กรุงเทพ--31 ก.ค.--การบินไทย
วานนี้ (30 ก.ค. 40) ที่สำนักงานใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ โดยมี นายมหิดล จันทรางกูร ประธานกรรมการฯ เป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้
1. เรื่องราวปรับปรุงที่นั่งและคัดเลือก Seat Supplier ของเครื่องบินโบอิ้ง 777-300
คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติเห็นชอบให้บริษัทฯ จัดซื้อเก้าอี้สำหรับติด ตั้งบนเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777-300 จากบริษัท Avio Interiors ประเทศอิตาลี ซึ่งยื่นข้อเสนอได้ถูกต้องตามความต้องการของบริษัทฯ จากผู้เสนอเข้ามาจำนวน 4 ราย สำหรับเก้าอี้แบบใหม่นี้จะติดตั้ง และให้บริการบนเครื่องบินโบอิ้ง 777-300 จำนวน 6 ลำ ที่บริษัทฯ ได้สั่งซื้อนี้จะทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายจาก การบริการเพิ่มมากขึ้นทั้งนี้เนื่องจากบริษัทฯ ได้ลดจำนวนที่นั่งเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้กับที่นั่ง ของผู้โดยสารให้กว้างขึ้น อีกทั้งเพิ่มพื้นที่ระหว่างแถวที่นั่ง (ช่องวางเท้า) ให้กว้าง ขึ้นอีก ทั้งในที่นั่งชั้นธุรกิจและชั้นประหยัดโดยในที่นั่งชั้นธุรกิจจะมีความกว้างของที่นั่ง ถึง 20 นิ้ว พื้นที่ห่างระหว่างแถวที่นั่งกว้างขึ้นเป็น 47 นิ้ว พื้นที่บริเวณทางเดิน กว้างถึง 21.5 นิ้ว ส่วนที่นั่งในชั้นประหยัดจะมีความกว้าง 18.5 นิ้ว พื้นที่ห่าง ระหว่างแถว 32 นิ้ว และพื้นที่ทางเดินกว้าง 19.25 นิ้ว นอกจากนี้ ในชั้นธุรกิจ เก้าอี้แบบใหม่ยังออกแบบให้ติดตั้งจอโทรทัศน์ส่วนตัวและติดตั้งโทรศัพท์ส่วนตัวทุกที่นั่ง ด้วย ทั้งนี้คาดว่าเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777-300 จะนำมาให้บริการในราวเดือน สิงหาคม 2541 โดยจะใช้ทำการบินในเส้นทางภูมิภาคนี้
2. เรื่องการอนุมัติว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาจัดทำการประเมินค่างาน และโครงสร้าง บัญชีอัตราเงินเดือน
คณะกรรมการบริษัทฯ ได้พิจารณาอนุมัติให้บริษัทฯ ดำเนินการว่าจ้าง บริษัท KPMG PEAT MARWICK SUTHEE LTD. เป็นบริษัทที่ปรึกษาจัดทำการประเมิน ค่างานและโครงสร้างบัญชีอัตราเงินเดือนใหม่ ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทฯ ได้พิจารณา เห็นสมควรดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างบัญชีอัตราเงินเดือนใหม่ เพื่อให้ทันกับ สภาวะตลาดแรงงานในปัจจุบัน ประกอบกับขณะนี้บริษัทฯ กำลังเตรียมการเข้าร่วม โครงการเป็นรัฐวิสาหกิจชั้นดีหรือโครงการประเมินผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ และบริษัทฯ อยู่ในระหว่างดำเนินการโครงการ Reengineering
3. เรื่องรายงานความคืบหน้าในการนำเสนอแผนปฏิบัติการการเพิ่มบทบาทภาคเอกชน ในรัฐวิสาหกิจ
ตามที่คณะกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มีมติเห็นชอบ ต่อผลการศึกษา และแผนปฏิบัติการการเพิ่มบทบาทภาคเอกชนในรัฐวิสาหกิจของ บริษัทฯ โดยได้นำเสนอต่อกระทรวงคมนาคม ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2540 เพื่อนำ ส่งคณะกรรมการกำกับนโยบายเพิ่มบทบาทภาคเอกชนในรัฐวิสาหกิจ
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2540 คณะกรรมการกำกับนโยบายเพิ่มบทบาท ภาคเอกชนในรัฐวิสาหกิจ รับทราบความคืบหน้าของแผนปฏิบัติการฯ และได้มีมติให้ จัดตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาเร่งรัดการเพิ่มบทบาทภาคเอกชน ในรัฐวิสาหกิจ เฉพาะแห่ง ซึ่งประกอบด้วย 1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธาน 2. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายโภคิน พลกุล) อนุกรรมการ 3. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเจ้าสังกัดของรัฐวิสาหกิจ
ที่เสนอแผนการเพิ่มบทบาทภาคเอกชน อนุกรรมการ 4. ปลัดกระทรวงการคลัง อนุกรรมการ 5. เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ อนุกรรมการ 6. เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา อนุกรรมการ 7. ประธานอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองแนวทาง
การแปรสภาพรัฐวิสาหกิจที่ต้องส่งเสริมให้มีการแข่งขันและ
จัดการเชิงธุรกิจ อนุกรรมการ 8. ผู้แทนรัฐวิสาหกิจที่เสนอแผนการเพิ่มบทบาทภาคเอกชน อนุกรรมการ 9. อธิบดีกรมบัญชีกลาง อนุกรรมการ
และเลขานุการฯ 10. ผู้อำนวยการสำนักรัฐวิสาหกิจและหลักทรัพย์ของรัฐ กรมบัญชีกลาง
อนุกรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการ 11. ผู้อำนวยการกองโครงการพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติ อนุกรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการ
ทั้งนี้คณะอนุกรรมการฯ ดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ดังนี้
1. พิจารณาแผนปฏิบัติการการเพิ่มบทบาทภาคเอกชน ในรัฐวิสาหกิจ เฉพาะแห่ง ในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
2. พิจารณาเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหา อุปสรรครวมถึงประเด็น เงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มบทบาทภาคเอกชนในรัฐวิสาหกิจให้รอบคอบและบรรลุ ผลสำเร็จ
3. รายงานผลการพิจารณาให้คณะกรรมการกำกับนโยบายฯ พิจารณา ภายในเวลาไม่เกิน 1 เดือน
โดยให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อนำเรียนเสนอ ฯพณฯ นายก รัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับฯ เป็นผู้ตัดสินใจสั่งการต่อไป
คณะกรรมการบริษัทจึงได้พิจารณาแต่งตั้งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่เป็น ผู้แทนของบริษัทฯ เพื่อเข้าร่วมเป็นคณะอนุกรรมการพิจารณาเร่งรัดการเพิ่มบทบาท ภาคเอกชนในรัฐวิสาหกิจเฉพาะแห่ง
4. เรื่องความคืบหน้าในการศึกษาแนวทางการจัดตั้งบริษัทขนส่งสินค้าทางอากาศ
ตามที่คณะกรรมการบริษัทฯ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการ (Steering Committee) เพื่อพิจารณาแนวทางและขั้นตอนการดำเนินการตลอดจนหลักเกณฑ์ใน การคัดเลือกผู้ร่วมลงทุนนั้น คณะกรรมการบริษัทฯ ได้รับทราบถึงความคืบหน้าในการ ศึกษาแนวทางการจัดตั้งดังกล่าว โดยเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2540 บริษัทฯ ได้ แต่งตั้งคณะทำงานฝ่ายสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย และพนักงานฝ่าย พัสดุภัณฑ์ฯ เพื่อร่วมกันศึกษาถึงแนวทางการจัดตั้ง รวมทั้งได้มีการจัดสัมมนาร่วมกัน ระหว่างฝ่ายบริหารและสมาคม-พนักงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2540 ที่ผ่านมา ผลจากการสัมมนาทางสมาคมพนักงานฯ และพนักงานส่วนใหญ่ได้ขอ โอกาสจากฝ่ายบริหารในการเข้าร่วมพิจารณาสมมติฐานของการศึกษาของ Merge Global, Inc. และขอให้ฝ่ายบริหารชะลอการอนุมัติทางเลือกการจัดตั้งบริษัทขนส่ง สินค้าทางอากาศออกไปก่อน จนกว่าการศึกษาร่วมกันระหว่างฝ่ายบริหารสมาคม พนังงานฯ และพนักงานจะเสร็จเรียบร้อย และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ดังนั้นฝ่าย บริหารจึงจะจัดให้มีการประชุมร่วมกันระหว่าง คณะทำงานฝ่ายสมาคมพนักงาน รัฐวิสาหกิจการบินไทยและพนักงาน กับคณะทำงานของฝ่ายบริหารเพื่อพิจารณาความ ถูกต้องของสมมติฐานดังกล่าว ซึ่งถ้ามีความเป็นไปได้ทางด้านเศรษฐกิจจึงจะศึกษา ถึงเรื่องสวัสดิการ สิทธิประโยชน์ และพันธมิตรทางธุรกิจต่อไป
5. เรื่องม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ขอลาออกจากกรรมการบริษัทฯ
คณะกรรมการได้รับทราบกรณี ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล กรรมการ บริษัทฯ ได้ขอลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทฯ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.นี้ เป็นต้นไป
6. การบริหารอะไหล่เครื่องบิน
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติได้แต่งตั้งหน่วยงาน Technical Sale รับ ผิดชอบดูแลในการพิจารณาการทำลาย และขายอะไหล่เครื่องบินที่ใช้ไม่ได้และที่เกิน ความต้องการ โดยให้ขึ้นตรงกับฝ่ายบริหารทั่วไป ทั้งนี้ยังได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ กลั่นกรองการดำเนินงานของหน่วย Technical Sale ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทน กระทรวงการคลัง ผู้แทนกระทรวงคมนาคม ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้แทนกองทัพอากาศผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการตรวจ เงินแผ่นดิน โดยให้ผู้แทนจากกระทรวงการคลัง เป็นประธานของคณะอนุกรรมการ ดังกล่าว--จบ--