54% ของผู้บริโภคคำนึงถึงอนาคตของโลกเมื่อตัดสินใจเลือกอาหารและผู้บริโภคกว่า 70% เชื่อว่าผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพไม่ควรส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
เต็ดตรา แพ้ค ผู้นำเสนอโซลูชันบรรจุภัณฑ์และกระบวนการผลิตอาหารชั้นนำของโลก เปิดเผยผลการศึกษาจากงานวิจัยระดับโลก เต็ดตรา แพ้ค อินเด็กซ์ 2023 (Tetra Pak Index 2023) จากการสำรวจใน 10 ประเทศโดยบริษัทวิจัยตลาด IPSOS รายงานระบุว่าผู้บริโภคในปัจจุบันมีความจริงจังในการพิจารณาประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับสุขภาพส่วนบุคคลเมื่อเลือกซื้ออาหาร โดยผู้บริโภคที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ที่เรียกกันว่า 'Climatarians' หรือกลุ่มผู้บริโภคเพื่อปกป้องสภาพภูมิอากาศนั้น พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินดื่มของตนเองเพื่อปกป้องสวัสดิภาพของโลก
ตลาดสำหรับอาหารเพื่อสุขภาพได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคเนื่องจากมีความตื่นตัวในการแสวงหาผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพร่างกายมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันมีมุมมองแบบองค์รวมมากขึ้น โดย 70% ของผู้บริโภคเชื่อว่าผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพไม่ควรส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในขณะที่อีก 54% ของผู้บริโภค ยินดีที่จะรับผิดชอบต่อโลกโดยปรับเปลี่ยนมื้ออาหารของตนเพื่อโลกที่น่าอยู่ขึ้น
การให้ความสำคัญกับประเด็นทั้งสองประการนี้สะท้อนจากแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคที่ตั้งใจลดปริมาณการรับประทานเนื้อสัตว์ลง หรือที่เรียกอีกอย่างว่า "ผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติแบบยืดหยุ่น" (flexitarians) โดยมีผู้บริโภคเกือบครึ่งหนึ่งชี้ว่าพวกเขาตั้งใจลดการบริโภคเนื้อสัตว์หรือไม่บริโภคเนื้อสัตว์เลย จากรายงานฉบับนี้พบว่าแนวโน้มในการลดการบริโภคเนื้อสัตว์เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยมีผู้ตอบแบบสำรวจถึง 56% ระบุเหตุผลด้านสุขภาพในการเลือกรับประทานมังสวิรัติแบบยืดหยุ่น (flexitarian) มังสวิรัติปลา (pescatarian) มังสวิรัติแบบเคร่งครัด หรือวีแกน (vegetarian) โดยมากกว่าหนึ่งในสาม (36%) ยังระบุว่าแรงจูงใจหลักมาจากการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ รายงานฉบับนี้ได้เปิดเผยว่าความสะดวกสบายไม่ใช่เรื่องหลักของผู้บริโภคอีกต่อไป จากการเปลี่ยนแปลงทัศนคติดังกล่าวที่หยั่งรากลึกมายาวนาน ได้สะท้อนให้เห็นว่า 70% ของผู้บริโภคยอมสละความสะดวกสบายเพื่อผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ อีกทั้งวิกฤตค่าครองชีพไม่ได้มีผลต่อความมุ่งมั่นเพื่อสุขภาพแต่อย่างใด โดยมีผู้บริโภคเพียง 17% เท่านั้นที่ยอมละเว้นอาหารและเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน และมีการคาดการณ์ว่าเทรนด์การบริโภคเพื่อปกป้องสภาพภูมิอากาศ (climatarian) จะเติบโตขึ้นอีกด้วย เนื่องจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่เกิดขึ้นนั้นเป็นที่รับรู้ในวงกว้าง โดยผู้บริโภคคาดหวังให้ผู้ผลิตอาหารส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ทั้งดีต่อสุขภาพและคำนึงถึงความยั่งยืนควบคู่กันไป
จากรายงานการศึกษาและวิจัยระดับโลกฉบับนี้ เห็นได้ชัดว่าเรื่องสุขภาพยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้บริโภคโดยมีความเชื่อมโยงกับเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ มีประเด็นสำคัญ 3 ประการที่สอดคล้องกับบริบทของประเทศไทย ดังนี้:
คุณสุภนัฐ รัตนทิพ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ในประเทศไทยมีสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดว่าผู้คนหันมาให้ความใส่ใจในการเลือกบริโภคมากขึ้น และในขณะเดียวกันเรากำลังเผชิญหน้ากับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกิดขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคชาวไทยเป็นจำนวนมากตระหนักถึงความสำคัญของปัจจัยเหล่านี้ต่อสุขภาพและความยั่งยืน สิ่งสำคัญอีกประเด็นก็คือการเปลี่ยนแปลงใดๆ นั้นต้องมาพร้อมรสชาติที่สอดคล้องไปกับรสนิยมของผู้บริโภคเสมอ เพราะไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นด้านสุขภาพ หรือใส่ใจความยั่งยืนเพียงใดก็ตาม ผู้บริโภคยังคงต้องการอาหารที่มีรสชาติตรงใจ"
คุณรัตนศิริ ติลกสกุลชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "เต็ดตรา แพ้ค มีการดำเนินงานมาอย่างยาวนานในระดับโลกที่คำนึงถึงการยกระดับความเป็นอยู่ของผู้คน การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการสนับสนุนให้ผู้คนทั่วโลกเข้าถึงอาหารที่ดีต่อสุขภาพได้ง่ายยิ่งขึ้น รายงานเต็ดตรา แพ้ค อินเด็กซ์ ฉบับล่าสุด ได้ย้ำให้เห็นถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่มุมของการนำเสนอปัญหาเร่งด่วน เช่น การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมที่มีความเชื่อมโยงกัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพมากขึ้นเรื่อยๆ"
"บริษัทของเรายังคงมุ่งมั่นดำเนินการต่อไปเพื่อลดปริมาณขยะอาหารและผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ โดยหาวิธีนำส่วนประกอบที่ไม่ได้ถูกนำมาใช้จากกระบวนการการผลิตอาหารกลับมาใช้ใหม่ เดินหน้าสำรวจแหล่งโปรตีนทางเลือก และนำเสนอโซลูชันด้านเทคโนโลยีเพื่อรับมือกับความท้าทายที่เรากำลังเผชิญอยู่ในระบบอาหารทั่วโลกในปัจจุบัน"
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit