กรีน เยลโล่ และเนสท์เล่ (ไทย) เดินหน้าสร้างอนาคตที่ยั่งยืน เปิดตัวโครงการโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ที่สุดของเนสท์เล่ในไทย มุ่งลดการปล่อยคาร์บอนกว่า 2,000 ตันต่อปี

10 Oct 2024

กรีน เยลโล่ ผู้ลงทุนและดำเนินงานระดับโลกด้านการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ และการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน จัดพิธีเปิดโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar PPA) กับ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เพื่อลงทุน ติดตั้ง และดูแลระบบโซลาร์เซลล์ขนาด 3.2 MWp ที่โรงงานผลิตน้ำดื่มของเนสท์เล่ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งโครงการดังกล่าวนับเป็นโครงการโซลาร์เซลล์ที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาโครงการติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่โรงงานทุกแห่งของเนสท์เล่ ในประเทศไทย ความร่วมมือครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการเดินหน้าสู่ความยั่งยืนของเนสท์เล่ ผ่านความร่วมมือกับ กรีน เยลโล่ ในการใช้พลังงานสะอาดในกระบวนการผลิตของบริษัท

กรีน เยลโล่ และเนสท์เล่ (ไทย) เดินหน้าสร้างอนาคตที่ยั่งยืน เปิดตัวโครงการโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ที่สุดของเนสท์เล่ในไทย มุ่งลดการปล่อยคาร์บอนกว่า 2,000 ตันต่อปี

พิธีเปิดโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์นี้ถือเป็นก้าวแรกของการเดินหน้าโครงการนวัตกรรมด้านพลังงานที่ล้ำสมัย โดยจะเป็นการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ทั้งแบบบนพื้นดินและบนอาคารจอดรถ ที่โรงงานผลิตน้ำดื่มของเนสท์เล่ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในการติดตั้งและประสิทธิภาพของเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ในปัจจุบัน

ด้วยการติดตั้งโซลาร์เซลล์ขนาด 3.2 MWp โครงการโซลาร์เซลล์นี้จะสามารถผลิตพลังงานสะอาดได้ถึง 4.5 GWh ต่อปี และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่า 2,000 ตันต่อปีตลอดระยะเวลา 20 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของ กรีน เยลโล่ และเนสท์เล่ ในการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อลดการปล่อยคาร์บอน และบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปีพ.ศ. 2593

"เรามีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับเนสท์เล่ (ไทย) ในการเดินหน้าโครงการโซลาร์เซลล์ที่ล้ำสมัยนี้" คุณ แฟรงค์ คลุค ซีอีโอของ กรีน เยลโล่ ในประเทศไทยและเอเชีย กล่าว "ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ แต่ยังเป็นตัวอย่างที่ดีในการส่งเสริมด้านความยั่งยืนในภูมิภาคนี้ และในฐานะผู้นำโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมด้านพลังงานสะอาด กรีน เยลโล่ มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง ซึ่งโครงการนี้นับเป็นอีกหนึ่งเครื่องพิสูจน์ถึงความเชี่ยวชาญและความมุ่งมั่นของเรา"

"ความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการเดินหน้าสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืนของเนสท์เล่" คุณ ฟิลิปป์ เกลาเซอร์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายเทคนิคและอุตสาหกรรมการผลิต เนสท์เล่ อินโดไชน่า กล่าว "ที่เนสท์เล่ เรามีความมุ่งมั่นที่จะใช้พลังงานทดแทน 100% ในโรงงานผลิตของเราทุกแห่งภายในปี พ.ศ. 2568 ซึ่งการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในกระบวนการผลิตน้ำดื่มของเรา ร่วมกับ กรีน เยลโล่ ในครั้งนี้ จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมความอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรม นอกจากการเปลี่ยนมาใช้พลังงานทดแทนแล้ว เนสท์เล่ยังได้ดำเนินโครงการประหยัดพลังงานอื่น ๆ อีกหลากหลายโครงการ ซึ่งรวมไปถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักรที่มีอยู่ และการออกแบบกระบวนการผลิตเพื่อให้ประหยัดพลังงานได้มากยิ่งขึ้น"

ในฐานะพันธมิตรด้านพลังงานของเนสท์เล่ กรีน เยลโล่ มุ่งมั่นที่จะส่งมอบโซลูชันที่ทันสมัยเพื่อช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพด้านพลังงานสะอาด ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของเนสท์เล่ และโครงการนี้ยังแสดงให้เห็นถึงประโยชน์จากความร่วมมือระหว่างสององค์กรต่อการส่งเสริมด้านการใช้พลังงานทดแทนและการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน

ธุรกิจของ กรีน เยลโล่ คือการให้บริการโซลูชันด้านพลังงานอย่างครบวงจร นับตั้งแต่การลงทุนและการออกแบบ ไปจนถึงการขอใบอนุญาต การติดตั้ง การดำเนินงาน การตรวจสอบ และการบำรุงรักษา ผ่านโซลูชัน Solar PPA (Power Purchase Agreement) ที่ได้มีการออกแบบบริการโซลูชันให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันออกไปโดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม นอกจากนี้ เป้าหมายของ กรีน เยลโล่ ยังเป็นไปในทิศทางเดียวกับเป้าหมายของรัฐบาลไทยในการเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี พ.ศ. 2593 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปีพ.ศ. 2608 อีกด้วย