วันที่ 8 กันยายน 2566 นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีแรงงานไทยที่ไปทำงานในเกาหลีใต้ประสบอุบัติเหตุจมน้ำเสียชีวิตขณะไปพักผ่อนที่อ่างเก็บน้ำ เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา และแม่ของผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นชาวจังหวัดมหาสารคามขอความช่วยเหลือผ่านสื่อขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือพาศพลูกชายกลับไทย ว่า ผมขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งในส่วนของกระทรวงแรงงานผมได้สั่งการให้ทูตแรงงานที่เกาหลีใต้ประสานกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล เพื่อให้ความช่วยเหลือตามความประสงค์ของญาติอย่างเร่งด่วน นายบุญชอบ กล่าวต่อว่า จากรายงานของ นายนิธิพัฒน์ วัฒนสุวกุล อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งได้ประสานกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล พบว่า ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว จำนวน 2 ราย ทราบชื่อคือ นายทักษ์ศิลป์ พวงสีเคน อายุ 39 ปี และนายวสันติ์ พลกำแหง อายุ 39 ปี ทั้งสองคนเป็นชาวจังหวัดมหาสารคาม เดินทางเข้าไปทำงานในเกาหลีใต้ด้วยวีซ่าท่องเที่ยว ขณะนี้ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล แจ้งว่าได้ติดต่อกับญาติของแรงงานทั้งสองคนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนายประเสริฐศิลป์ พวงสีเคน บิดาของนายทักษ์ศิลป์ พวงสีเคน และนางบุญเหลือ พลกำแหง มารดาของนายวสันติ์ พลกำแหง ได้มอบอำนาจให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล เป็นผู้ดำเนินการส่ง ซึ่งมีกำหนดการส่งศพกลับไทยในวันจันทร์ที่ 11 กันยายนนี้ โดยจะเดินทางด้วยสายการบิน T- way เที่ยวบินที่ TW101 ออกจากสนามบินอินชอน เวลา 20.10 และกลับถึงไทย เวลา 23.55 น.
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสถานะความเป็นผู้ประกันตนของสำนักงานประกันสังคม พบว่า นายทักษ์ศิลป์ พวงสีเคน เคยเป็นผู้ประกันตนและสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนตั้งแต่ปี 2557 ปัจจุบันมีเงินสะสมกรณีชราภาพอยู่ 48,241.08 บาท ยังไม่รวมดอกผล และนายวสันติ์ พลกำแพง เคยเป็นผู้ประกันตนและสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนเมื่อปี 2561 ปัจจุบันมีเงินสะสมกรณีชราภาพอยู่ 54,527.64 ยังไม่รวมดอกผล และจากการตรวจสอบของกรมการจัดหางานพบว่า ทั้งสองคนไม่ได้เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ
นายบุญชอบ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการดำเนินการที่ประเทศไทย ผมได้สั่งการให้แรงงานจังหวัดพร้อมด้วยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เป็นภูมิลำเนาของแรงงานไทยที่เสียชีวิตทั้งสองรายดังกล่าว ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อปลอบขวัญให้กำลังใจพร้อมแจ้งข้อมูลขั้นตอนการให้ความช่วยเหลือให้ญาติทราบทั้งการดูแลอำนวยความสะดวกในการประสานกระทรวงการต่างประเทศเพื่อนำศพกลับ รวมทั้งมอบสิทธิประโยชน์เงินสะสมกรณีชราภาพจากประกันสังคมแก่ทายาทผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำให้แรงงานไทยที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศ ขอให้เดินทางไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันมี 5 วิธี ได้แก่ กรมการจัดหางานจัดส่ง บริษัทจัดหางานจัดส่ง นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างไปทำงานต่างประเทศ นายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างไปฝึกงานต่างประเทศ และคนหางานแจ้งการเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยตนเอง จึงขอแจ้งเตือนไปยังคนหางานที่ประสงค์เดินทางไปทำงานต่างประเทศไปทำงานด้วยวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมาย อย่าหลงเชื่อนายหน้า และขอให้สมัครเป็นสมาชิกเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ เพื่อจะได้รับสิทธิประโยชน์การคุ้มครอง หากประสบอันตราย เสียชีวิต พิการ ทุพพลภาพ หรือประสบปัญหาในต่างประเทศ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit