลิตภัณฑ์ด้าน E-Commerce อีกด้วย โดยกลุ่มบริษัทผู้นำเหล่าได้นี้เริ่มประสานงานกัน กำหนดมาตรฐานการปฏิบัติมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2540 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อคุณกิ่งกาญจนหทัย กิ่งหิรัญวัฒนา บริษัท เบย์ เน็ตเวิร์คส โทร: 636-3095-8--จบ--

• ข่าวเบย์ เน็ตเวิร์ค
• ข่าวกระทรวงพาณิชย์
• ข่าวเกี่ยวกับข้อ
• ข่าวคอมพิวเตอร์
• ข่าวเครือข่าย