กรุงเทพ--2 มิ.ย.--กปส.
เมื่อเช้าวานนี้ (1 มิถุนายน 2541) นายสุทิน สังข์มงคล และนายแพทย์วันชาติ ศุภจตุรัส รองปลัดกรุงเทพมหานคร ได้ไปตรวจเยี่ยมจุดตรวจสกัดจับ-ปรับควันดำรถยนต์บริเวณจุดตรวจถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน พื้นที่เขตธนบุรี และจุดตรวจถนนรัชดา ในพื้นที่เขตบางกอกใหญ่
ภายหลังการตรวจเยี่ยม นายแพทย์วันชาติ กล่าวว่า จากการที่กรุงเทพมหานครได้หยุดตั้งจุดสกัดตรวจจับ-ปรับรถควันดำไประยะหนึ่ง และวานนี้ ได้เริ่มตั้งจุดจับ-ปรับอีกครั้งหนึ่ง โดยเริ่มตรวจจับ-ปรับ 15 จุด ในวันจันทร์-พุธ-ศุกร์ ระหว่างเวลา 10.00-12.00 น. ซึ่งแต่ละจุดจะมีเจ้าหน้าที่เทศกิจ ตำรวจจราจร และกรมควบคุมมลพิษ ร่วมกันดำเนินการ โดยในขั้นแรกเจ้าหน้าที่จะตรวจดูควันดำด้วยสายตาก่อน เมื่อเห็นว่ารถคนใดมีควันดำก็จะเรียกเข้ามาที่จุดสกัดตรวจ และจะตรวจด้วยเครื่องมือวัดควันดำ ซึ่งค่ามาตรฐานควันดำจะต้องไม่เกินร้อยละ 50 หากค่าควันดำเกิน 60 เปอร์เซ็นต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเขียนใบสั่งให้ไปเสียค่าปรับไม่เกิน 1,000 บาท ภายใน 7 วัน ที่กรมการขนส่งทางบกในพื้นที่ที่ถูกใบสั่ง
รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า การที่กรุงเทพมหานครรณรงค์จับ-ปรับรถควันดำนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการลดปัญหามลพิษ และลดปัญหาความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ประชาชนด้วย ซึ่งใน 15 จุด ตรวจจับ-ปรับนั้น ประกอบด้วย ถนนบางนา-ตราด เขตบางนา, ถนนพัฒนาการ เขตสวนหลวง, ถนนพหลโยธิน เขตสายไหม, ถนนรัชดาภิเษก เขตจตุจักร, ถนนตากสิน เขตธนบุรี, ถนนกรุงธนบุรี เขตคลองสาน, ถนนรัชดาภิเษก เขตบางกอกใหญ่, ถนนเพชรเกษม เขตบางแค, ถนนพระราม 2 เขตจอมทอง, ถนนพระราม 3 เขตบางคอแหลม, ถนนรามคำแหง เขตบางกะปิ, ถนนสิรินธร เขตบางพลัด, ถนนเพชรเกษม เขตหนองแขม, ถนนพระราม 2 เขตบางขุนเทียน และถนนราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ ส่วนอีก 35 จุด สกัดตรวจเป็นจุดที่ทำการตักเตือน ซึ่งจะมีเฉพาะเจ้าหน้าที่เทศกิจเท่านั้น อย่างไรก็ดีเพื่อไม่ให้มีรถควันดำอีกต่อไป กรุงเทพมหานครกำลังจัดทำแผนร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ และตำรวจ เพื่อจะจัดให้มีการตั้งจุดกวดขันจับ-ปรับรถควันดำทุกวัน ซึ่งจะเริ่มภายในเดือนหน้า และในอนาคตจะประสานงานกับทุกฝ่ายเพื่อตรวจรถเมล์ที่อู่รถ เพราะจะไม่ทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องเสียเวลาและไม่สร้างปัญหาการจราจร
สำหรับ วานนี้ จากการตรวจจุดสกัดตรวจควันดำพบว่า รถที่มีควันดำเกิน 60 เปอร์เซ็นต์ มีประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์--จบ--