นางป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. กล่าวถึงแนวทางการติดตาม เฝ้าระวัง และอำนวยความสะดวกการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด 19 ในกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไต เนื่องจากในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 ผู้ป่วยกลุ่มนี้อาจไม่สามารถไปฟอกไตได้ตามเวลาที่กำหนด จึงมีความเสี่ยงสูง เจ็บป่วยรุนแรง หรือเสียชีวิต หากติดเชื้อโควิด 19 ว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัย ได้จัดเจ้าหน้าที่ทีมปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด 19 เชิงรุก (CCRT) และรถบริการฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ (BKK Mobile Vaccination Unit : BMV) ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด 19 ในจุดต่าง ๆ บริเวณใกล้บ้านในกลุ่มผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางมายังจุดบริการวัคซีน เพื่อช่วยลดความเสี่ยงการเดินทางและสามารถฉีดวัคซีนได้อย่างปลอดภัย รวมทั้งขยายศูนย์ฉีดวัคซีนนอกสถานพยาบาลหลายจุด เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน นอกจากนั้น ยังเน้นย้ำประชาสัมพันธ์การให้บริการฉีดวัคซีนโควิด 19 ในกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไต เพื่อป้องกันอาการเจ็บป่วยรุนแรง หรือเสียชีวิตหากติดเชื้อโควิด 19 ในโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยรักษาประจำอยู่ หากพบว่ายังฉีดไม่ครบ ขอเชิญชวนให้เข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ทันที
นายสุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยโรคไต สำนักการแพทย์ได้ให้การรักษาผู้ป่วยวิกฤตในโรงพยาบาลที่มีหน่วยล้างไต โดยเปิดระบบนัดหมายสำหรับผู้ป่วยโรคไต เพื่อฟอกล้างไตตามกำหนด แก้ปัญหาการเข้าใช้บริการในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ซึ่งสร้างความไม่สะดวกแก่ผู้ป่วยโรคไตและรณรงค์ประชาสัมพันธ์แก่ผู้ป่วยโรคไต แม้จะได้รับวัคซีนแล้ว แต่ภูมิคุ้มกันในร่างกายที่ตอบสนองต่อวัคซีนอยู่ในระดับร้อยละ 30 - 50 ต่ำกว่าคนทั่วไป เมื่อติดเชื้อโควิด 19 ควรได้รับการรักษาโดยเร็ว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit