แคลิฟอร์เนีย--25 มิ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์-เอเชียเน็ท
นายดัก มอร์ริส ประธานและซีอีโอของกลุ่มบริษัทยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุ๊ป ได้ประกาศเมื่อวานนี้ว่า นายจอร์เกน ลาร์เซน ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานและซีอีโอของบริษัทยูนิเวอร์แซล มิวสิค อินเตอร์เนชั่นแนล โดยการแต่งตั้งนี้จะมีผลบังคับเมื่อบริษัทยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ อิงก์ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จในการเข้าครอบครองบริษัทโพลีแกรม เอ็น วี
ในตำแหน่งนี้นายลาร์เซนจะรับผิดชอบสำหรับการควบคุมดูแลและการดำเนินการธุรกิจแผ่นเสียงระหว่างประเทศของยูนิเวอร์แซลและโพลีแกรมร่วมกัน โดยนายมอร์ริสได้แสดงความคิดเห็นว่า "ผมมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะประกาศให้นายจอร์เกน ลาร์เซนได้เป็นผู้นำการดำเนินกิจการระหว่างประเทศร่วมกันของเรา ซึ่งในฐานะผู้นำฝ่ายกิจการระหว่างประเทศของกลุ่มบริษัทยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุป นายจอร์เกนได้นำ 1 ในแผนการขยายงานทั่วโลกที่ก้าวหน้าและประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติธุรกิจการดนตรี"
นายลาร์เซนมีประวัติการปฏิบัติงานที่ยาวนานและยากที่จะมีผู้ใดเสมอเหมือน โดยเขายังคงพิสูจน์ตนเองต่อไปว่าเป็นผู้บริหารที่หาได้ยากคนหนึ่งที่มีความสามารถในการสร้างสมดุลระหว่างความมีไหวพริบทางธุรกิจกับมุมมองที่สร้างสรร ซึ่งนายจอร์เกนนั้นมีความสำคัญต่อการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของเรา และผมรู้สึกตื่นเต้นที่เขาจะเป็นส่วนหนึ่งของทีมใหม่ของเรา ที่จะนำบริษัทดนตรีที่ใหญ่ที่สุดของโลกเมื่อบริษัทยูนิเวอร์แซลและโพลีแกรมรวมตัวกัน"
นายลาร์เซนได้กล่าวว่า "นี่เป็นช่วงเวลาที่พิเศษในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมดนตรี และผมขานรับโอกาสนี้ที่ทำให้ผมมีส่วนในการสร้างสรรคอนาคตของบริษัทแผ่นเสียงที่ใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งจากการรวมวัฒนธรรมของบริษัทที่ประสบความสำเร็จทั้ง 2 แห่ง เราจะสร้างสภาพแวดล้อมที่สร้างสรรอย่างเป็นแบบเดียวกันสำหรับทั้งศิลปินและผู้บริหาร โดยผมกำลังรอคอยที่จะร่วมงานกับคุณดักและทีมบริหารงานระดับสูงของเขา และผู้บริหารที่มีความสามารถสูงที่บริษัทโพลีแกรม เพื่อให้แน่ใจถึงความสำเร็จทั่วโลกอย่างต่อเนื่องของเรา"
ภายหลังจากการปฏิบัติหน้าที่อย่างประสบความสำเร็จในวงการระหว่างประเทศ นายจอร์เกน ลาร์เซนก็ได้เข้ามาทำงานร่วมกับกลุ่มบริษัทยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุ๊ปในปี 1993 ในตำแหน่งประธานบริษัทยูนิเวอร์แซล มิวสิค อินเตอร์เนชั่นแนล (ยูเอ็มไอ) ซึ่งภายใต้การนำของนายลาร์เซน บริษัทยูนิเวอร์แซลได้มีการขยายตัวอย่างมาก โดยได้พัฒนาจากบริษัทระหว่างประเทศ 4 แห่งไปเป็นบริษัททั้งหมด 31 แห่ง ครอบคลุม 95 % ของตลาดดนตรีโลก และได้ทำให้ยอดขายระหว่างประเทศของบริษัทยูนิเวอร์แซลเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าใน 3 ปี ซึ่งในระหว่างการดำรงตำแหน่งของนายลาร์เซนนั้น ยูเอ็มไอได้รับความนิยมโดยมีเพลงขึ้นถึงอันดับยอดนิยม โดยมีศิลปินภายในประเทศที่ยอดขายอัลบัมขึ้นถึงหลักล้านเมื่อไม่นานมานี้ อาทิ เคลาดินโฮ แอนด์ บูเชชา (บราซิล), ลูนา ซี (ญี่ปุ่น), ปาปา แบร์ (เยอรมนี) และโรซานา (สเปน) ในขณะนี้อะควา ซึ่งได้เซ็นสัญญากับยูนิเวอร์แซลในเดนมาร์ค ได้ขายอัลบัมได้มากกว่า 10 ล้านม้วนทั่วโลก
นอกจากนี้ บริษัทยูนิเวอร์แซล มิวสิค อินเตอร์เนชันแนลภายใต้การนำของนายลาร์เซน ได้ประสบความสำเร็จอย่างมากจากการขายผลงานเป็นอัลบัมหลายล้านแผ่นของศิลปินต่างๆ อาทิ โน เดาบ์ท, เบ็ค, มาริลีน แมนสัน, บุช, ไลฟ์ และเนียร์วานา รวมทั้งซาวด์แทรคส์"พัลพ์ ฟิคชัน" และ "แดนเจอรัส มายด์ส" ทั้งนี้ ก่อนที่นายลาร์เซนจะเข้ามาร่วมงานกับยูนิเวอร์แซล เขาได้ทำงานให้กับบริษัทดีเอสบี ชาลล์พลาเทน เบอร์ลิน ซึ่งเป็นอดีตบริษัทแผ่นเสียงที่เป็นของรัฐบาลเยอรมนีตะวันออก ในตำแหน่งหุ้นส่วนบริหารตั้งแต่ปี 1991 และก่อนหน้าที่จะมาทำงานให้กับดีบีเอส เขาได้ทำงานให้กับซีบีเอส เรคคอร์ดส์ มาเป็นเวลา 20 ปี โดยล่าสุดได้ดำรงตำแหน่งประธานของซีบีเอส เรคคอร์ดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล, ยุโรป ที่ในขณะนี้กลายเป็นโซนี่ มิวสิค ยุโรป ซึ่งเขาได้ควบคุมการดำเนินงานใน 37 ประเทศ
ภายใต้การนำของนายลาร์เซน ธุรกิจในยุโรปของซีบีเอสได้กลายเป็นผู้นำส่วนแบ่งในตลาดอันดับ 1 ซึ่งนอกเหนือจากยุโรปแล้ว ความรับผิดชอบของเขายังได้รวมถึงสาขา, ผู้ได้รับใบอนุญาต และการพัฒนาธุรกิจในเอเชีย, แอฟริกา, ตะวันออกกลาง และยุโรปตะวันออก นอกจากนี้ ในช่วงการปฏิบัติหน้าที่ให้กับซีบีเอสนั้น นายลาร์เซนยังได้ดำรงตำแหน่งรองประธานระดับสูงของซีบีเอส เรคคอร์คส์ อินเตอร์เนชันแนล, ยุโรป; ประธานซีบีเอส ฝรั่งเศส; ประธานซีบีเอส เยอรมนี; ผู้อำนวยการ ซีบีเอส/สแกนดิเนเวีย และกรรมการผู้จัดการ ซีบีเอส สวีเดน ซึ่งขณะที่อยู่ที่ซีบีเอสนั้น เขารับผิดชอบการเซ็นสัญญาศิลปินติดอันดับ เช่น เจนนิเฟอร์ รัช และนีนา รวมทั้งแอนเดียส์ วอลเลนเวเดอร์ ซึ่งมียอดขายหลายล้านแผ่นในหลายประเทศ
นอกจากนี้ ประสบการณ์ระหว่างประเทศของนายลาร์เซนยังรวมถึง การเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดของบริษัทพีแอนด์จี โมร็อคโค ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของฝ่ายระหว่างประเทศของพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิลในเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยเขาได้เริ่มต้นหน้าที่การงานด้วยการทำโฆษณาและการวิจัยตลาดในประเทศเดนมาร์ค ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา ทั้งนี้ นายลาร์สันได้จบการศึกษาสาขาเอ็มบีเอจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน และสาขาเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน
กลุ่มบริษัทยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุปนั้นประกอบด้วยบริษัทเอ็มซีเอ เรคคอร์คส์,เอ็มซีเอ เรคคอร์คส์ แนชวิลล์, จีอาร์พี เรคคอร์ดิง คอมพานี, เกฟเฟน เรคคอร์คส์, ยูนิเวอร์แซล เรคคอร์คส์, อินเตอร์สโคป เรคคอร์คส์, ฮิบ-โอ เรคคอร์คส์, ยูนิเวอร์แซล มิวสิค แอนด์ วิดีโอ ดิสทริบิวชัน, ยูนิเวอร์แซล มิวสิค อินเตอร์เนชันแนล, เอ็มซีเอ มิวสิค พับลิชชิง และยูนิเวอร์แซล คอนเสิร์ทส์ ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุ๊ป เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ อิงก์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเดอะ ซีแกรม คอมพานี ซึ่งเป็นบริษัทเครื่องดื่มและการบันเทิงระดับโลก --จบ--
--บิสนิวส์แปลและเรียบเรียง-สจ/กก--
บริษัท เอ็มมีเน้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ครบวงจรที่มีประสบการณ์มากกว่า 50 ปี โดยมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิต ด้วยแรงบันดาลใจจากเมืองฟูราโนะในประเทศญี่ปุ่น เมืองที่โดดเด่นด้วยธรรมชาติอันงดงามและอุดมสมบูรณ์ ทำให้แบรนด์ FURANO (ฟูราโนะ) เกิดขึ้นเพื่อแสดงถึงความใส่ใจในการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของคนไทย คุณสุชานันท์ อัจฉริยสุชา กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัทเอ็มมีเน้นซ์ และผู้ก่อตั้งแบรนด์ FURANO กล่าวว่า "
ห้ามพลาด! สถาปนิก'68 พร้อมเปิดประตูสู่นวัตกรรมวัสดุก่อสร้างแห่งอนาคต แรงบันดาลใจใหม่ให้นักออกแบบ
—
นายศุภแมน มรรคา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีทีเอฟ อินเ...
GPI โชว์ฟีดแบ็ก 'งานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46' กวาดยอดจอง 77,379 คัน รายได้จัดงานพุ่ง 10% หนุนแนวโน้มผลงานครึ่งปีแรกสดใส
—
จบไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับงานบาง...
อาร์เอส ปิดดีล รับทรัพย์ 605 ล้านบาท จาก ยูนิเวอร์แซล มิวสิค พร้อมต่อยอดการลงทุน ขยายธุรกิจเพลงและธุรกิจใหม่ในอนาคต
—
อาร์เอส มิวสิค ภายใต้ อาร์เอส กรุ๊ป ...