โบลท์ ร่วมฉลองวันปลอดรถโลก พร้อมการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของหมวดรถยนต์ไฟฟ้า (EV)
- โบลท์เผยตัวเลขจำนวนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในหมวด Green ที่ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ด้วยอัตราการเติบโตกว่า 257.5%
- รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของโบลท์ มีระยะทางสะสมรวมกว่า 4.51 ล้านกิโลเมตร เทียบเท่ากับการเดินทางรอบโลกที่เส้นศูนย์สูตรถึง 112 รอบ
- การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเหล่านี้บนแพลตฟอร์มของโบลท์ สอดคล้องกับผลวิจัยล่าสุดของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) และบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor)
เนื่องในโอกาสวันปลอดรถโลก (World Car Free Day) เดือนกันยายนนี้ โบลท์ภูมิใจนำเสนอการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในหมวดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการส่งเสริมการเดินทางแบบปลอดมลพิษในเมือง ความสำเร็จนี้สอดคล้องกับเทรนด์โลกที่ส่งเสริมการลดการพึ่งพายานพาหนะที่ใช้น้ำมันแบบดั้งเดิมและสนับสนุนการเดินทางที่สะอาดยิ่งขึ้น
ในเดือนสิงหาคม 2567 โบลท์ได้เห็นการใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าประทับใจในหมวด Green ด้วยอัตราการเติบโตที่สูงถึง 257.5% การเพิ่มขึ้นของจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้งานสะท้อนถึงแนวโน้มที่ชัดเจนของผู้ใช้บริการโบลท์ในการเลือกใช้การเดินทางที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ รถยนต์ไฟฟ้าของโบลท์เดินทางรวมแล้วกว่า 4.51 ล้านกิโลเมตร เทียบเท่ากับการเดินทางรอบโลกที่เส้นศูนย์สูตรถึง 112 รอบ ความสำเร็จนี้ไม่เพียงแต่ตอกย้ำความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น แต่ยังมีส่วนช่วยลดการปล่อยคาร์บอนและทำให้อากาศในเมืองบริสุทธิ์ขึ้น
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเหล่านี้สอดคล้องกับผลการวิจัยล่าสุดจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) และบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor) ซึ่งเผยรายงานให้เห็นว่า ต้นทุนเชื้อเพลิงที่ต่ำกว่าของรถยนต์ไฟฟ้าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนไทยหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น จากการสำรวจพบว่า 34.1% ของผู้ที่เปลี่ยนมาใช้รถ EV ระบุว่าต้นทุนเชื้อเพลิงที่ต่ำกว่าเป็นเหตุผลหลัก ในขณะเดียวกัน 81.3% ของผู้ใช้รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปแสดงความสนใจที่จะเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า และ 89.4% ระบุว่าต้นทุนเชื้อเพลิงที่ต่ำกว่าคือแรงจูงใจหลัก
ณัฐดนย์ สุขศิริฐานันท์ ผู้จัดการประจำโบลท์ ประเทศไทย กล่าวว่า "ในโอกาสวันปลอดรถโลก เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นการเติบโตอย่างมากในหมวด Green ของโบลท์ แม้ว่าการลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวทั้งหมดจะถือเป็นเป้าหมายระยะยาว แต่ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะนำพาเราไปสู่อนาคตที่สะอาดและปลอดมลพิษมากขึ้น ความสำเร็จนี้สะท้อนให้เห็นถึงการตระหนักรู้ของผู้ใช้บริการที่หันมาเลือกการเดินทางแบบใช้พลังงานไฟฟ้าและไฮบริด อีกทั้งยังชี้ให้เห็นถึงความพร้อมของคนไทยที่ไม่เพียงแต่เลือกใช้ทางเลือกที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ แต่ยังสนับสนุนการใช้บริการเดินทางแบบร่วมกัน (Shared Mobility) มากขึ้นอย่างชัดเจน แนวโน้มนี้บ่งชี้ถึงศักยภาพในการเติบโตของบริการเดินทางแบบร่วมกัน และตอกย้ำความต้องการทางเลือกการเดินทางที่หลากหลายและเข้าถึงได้ง่าย เรายังคงมุ่งมั่นในการขยายโครงการปลอดมลพิษอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มทางเลือกการเดินทางที่ปล่อยคาร์บอนต่ำรวมถึงทางเลือกไฮบริดสำหรับการขนส่งในเมือง และยังคงสื่อสารกับผู้ขับขี่เพื่อทำความเข้าใจถึงความท้าทายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานและต้นทุนของรถยนต์ไฟฟ้า"
ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นที่ชัดเจนที่จะลดการปล่อยคาร์บอนหรือก๊าซเรือนกระจกในภาคพลังงานและการขนส่งลง 7-20% จากระดับปกติ โดยตั้งเป้าหมายลดลงให้ได้ 20-25% ภายในปี 2573 ข้อมูลในปี 2566 ระบุว่ามีรถยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนมากกว่า 75,000 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 18.4% เมื่อเทียบกับปี 2548 และในช่วงต้นปี 2567 มีการจดทะเบียนเพิ่มขึ้นอีก 11.6% เมื่อเทียบกับปี 2566 ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี (TTB Analytics) ระบุว่าอัตราการใช้งานรถ EV ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาจากค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงที่ถูกกว่ารถสันดาปภายในหรือไฮบริดถึง 59-67% สะท้อนถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นในหมู่ผู้ใช้ชาวไทยที่หันมาเลือกใช้ยานพาหนะไฟฟ้ามากขึ้น
หมวด Green ของโบลท์ เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการขนส่งในเมือง ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่เลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของโบลท์ในการสร้างเมืองที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น ด้วยทางเลือกการเดินทางที่ประหยัดและใช้พลังงานสะอาด
โบลท์ยังคงมุ่งมั่นในการขยายหมวดรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด รวมถึงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนการขนส่งในเมืองที่ปลอดมลพิษอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่อนาคตที่ปลอดการปล่อยมลพิษ สร้างเมืองที่สะอาดยิ่งขึ้น พร้อมกับส่งเสริมการขนส่งอย่างยั่งยืน
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดการอบรมหลักสูตร"ผู้บริหารระดับสูงด้านเศรษฐกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม" หรือ NIDA Bio Circular Green Economy Executive Program (NIDA BCG) จัดโดย เวฟ บีซีจี (Wave BCG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ.เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล ร่วมกับสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) โดยมีนายถิรพงศ์ คำเรืองฤทธิ์ (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล หรือ (WAVE) และรศ. ดร.ดนุวัศ สาคริก (ซ้าย) รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะรัฐประศาสนศาสตร์
กสิกรไทยร่วม COP29 ผลักดันความมุ่งมั่นด้านสภาพภูมิอากาศของไทย หนุนใช้นวัตกรรมการเงินและการจัดการคาร์บอน
—
ดร.กรินทร์ บุญเลิศวณิชย์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร...
บางจากฯ แบ่งปันแนวคิดการจัดการงานสื่อสาร แนวคิดการบริหารธุรกิจอย่างมีสมดุล เพื่อความยั่งยืน
—
นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยื...
สอวช. จับมือ NIDA ปลุกปั้น Festival ไทยให้รู้จักไปทั่วโลก ยกประเพณีสงกรานต์ 67 เป็นกรณีศึกษา หลังเงินสะพัด 1.4 แสนล้าน
—
สอวช. จับมือ NIDA ปลุกปั้น Festiv...
โบลท์ (Bolt) เผยสถิติ คนไทยมีแนวโน้มหันมาเลือกการเดินทางแบบปลอดมลพิษมากขึ้น
—
โบลท์ ร่วมฉลองวันปลอดรถโลก พร้อมการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของหมวดรถยนต์ไฟฟ้า (...
สายสีแดง เผยผลสำรวจความพึงพอใจผู้โดยสาร ครึ่งปีหลัง 2567 ผู้โดยสารเชื่อมั่นคุณภาพงานบริการ และความปลอดภัยเป็นอย่างมาก
—
นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนว...
ไทยเครดิต SME กล้าให้ ตอกย้ำจุดยืน STANDBY จัดอบรมหลักสูตร Micro MBA รุ่นที่ 1 เสริมแกร่งศักยภาพเจ้าของธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี
—
ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน...
SME D Bank รับรางวัล Silver Award ประจำปี 2566 'นวัตกรรมตอบโจทย์การบริหารจัดการและพัฒนาบุคลากร' ต้นแบบภาครัฐ-เอกชน
—
นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัด...
PHOL เปิดบ้านต้อนรับนักศึกษาปริญญาตรีควบโท วิศวกรรมการเงิน KMITL-NIDA เยี่ยมชมบริษัท
—
บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) หรือ PHOL ผู้ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายสิน...