-- ผลการศึกษาระยะเวลาหนึ่งปีจาก GARFIELD-AF Registry แสดงให้เห็นว่า ความไร้ประสิทธิภาพในการควบคุม VKA และระดับความเสี่ยงที่สูงนั้น เป็นปัจจัยเพิ่มอัตราการเสียชีวิตและการเกิดโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิด AF --
ข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงจากผู้ป่วยเกือบ 17,200 รายที่ได้ลงทะเบียนในการวิจัย Global Anticoagulant Registry in the Field - Atrial Fibrillation (GARFIELD-AF) ยืนยันว่า ความล้มเหลวในการควบคุมการแข็งตัวของเลือดด้วยสารต้านวิตามินเค (VKA) และระดับความเสี่ยงที่สูงนั้น มีความเกี่ยวเนื่องกับแนวโน้มการเสียชีวิตและการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ในผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะ AF ชนิดที่ไม่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของลิ้นหัวใจ (non-valvular) ผลการค้นพบเหล่านี้ได้รับการเปิดเผยในการกล่าวนำเสนอสองรอบที่การประชุม 2015 Congress of the International Society on Thrombosis and Haemostasis (ISTH) ในวันนี้
“ผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะในการวิจัย GARFIELD-AF Registry ต่างต้องรับมือกับภาระอันหนักหน่วงของโรค ในช่วงหนึ่งปีแรกหลังจากที่ได้รับวินิจฉัย” ศาสตราจารย์อาเจย์ คัคคาร์ ศาสตราจารย์ประจำภาควิชาศัลยศาสตร์แห่ง University College London และผู้อำนวยการสถาบัน Thrombosis Research Institute กล่าว “ข้อมูลที่เพิ่งได้รับการนำเสนอจากการวิจัย GARFIELD-AF นั้น ได้เน้นย้ำให้เห็นถึงประโยชน์ของการควบคุมการแข็งตัวของเลือดอย่างมีประสิทธิภาพในผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่มีคุณสมบัติเหมาะสม”
การกล่าวนำเสนอในการประชุม ISTH ประกอบไปด้วย:
การประเมินความเสี่ยง (Risk Profile) และผลการศึกษาระยะเวลาหนึ่งปี ของผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ: ผลลัพธ์จาก GARFIELD-AF
ศักยภาพของการควบคุมสารต้านวิตามินเคและผลการศึกษาระยะเวลาหนึ่งปี: ภาพรวมทั่วโลกจาก GARFIELD-AF
รายงานวิเคราะห์ GARFIELD-AF ใหม่เหล่านี้ อ้างอิงกับข้อมูลจาก Cohorts 1 และ 2 ซึ่งประกอบไปด้วยผู้ป่วยทั้งสิ้น 17,168 รายที่ลงชื่อสมัครระหว่างปี 2553 และ 2556
GARFIELD-AF เป็นโครงการวิจัยเชิงวิชาการอิสระที่ริเริ่มโดยคณะกรรมการกำกับดูแลระหว่างประเทศชุดหนึ่งซึ่งอยู่ในการอุปถัมภ์ของ Thrombosis Research Institute (TRI) ในลอนดอน สหราชอาณาจักร ปัจจุบัน GARFIELD-AF รับผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิด AF จำนวนกว่า 40,000 รายใน 35 ประเทศ ส่งผลให้โครงการนี้เป็นหนึ่งในการศึกษาเชิงสังเกตที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการรักษาโรคนี้ และด้วยเหตุที่การรับสมัครผู้ป่วยเข้าร่วมโครงการ Cohort 5 กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ในที่สุดการศึกษานี้จะมีจำนวนผู้ป่วยรวมถึง 57,000 คน
ความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับภาวะ AF นั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่รวบรวมได้จากการทดลองทางคลินิกที่มีกลุ่มควบคุม ทั้งนี้ แม้การประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของแนวทางการรักษาใหม่ๆจะมีความจำเป็น แต่การทดลองเหล่านี้ไม่ถือเป็นแนวทางปฏิบัติการวิจัยประจำวัน และดังนั้น จึงยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการจัดการโรคและภาระของโรคในชีวิตจริง GARFIELD-AF จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลกระทบจากการใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดต่อการเกิดเลือดออกและลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดที่พบในผู้ป่วยกลุ่มนี้ รวมทั้งช่วยให้ตัวแทนและกลุ่มผู้ป่วยที่มีความหลากหลายและประชากรที่แตกต่างกันสามารถเข้าใจได้ดียิ่งขึ้นถึงโอกาสที่เป็นไปได้ในการพัฒนาการรักษาและผลลัพธ์ทางคลินิก การศึกษาวิจัยนี้จะช่วยให้แพทย์และระบบบริการสุขภาพนำเอานวัตกรรมมาใช้อย่างเหมาะสมเพื่อรับประกันผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยและประชากร
โครงการ GARFIELD-AF เริ่มต้นขึ้นในเดือนธันวาคม 2552 โดยประกอบด้วยสี่โครงสร้างหลักที่จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าคำอธิบายภาวะ AF จากตัวแทนที่เข้าร่วมโครงการนั้นจะมีความครอบคลุม สำหรับโครงสร้างหลักดังกล่าวประกอบไปด้วย:
- การวิจัยต่อเนื่อง 5 รุ่น, ผู้ป่วยรายใหม่ที่เพิ่งวินิจฉัยพบ, การอำนวยความสะดวกในการเปรียบเทียบตามช่วงระยะเวลาที่ชัดเจน และการอธิบายวิวัฒนาการของการรักษาและผลลัพธ์
- สถานที่ของผู้ตรวจสอบที่ได้รับเลือกแบบสุ่ม ภายในสภาพแวดล้อมการรักษาภาวะ AF ในประเทศที่กำหนดอย่างระมัดระวัง เพื่อรับประกันว่าผู้ป่วยที่ลงทะเบียนจะได้เป็นตัวแทน
- การลงทะเบียนผู้ป่วยที่มีคุณสมบัติเหมาะสมอย่างต่อเนื่องโดยไม่คำนึงถึงการรักษา เพื่อขจัดอคติในการคัดเลือก
- ติดตามข้อมูลที่ได้รับเป็นระยะเวลา 2-8 ปีภายหลังการวินิจฉัย เพื่อสร้างฐานข้อมูลที่ครอบคลุมสำหรับการตัดสินใจรักษาและผลลัพธ์ในแนวทางปฏิบัติการวิจัยประจำวัน
ผู้ป่วยที่เข้าร่วมโครงการต้องได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิด AF ที่ไม่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของลิ้นหัวใจ (non-valvular) ภายในหกสัปดาห์ก่อนที่จะเข้าร่วม และต้องมีปัจจัยเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มอย่างน้อยหนึ่งปัจจัย เช่น ผู้ป่วยอยู่ในกลุ่มที่มีความเป็นไปได้ที่จะได้รับการรักษาด้วยยาต้านการแข็งตัวของเลือดเพื่อป้องกันเลือดจับตัวเป็นก้อนอันเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดสมอง โดยการระบุปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยนั้นขึ้นอยู่กับผู้ตรวจสอบ ซึ่งไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่ที่คะแนนความเสี่ยงที่เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ผู้ป่วยอาจจะได้รับการรักษาด้วยยาต้านการแข็งตัวของเลือดหรือไม่ก็ตาม ดังนั้นกลยุทธ์และความล้มเหลวในการรักษาในปัจจุบันและอนาคตจึงสามารถเข้าใจได้อย่างเหมาะสมตามการประเมินความเสี่ยงของผู้ป่วยแต่ละราย
โครงการ GARFIELD-AF Registry ได้รับการสนับสนุนโดยเงินทุนวิจัยจาก Bayer Pharma AG ซึ่งไม่มีข้อจำกัดหรือผูกมัด
ภาระของโรค AF
ทั่วโลกมีผู้ที่ป่วยด้วยโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิด AF สูงถึง 2%[2] เป็นผู้ป่วยในยุโรปประมาณ 6 ล้านคน[3] ในสหรัฐ 3-5 ล้านคน [4][5] และในจีนถึง 8 ล้านคน[6][7] มีการประมาณการกันว่าจะมีผู้ป่วยด้วยโรคนี้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยสองเท่าภายในปี 2593 ตามอายุที่เพิ่มขึ้นของประชากร ภาวะ AF ทำให้ความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้นห้าเท่า และหนึ่งในห้าของโรคหลอดเลือดสมองทั้งหมดมีสาเหตุมาจากโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะประเภทนี้ บ่อยครั้งที่ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองจากภาวะ AF จะถึงแก่ชีวิต และในกรณีที่ไม่เสียชีวิต ผู้ป่วยมีโอกาสที่จะพิการสูงกว่าผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองจากสาเหตุอื่นๆ และมีโอกาสพิการในระดับที่รุนแรงกว่า นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มกลับมาเป็นโรคสูงกว่าผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอันเนื่องมาจากสาเหตุอื่นๆด้วย ดังนั้น ความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองจากภาวะ AF จึงมากกว่าถึงสองเท่า ขณะที่ค่ารักษาเพิ่มขึ้น 50%[8]
โรค AF เกิดขึ้นเมื่อหัวใจห้องบนปล่อยสัญญาณไฟฟ้าที่ไม่เข้ากัน ทำให้หัวใจห้องบนเต้นเร็วเกินไปและไม่เป็นจังหวะ ทำให้เลือดสูบฉีดไม่สมบูรณ์[9] ดังนั้น เลือดจึงสะสม จับตัวเป็นลิ่ม และทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุโรคหัวใจที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในโลก[10] หากลิ่มเลือดหลุดออกจากหัวใจห้องบน ลิ่มเลือดอาจไปอุดกั้นหลอดเลือดแดงตามส่วนต่างๆของร่างกาย ซึ่งรวมถึงสมอง ลิ่มเลือดในหลอดเลือดแดงในสมองอาจทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง โดย 92% ของการเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดสมองมีสาเหตุมาจากภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด[10] ผู้ที่มีภาวะ AF ยังมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว อ่อนเพลียเรื้อรัง และปัญหาการเต้นของหัวใจแบบอื่นๆ[11] โรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เสียชีวิตและทุพพลภาพระยะยาวในทั่วโลก โดยในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคนี้ 6.7 ล้านคน[12] และพิการตลอดชีวิต 5 ล้านคน[13]
Cryoablation เป็นเทคนิคการรักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่ทันสมัยและปลอดภัย โดยเฉพาะภาวะหัวใจห้องบนเต้นพลิ้ว (Atrial Fibrillation หรือ AF) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง ด้วยการใช้พลังงานความเย็นระหว่าง -40 ถึง -60 องศาเซลเซียส ทำลายเนื้อเยื่อหัวใจที่ทำให้เกิดการส่งสัญญาณไฟฟ้าผิดปกติ แพทย์จะใช้สายสวนพิเศษในการนำความเย็นไปทำลายเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจที่ทำให้เกิดการเต้นผิดจังหวะ ช่วยให้หัวใจกลับมาเต้นเป็นจังหวะปกติ ข้อดีของการจี้ไฟฟ้าหัวใจด้วยบอลลูนเย็น ผลการรักษาดี Cryoablation
เตือน! หัวใจไม่เคยหยุดพัก AF Awareness Month 2023 AF ภาวะหัวใจห้องบนเต้นพลิ้ว ภัยเงียบที่อาจถึงชีวิต
—
เดือนกันยายนของทุกปี เป็น AF Awareness Month หรือเด...
เมื่อหัวใจสั่นพลิ้ว ชีวิตไม่ชิลล์แน่นอน
—
เมื่อหัวใจสั่นพลิ้ว ชีวิตไม่ชิลล์แน่นอน ถ้าคุณมีอาการหัวใจสั่นพลิ้ว คุณจะไม่สนุกเหมือนได้เต้นพลิ้วไปตาม...