กรุงเทพ--18 มิ.ย.--อีสวอเตอร์
อีสวอเตอร์ มั่นใจพื้นฐานดีไม่หวั่นภาวะเศรษฐกิจซบ ยืนยันกระจายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 51 ล้านหุ้นสู่รายย่อยแน่นอนในเดือนมิถุนายนนี้ พร้อมออกโรดโชว์ต่างประเทศ โดยมีบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ทิสโก้ จำกัด (มหาชน) บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ธนสยาม จำกัด (มหาชน) และบริษัทเอบีเอ็น แอม โร สถาบันการเงินต่างชาติชั้นนำ เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เชื่อมั่นได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติเป็นอย่างดี
ดร.วันชัย กู้ประเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสวอเตอร์ เปิดเผยว่า บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1,700 ล้านบาท โดยได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์หรือตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้กระจายหุ้นสามัญเพิ่มทุนได้ โดยมีทุนจดทะเบียนในเริ่มแรก 1,000 ล้านบาท หรือ 100 ล้านหุ้น และเปิดโอกาสให้หน่วยงานของภาครัฐเข้าถือหุ้นในบริษัทอีสวอเตอร์รวมกันไม่เกินร้อยละ 49 ซึ่งประกอบด้วยการประปาส่วนภูมิภาค เข้าถือหุ้นร้อยละ 44 และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ถือหุ้นร้อยละ 5 ส่วนที่เหลือ ร้อยละ 51 จะกระจายให้กับประชาชนทั่วไป โดยกำหนดราคาจองในเบื้องต้นระหว่าง 25-30 บาท
บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด เป็นบริษัทซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยการประปาส่วนภูมิภาคเมื่อปี พ.ศ. 2535 มีหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารระบบการขนส่งน้ำดิบทางท่อและการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกใน 2 จังหวัดแรก ได้แก่ ชลบุรี และระยอง สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ถือได้ว่า East Water ประสบความสำเร็จอย่างสูง เนื่องจากมีลูกค้าเข้ามารับบริการตามเป้าหมาย ทั้งยังได้รับการติดต่อจากผู้ประกอยการที่เป็นลูกค้าขอใช้น้ำเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี ซึ่งจากเดิมมี 12 รายในปี 2537 เพิ่มเป็น 26 รายในปัจจุบันและมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ดังนี้
เส้นทางหนองค้อ-แหลมฉบัง-พัทยา-บางพระ ประกอบด้วย การนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง, บริษัทไทยซีอาร์ที จำกัด, บริษัทเหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน), การประปาแหลมฉบัง, การประปา พัทยา-นาเกลือ, บริษัทสหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน), การประปาชลบุรี, บริษัทยูเอ็มซี เม็ททอล จำกัด, บริษัทยูเนียนฟาร์ม จำกัด, บริษัทศรีราชาฟาร์ม จำกัด, บริษัทปิ่นทองอินดัสเตรียลปาร์ค จำกัด และบริษัทผลิตไฟฟ้าอิสระ ประเทศไทย จำกัด
เส้นท่อดอกราย-มาบตาพุด-สัตหีบ ประกอบด้วย การนิคมอุตสาหกรรมาบตาพุด, การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย, บริษัทผลิตไฟฟ้าระยอง จำกัด, บริษัทสยามอุตสาหกรรมการเกษตร สับปะรดและอื่นๆ จำกัด (มหาชน), บริษัทเอสเอสพีพร็อบเพอร์ตี้ จำกัด, สถานีอนามัยตำบลนิคมพัฒนา, การประปาบ้านฉาง, บริษัทเหล็กบูรพาอุตสาหกรรม จำกัด, โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์, บริษัทเอเพ็คปิโตรเคมีคอล จำกัด, บริษัทอีสเทิร์น อินดันเตรียลเอสเตท จำกัด, บริษัทระยองที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด และบริษัท สัมปะหลังพัฒนาจำกัด
อีสวอเตอร์ มีผลประกอบการที่สูงขึ้นตลอดเวลาที่ดำเนินงานมากว่า 3 ปี ซึ่งไม่ได้มาจากการปรับขึ้นราคาค่าน้ำ แต่เป็นผลสืบเนื่องมาจากความสามารถในการควบคุมการบริหารงาน เช่น การกำหนดเวลาใช้กระแสไฟ การควบคุมจำนวนพนักงาน การลดปริมาณน้ำเสียในเส้นท่อ เป็นต้น
ตลอดระยะเวลาที่ดำเนินงานผ่านมา อีสวอเตอร์มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งถึงผลปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพอันสร้างความสนใจแก่นักลงทุนทั้งจากภายในประเทศและต่างประเทศ ประกอบกับการเป็นองค์กรที่บริหารงานด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานเช่นเดียวกันการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) และองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ทศท.) แต่แตกต่างกันที่ระบบการทำงานในรูปแบบของบริษัทเอกชน จึงช่วยลดขั้นตอนการปฏิบัติงานได้อย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ทันต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี--จบ--