2024 นี้ เพียงแค่ใช้ JR East Pass การไปดูใบไม้เปลี่ยนสีที่โทโฮคุก็ง่ายขึ้น

23 Aug 2024

ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีกำลังจะกลับมาเยือนประเทศญี่ปุ่นในอีกไม่ช้า ทิวทัศน์สีเขียวสดใสประจำฤดูร้อนจะแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงแห่งฤดูใบไม้ร่วง ประเทศญี่ปุ่นมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายที่รอเราไปสัมผัสกับประวัติศาสตร์และธรรมชาติสวยๆ และในครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปท่องในดินแดนของภูมิภาคโทโฮคุ พร้อมกับแนะนำจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี 6 แห่งที่ทุกคนสามารถเดินทางไปได้ง่ายๆ ในราคาสุดคุ้มกับ JR EAST PASS

2024 นี้ เพียงแค่ใช้ JR East Pass การไปดูใบไม้เปลี่ยนสีที่โทโฮคุก็ง่ายขึ้น

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีแนะนำจุดที่ 1: วัดเอนสึอิน จังหวัดมิยางิ (EntsuinTemple)

วัดเอนสึอินเป็นวัดประจำตระกูลของดาเตะ มิตสึมุเนะ หลานชายของไดเมียวผู้มีชื่อเสียงจากยุคเซนโกคุ ดาเตะ มาซามุเนะ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงต้นไม้ในสวนหินของวัดจะเปลี่ยนเป็นสีสันสดใส ตอนกลางคืนมีงานประดับไฟ ให้บรรยากาศชวนฝันแตกต่างจากตอนกลางวันไปอีกแบบ

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีแนะนำจุดที่ 2: ถนนโจเซ็นจิ จังหวัดมิยางิ

ถนนโจเซ็นจิในเมืองเซ็นได จังหวัดมิยางิ เป็นถนนสายหลักที่รายล้อมด้วยร้านค้ามากมาย มีจุดเด่นเป็นต้นเซลโควาญี่ปุ่นที่ทอดยาวออกไปถึง 700 เมตร นอกจากถ่ายรูปที่ถนนโจเซ็นจิแล้วเรายังสามารถเดินช็อปปิงยาวๆ ได้ที่ถนนคลิสโร้ด (Clis Road) และก่อนกลับเข้าโรงแรมสามารถซื้อของฝากชื่อดังของเซ็นไดได้ที่ S-PAL SENDAI ซึ่งเป็นศูนย์การค้าที่เชื่อมต่อกับสถานีเซ็นได

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีแนะนำจุดที่ 3 : ช่องเขาเกบิเค จังหวัดอิวาเตะ

ช่องเขาเกบิเคมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี และเป็นช่องเขาหินขนาดใหญ่ที่เราสามารถเพลิดเพลินไปกับเสน่ห์ของทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีและแม่น้ำได้ในคราวเดียว ขณะล่องเรือที่นี่ คนพายเรือจะร้องเพลงพื้นบ้านคลอไปตลอดทาง นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นแห่งเดียวในประเทศญี่ปุ่นที่ใช้เรือถ่อด้วยไม้พายเพียงเล่มเดียวโดยไม่ใช้เครื่องยนต์

การเดินทาง: นั่งรถไฟโทโฮคุชินคันเซ็น (Tohoku Shinkansen) จากสถานีเซ็นไดมาลงที่สถานีอิชิโนะเซกิ (Ichinoseki) จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสายโอฟุนาโตะ (Ofunato Line) ที่สถานีอิชิโนะเซกิ (Ichinoseki) แล้วลงที่สถานีเกบิเค (Geibikei) เดินอีก 7 นาที

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีแนะนำจุดที่ 4 : สวนสาธารณะซากปราสาทโมริโอกะ จังหวัดอิวาเตะ

ล่องเรือเสร็จแล้วก็ไปกันต่อที่สวนสาธารณะซากปราสาทโมริโอกะ ปัจจุบันปราสาทโมริโอกะได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของประเทศ และติด 1 ใน 100 อันดับปราสาทชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น ที่นี่เหมาะเป็นสถานที่มาเดินเล่นเพลินๆ สีแดงของฤดูใบไม้ร่วงเมื่อตัดกับสีกำแพงหินเกิดเป็นทัศนียภาพที่น่าดูชมอย่างหนึ่งเลยค่ะ

การเดินทาง: จากสถานีอิชิโนะเซกิ (Ichinoseki) ให้ขึ้นรถไฟโทโฮคุชินคันเซ็นมาลงที่สถานีโมริโอกะ (Morioka) (ประมาณ 40 นาที) จากนั้นขึ้นรถบัสหมุนเวียนใจกลางเมืองโมริโอกะ "เดนเดนมุชิ (Den Den Mushi)" มาลงที่ป้ายสวนสาธารณะซากปราสาทโมริโอกะ (ประมาณ 6 นาที) แล้วเดินอีก 1 นาที

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีแนะนำจุดที่ 5 : ปราสาทฮิโรซากิ จังหวัดอาโอโมริ

มุ่งหน้าไปกันต่อที่ปราสาทฮิโรซากิซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่นในแบบที่หาที่ไหนไม่ได้ ปราสาทเก่าแก่ที่โอบล้อมไปด้วยใบไม้สีแดงสลับส้ม พอได้ธารน้ำใสเล็กๆ มาเติมเต็มยิ่งทำให้บรรยากาศโดยรอบสมบูรณ์แบบ และที่พลาดไม่ได้เลยคืองานประดับไฟในช่วงปลายเดือนตุลาคม ไฟสวยๆ ทำให้ทัศนียภาพตรงหน้าตระการตายิ่งกว่าเดิมอีกค่ะ

การเดินทาง : ขึ้นรถไฟโทโฮคุ ชินคันเซ็น (Tohoku Shinkansen) จากสถานีโมริโอกะ (Morioka) และลงที่สถานีชินอาโอโมริ (Shin-Aomori) (ประมาณ 1 ชั่วโมง) จากนั้นเปลี่ยนเป็นสายหลักโออุ (Ou Main Line) และลงที่สถานีฮิโรซากิ (Hirosaki) (ประมาณ 47 นาที) จากสถานีฮิโรซากิให้ขึ้นรถบัสท่องเที่ยวภายในเมืองฮิโรซากิ 100 เยน (Hirosaki City 100 yen Loop Bus, ??????100???) แล้วลงที่ป้ายชิยาคุโชมาเอะ (Shiyakusho-Mae) (ประมาณ 15 นาที) แล้วเดิน (ประมาณ 4 นาที)

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีแนะนำจุดที่ 6 : ภูเขาฮักโกดะ จังหวัดอาโอโมริ

ภูเขาฮักโกดะเป็นกลุ่มภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ใจกลางจังหวัดอาโอโมริ และเป็นหนึ่งใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ทิวทัศน์แบบพาโนรามา 360 องศาที่มองออกมาจากกระเช้าลอยฟ้าฮักโกดะจะสร้างความตระการตาในแบบที่หาที่ไหนไม่ได้ หากมาวันที่สภาพอากาศแจ่มใสเราจะสามารถมองได้ไกลไปจนถึงจังหวัดฮอกไกโดเลยค่ะ

หากต้องการเดินทางกลับโตเกียว จากสถานีอาโอโมริ ให้นั่งรถไฟสายหลักโออุ (Ou main Line) กลับไปที่สถานีชิน-อาโอโมริ (ประมาณ 5 นาที) จากนั้นนั่งรถไฟโทโฮคุชินคันเซ็นฮายาบุสะ (Tohoku Shinkansen Hayabusa) ไปยังสถานีโตเกียว (เร็วที่สุด 2 ชั่วโมง 58 นาที)

ในครั้งนี้ เราได้แนะนำเส้นทางการท่องเที่ยวฤดูใบไม้ร่วงในภูมิภาคโทโฮคุซึ่งจะพาทุกคนไปสัมผัสกับความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีและวัฒนธรรมอันเก่าแก่ไปแล้ว

อย่าลืมมาเพลิดเพลินไปกับเส้นทางท่องเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ร่วงด้วย JR EAST PASS ซึ่งสะดวกและราคาไม่แพงสำหรับการท่องเที่ยวในพื้นที่โทโฮคุกันนะคะ

เที่ยวโทโฮคุสุดคุ้มกับ "JR EAST PASS (Tohoku area)"

ท่องเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุสุดคุ้มด้วย JR EAST PASS (โทโฮคุ) ค่าโดยสารสำหรับผู้ใหญ่ 30,000 เยน และเด็ก 15,000 เยน โดยสามารถใช้บริการจองที่นั่งทั้งชินคันเซ็นและรถไฟด่วนพิเศษอย่างไม่จำกัดรอบในระยะเวลา 5 วันที่กำหนด

คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียด: https://www.jreast.co.jp/multi/pass/eastpass_t.html

สะดวกยิ่งขึ้นด้วยระบบการจองใหม่ "JR-EAST Train Reservation"

ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2021 ระบบจองตั๋วออนไลน์ JR East ได้ถูกนำมาปรับปรุงใหม่อีกครั้ง ทำให้การซื้อตั๋วง่ายยิ่งขึ้นระบบนี้อำนวยความสะดวก ในส่วนของการซื้อตั๋ว และจองที่นั่งก่อนเดินทางมายังประเทศญี่ปุ่นได้

จากนั้นจึงค่อยมาออกตั๋วที่ตู้จำหน่ายก่อนขึ้นรถไฟการลงทะเบียน ไม่มีค่าใช้จ่ายและสามารถใช้ได้ตั้งแต่วันที่ลงทะเบียน สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับบริการจองโปรดศึกษาจากคู่มือผู้ใช้ User Guide ของ JR-EAST Train Reservation https://www.eki-net.com/top/tr/guide/service/