กรุงเทพ--30 มิ.ย.--สมิติเวช
บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) เปิด รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ ขยายขีดความสามารถการให้การบริการกว้างขึ้น ยืดนโยบาย "ใช้การแพทย์นำธุรกิจ" เชื่อมั่น ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับสุขุมวิท เพราะชื่อเสียงของรพ.สมิติเวช ที่สั่งสมมานาน 18 ปี ตั้งเป้าเป็นศูนย์บริการทางการแพทย์ที่ครบวงจร
นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ เกียรติขจรธาดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินการโรงพยาบาล สมิติเวช ศรีนครินทร์ เปิดเผยว่า ตลอดเวลา 18 ปีที่ผ่านมา โรงพยาบาลสมิติเวช ได้มุ่งมั่นในการพัฒนาการรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยและการให้บริการในด้านต่างๆ จนทำให้สมิติเวช เป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักและด้รับความไว้วางใจจากประชาชนทั่วไปเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบแทนผู้ใช้บริการให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว และบริการที่ทั่วถึงมากขึ้น บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) จึงพิจารณาก่อตั้งโรงพยาบาล สมิติเวช ศรีนครินทร์ขึ้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขีดความสามรถทางด้านการแพทย์และขยายขอบเขตการให้บริการที่กว้างขึ้น โดยจะเปิดโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ อย่างเป็นทางการประมาณเดือนกรกฎาคม ศกนี้
การเปิดตัวโรงพยาบาล สมิติเวช ศรีนครินทร์ในครั้งนี้ นับเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 18 ปี ของสมิติเวช โดยทุ่มงบประมาณถึง 2,500 ล้านบาท มีเป้าหมายจะทำเป็นโรงพยาบาลที่มีขีดความ สามารถในการรักษาที่กว้างและครบวงจรมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกว่า 70 คน ประกอบกับมีอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย ซึ่งใช้งบประมาณลงทุนกว่า 400 ล้านบาท
สำหรับเหตุผลที่พิจารณาเลือกขยายสาขาไปที่ศรีนรินทร์นั้น นายแพทย์ณรงศักดิ์ ได้ให้เหตุผลว่า เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพการขยายตัวสูง ทำให้สามารถกระจายขีดความสามารถการให้บริการได้กว้างขวางมากขึ้น นอกจากนั้นยังมีอัตราการเติบโตของประชากรในพื้นที่ที่สูงขึ้นทุกปี และมีศักยภาพเพียงพอที่จะรองรับการขยายตัวได้อีกมาก โดยศรีนครินทร์กำลังกลายเป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจและการคมนาคมแห่งใหม่ เป็นศูนย์รวมของทางด่วนในส่วนต่อขยายที่เชื่อมต่อทางทุกทิศ ทั้งแจ้งวัฒนะ รามอินทรา ดาวคะนอง บางนา และใกล้จุดเส้นทาางมอเตอร์เวย์ สายตะวันออก ที่ทำให้ประชาชนแถบฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด สามารถเดินทางมาโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ได้โดยสะดวก ขณะเดียวกันสถานที่ตั้งของโรงพยาบาล สามาถเดินทางเข้าออกได้หลายทาง ทั้งด้านถนนพระราม 9, ถนนศรีนครินทร์, ทางลัดจากถนนรามคำแหง และซอยลัดอื่นๆ ซึ่งสามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการได้กว้างขวางขึ้น
