อายิโนะโมะโต๊ะ ชู "โรงงานกำแพงเพชร" ต้นแบบโรงงานสีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน หนุนพลังงานทดแทน ขับเคลื่อนกระบวนการผลิตรักษ์โลก สู่องค์กรธุรกิจคาร์บอนต่ำ

21 Sep 2022

"อายิโนะโมะโต๊ะ" ขับเคลื่อนยุทธศาสต์ลดโลกร้อน ทุ่มทุนกว่า 1,500 ล้านบาท ก่อสร้าง "โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมจากชีวมวล" เดินหน้าผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เพื่อลดการใช้กระแสไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานที่ก่อให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ชู "โรงงานกำแพงเพชร" ฐานการผลิต ผงชูรส อายิโนะโมะโต๊ะ(R) และวัตถุปรุงแต่งรสอาหารไรโบนิวคลีโอไทด์ อายิไทด์ ไอพลัสจี(R) นำร่องต้นแบบโรงงานสีเขียว "The greenest friendly factory" ของกลุ่มบริษัทในประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการทุ่มเทเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้ได้ 50% พร้อมมุ่งสู่ "ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)" และ เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593

อายิโนะโมะโต๊ะ ชู "โรงงานกำแพงเพชร" ต้นแบบโรงงานสีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน หนุนพลังงานทดแทน ขับเคลื่อนกระบวนการผลิตรักษ์โลก สู่องค์กรธุรกิจคาร์บอนต่ำ

พิธีเปิดอย่างเป็นทางการ "โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมจากชีวมวล" ได้จัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ โดยมี มร.อิชิโระ ซะกะกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นประธานในพิธีฯ ร่วมด้วย เชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ดร.อรทัย พงศ์รักธรรม ที่ปรึกษาโครงการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยและฝ่ายเลขาธิการองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน รองเพชร บุญช่วยดี รองผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก และคณะสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน พร้อมเยี่ยมชมโรงงานต้นแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม ณ โรงงานอายิโนะโมะโต๊ะ จังหวัดกำแพงเพชร

มร.อิชิโระ ซะกะกุระ กล่าวว่า "กลุ่มบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะ มุ่งตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Resilience) ด้วยการดำเนินธุรกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (BCG-Bio-Circular-Green Economy) เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ การผลิตผลิตภัณฑ์และบริการ ตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ครอบคลุมถึงการดำเนินการเพื่อลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้พลังงานทดแทนหรือพลังงานหมุนเวียน การจัดการของเสีย และการใช้น้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในปี พ.ศ. 2544 บริษัทฯ ได้ก่อตั้งบริษัท เอฟ ดี กรีน (ประเทศไทย) จำกัดขึ้นเพื่อเป็น "บริษัทต้นแบบทางธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม" ของกลุ่มบริษัทฯ ในการจัดการกับ "ผลิตภัณฑ์ร่วม" ที่ได้จากกระบวนการผลิตผงชูรสและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อประโยชน์ทางการเกษตร และยังได้ทุ่มงบประมาณในการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างต่อเนื่อง อาทิ เทคโนโลยีหม้อต้มไอน้ำพลังงานชีวมวล ซึ่งใช้แกลบเป็นเชื้อเพลิงทางชีวภาพในการผลิตไอน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิตเพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงจากน้ำมันเตา การติดตั้ง "Solar Rooftop" บนพื้นที่หลังคาอาคารโรงงาน ฯลฯ ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ถึง 130,000 ตันต่อปี และในปีนี้ บริษัทฯ ได้ลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท เพื่อก่อสร้าง "โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมจากชีวมวล" ด้วยกำลังการผลิตไฟฟ้า 9.9 เมกะวัต ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่ดำเนินธุรกิจตามแนวทางกลไกการพัฒนาที่สะอาดเช่นกัน โดยเริ่มผลิตไฟฟ้าตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งจะสามารถลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มได้อีกกว่า 50,000 ตัน/ปี ทำให้เราสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมได้กว่า 180,000 ตันต่อปี หรือ เทียบเท่าการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของต้นไม้ใหญ่กว่า 20 ล้านต้น"

มร. ทะกุมิ คะซะริโมะโตะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวเสริมว่า "การดำเนินการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมจากชีวมวลแห่งนี้ ช่วยให้เราสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2561 ทุกโรงงานและสถานประกอบการของเรายังยึดนโยบายและแนวปฏิบัติที่เคร่งครัดต่อการอนุรักษ์และการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าสูงสุด ตามหลักการ 3 R (Reduce, Reuse, Recycle) รวมถึงการจัดการของเสียและการบำบัดน้ำเสียด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย จนทำให้ได้คุณภาพสูงกว่าค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะ เรามุ่งมั่นที่จะเป็น "กลุ่มบริษัทผู้ส่งมอบแนวทางการแก้ปัญหาและนวัตกรรมที่เกี่ยวกับอาหารและสุขภาพ" โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการทรัพยากรและการทำงานเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อันเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย "การสร้างคุณค่าร่วมกับสังคมของอายิโนะโมะโต๊ะ" (The Ajinomoto Group Creating Shared Value: ASV) ที่เรายึดมั่นเสมอมา"

ดร.อรทัย พงศ์รักธรรม ที่ปรึกษาโครงการ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และฝ่ายเลขาธิการองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD) กล่าวเพิ่มว่า "TBCSD เกิดจากการรวมตัวกันขององค์กรภาคธุรกิจที่เป็นผู้นำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดย อายิโนะโมะโต๊ะฯ ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2564 และได้ขับเคลื่อนธุรกิจและดูแลสังคมมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับ โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมชีวมวลนี้ นับเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการร่วมสนับสนุนการขับเคลื่อนตามวาระแห่งชาติ BCG Model ทั้งเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่เป้าหมายความยั่งยืน

ผลจากการทุ่มเทข้างต้น ทำให้ อายิโนะโมะโต๊ะโรงงานกำแพงเพชร ได้รับการรับรองจากสถาบันต่างๆมากมาย เช่น เมื่อปี พ.ศ. 2551 องค์การบริหารการจัดการก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นองค์กรระดับนานาชาติ รับรองว่าโครงการการใช้พลังงานชีวมวลจากแกลบเพื่อมาผลิตไอน้ำในแทนการใช้น้ำมันเตา มีส่วนช่วยลดสภาวะโลกร้อนจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงเป็นอย่างมาก และยังได้รับการรับรองมาตรฐานระบบบริหารสิ่งแวดล้อม ISO14001 รวมถึง รางวัลอุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 4 และรางวัลด้านสิ่งแวดล้อมอื่นๆอีกมากมาย ทั้งนี้ "อายิโนะโมะโมะโต๊ะ" จะยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับกฏหมายและระเบียบข้อบังคับต่างๆตลอดจนการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมในชุมชนที่เราดำรงอยู่" ด้วยความมุ่งมั่นที่ว่า "อายิโนะโมะโต๊ะ เติบโตเคียงคู่สังคมไทย" มร.อิชิโระ ซะกะกุระ กล่าวปิดท้าย

HTML::image(