สำหรับนโยบายของรพ.สมิติเวชนั้น นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ชี้แจงว่า นอกจากเสียงของสมิติเวชที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายแล้ว นโยบายหลักที่เรายึดถือกันมาตลอด 18 ปีและจะใช้ต่อไปคือ "ใช้การแพทย์ นำธุรกิจ" เน้นคุณภาพของการรักษาพยาบาลที่ดีที่สุด ในการสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ที่เข้ามาใช้บริการจนกระทั่งเกิด "การบอกต่อกันแบบปากต่อปาก" จนทำให้ชื่อเสียงของสมิติเวชที่เป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับ มากขึ้นทุกขณะ
ทางด้านการบริหารงานนั้น ทางสมิติเวชใช้ "ระบบการรวมศูนย์" ของฝ่ายงานสนับสนุนต่างๆ โดยมีศูนย์รวมอยู่ที่สุขุมวิท อาทิ ฝ่ายการเงิน-บัญชี,ฝ่ายบุคคล, ฝ่ายจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์, ฝ่ายการตลาด , ฝ่ายสารสนเทศ และอื่นๆ เป็นต้น ส่วนในฝ่ายอื่นที่จำเป็นต้องแยกก็จะมีทุกแห่ง โดยวิธีนี้ทำให้ในปีหนึ่งๆ สามารถลดค่าช้จ่ายในด้านนี้ได้มาก ส่งผลให้มีศักยภาพที่จะนำไปลงทุนด้านอุปกรณ์การแพทย์ได้เพิ่มขึ้น ส่งผลประกอบการที่ผ่านมานั้น ในปี 2539 บริษัทมีกำไรประมาณ 28 ล้านบาท จากรายได้ 1,200 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าหลังจากเปิดดำเนินการโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์แล้ว ในปี 2540 บริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1,500 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มของการแข่งขันธุรกิจพยาบาลเอกชน นายแพทย์ณรงศักดิ์ ได้ให้ความเห็นว่า ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน จะมีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ แม่ว่าการแข่งขันจะรุนแรงมากขึ้นก็ตาม เนื่องจากปัจจุบันประชาชนมีความรู้มากขึ้น ให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาพมากขึ้น ส่วนการแข่งขันของโรงพยาบาลเอกชนคงจะเป็นไปในด้านของชื่อเสียงของแพทย์ และโรงพยาบาลมากกว่า โดย้ฉพาะจะเป็นการแข่งขันของโรงพยาบาลที่อยู่ในธุรกิจนี้มานานเท่านั้น ส่วนรายใหม่ที่จะเข้ามาในธุรกิจพยาบาลเห็นว่าค่อนข้างยากด้วยสาเหตุหลายปัจจัย ทั้งด้านเศรษฐกิจในปัจจุบันไม่ค่อยเอื้ออำนวย และการสร้างฐานความเชื่อมั่นให้กับผู้บริการ
นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ ระบุทิ้งท้ายว่า "นโยบายใช้การแพทย์นำธุรกิจ และชื่อเสียงของสมิติเวช บวกกับการบอกกันแบบปากต่อปาก ทำให้มั่นใจว่า โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ จะปาะบความสำเร็จเช่นเดียวกับที่สุขุมวิท"
อนึ่ง โรงพยาบาล สมิติเวช ศรีนครินทร์ เป็นสาขาของเครือโรงพยาบาลสมิติเวช ที่บริษัท สมิติเวชจำกัด (มหาชน) ลงทุน 100% เป็นโรงพยาบาลขนาด 400 เตียง ใช้งบลงทุนประมาณ 2,500 ล้านบาท บนพื้นที่ 43 ไร่ มีแพทย์ประจำผู้เชี่ยวชาญฉพาะด้านให้บริการประมาณ 70 ท่าน ร่วมด้วยทีมงานสนับสนุนอื่นๆ อาทิ ทีมทันตแพทย์, เภสัชกร, พยาบาล, นักเทคนิคการแพทย์และหน่วยสนับสนุนอื่นๆ อีกกว่า 400 คน มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยและครบครัน ในเบื้องต้นใช้งบประมาณดังกล่าวถึง 400 ล้านบาท โดยตัวโรงพยาบาลมีพื้นที่ใช้สอยและความสะดวกประมาณ 120,000 ตารางเมตร การออกแบบตัวอาคารที่เน้นประโยชน์ของผู้เข้ามาช้บริการ อีกทั้งเป็นศูนย์การรักษาพยาบาลที่ครบวงจร โดยเฉพาะโรคมะเร็ง จะมีการรักษาที่ครบทั้งผ่าตัด, เคมีบำบัด และรังสีรักษา จะมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพาะจากต่างประเทศ มีขีดความสามารถในการรักษาสูง โดยสามารถรับส่งต่อผู้ป่วยจากที่อื่นๆ ได้ จะเปิดดำเนนการอย่างเป็นทางการประมาณเดือนกรกฎาคมนี้ เป็นต้นไป--จบ--