ลดเสี่ยงมะเร็ง ด้วยวัคซีนเอชพีวี (HPV) ชนิด 9 สายพันธุ์ ครอบคลุมมากขึ้น ป้องกันได้ทั้งหญิงและชาย

ไวรัสเอชพีวี HPV (Human Papilloma Virus) ตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก และเป็นเชื้อไวรัสที่มีมากกว่า ไวรัสเอชพีวีมะเร็งปากมดลูกมะเร็งปากมดลูก สายพันธุ์ แต่มีประมาณ 4มะเร็งปากมดลูก สายพันธุ์ ที่ก่อให้เกิดโรคในมนุษย์ ที่รู้จักกันดีคือ HPV สายพันธุ์ 6 และ ไวรัสเอชพีวีไวรัสเอชพีวี ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคหูดหงอนไก่ และ HPV สายพันธุ์ ไวรัสเอชพีวี6 และ ไวรัสเอชพีวี8 ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์และทวารหนัก ปัจจุบันยังไม่มียารักษาเชื้อไวรัส HPV ให้หายขาด การฉีดวัคซีนป้องกัน HPV จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย โดยเฉพาะวัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ เพื่อเป็นการป้องกันโรคร้าย ก่อนสายเกินแก้

ลดเสี่ยงมะเร็ง ด้วยวัคซีนเอชพีวี (HPV) ชนิด 9 สายพันธุ์  ครอบคลุมมากขึ้น ป้องกันได้ทั้งหญิงและชาย

พญ.แสงเดือน จินดาวิจักษณ์ สูตินรีเวช รพ.กรุงเทพ กล่าวว่า ไวรัสเอชพีวี HPV (Human Papilloma virus) เป็น DNA ไวรัส ที่ได้รับมาจากการสัมผัสโดยตรง จากการมีเพศสัมพันธ์ (Sexual Transmission Infection) แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เซลล์ปากมดลูกมีการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะก่อนเป็นมะเร็ง จนถึงพัฒนาเป็นมะเร็ง ซึ่งใช้เวลากว่า 10 ปี และกลุ่มความเสี่ยงต่ำ สามารถเกิดโรคหูดหงอนไก่บริเวณอวัยวะเพศ ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ทั้งนี้ การเกิดมะเร็งขึ้นกับภูมิร่างกายของคนที่ได้รับเชื้อ HPV ด้วย เช่น ถ้าภูมิร่างกายต่ำอาจทำให้มีการพัฒนาเซลล์เปลี่ยนในระยะก่อนเป็นมะเร็งได้เร็วขึ้น(น้อยกว่า 10 ปี)ได้

เราสามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV ได้ด้วย 1.การตรวจดูเซลล์มะเร็งปากมดลูก PAP Test หรือ HPV Test เมื่อพบความผิดปกติในระยะก่อนเป็นมะเร็ง หากพบจะได้ทำการรักษาแต่เนิ่นๆ 2.การฉีดวัคซีน แต่เดิมมีด้วยกัน 2 ชนิด ได้แก่ วัคซีน HPV ชนิด 2 สายพันธุ์ (ครอบคลุมสายพันธุ์ 16 และ 18) และวัคซีน HPV ชนิด 4 สายพันธุ์ (ครอบคลุมสายพันธุ์ 6, 11, 16 และ 18) แต่ปัจจุบันวัคซีน HPV ได้รับการพัฒนาเป็น วัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ ที่จะช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV และป้องกันการเกิดมะเร็งได้ครอบคลุมมากขึ้น และ 3. ลดพฤติกรรมความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อ HPV เช่น ระมัดระวังเรื่องมีเพศสัมพันธ์ ไม่เปลี่ยนคู่นอนหลายๆ คน

วัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ (Human Papillomavirus 9-valent Vaccine) สามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 - 45 ปี โดยอายุที่เหมาะสมนั้น ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ อายุ และการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ซึ่งถ้าอยากป้องกันให้ได้ประสิทธิภาพที่ดี ควรฉีดตั้งแต่ยังไม่เริ่มมีเพศสัมพันธ์ เช่น ในอเมริกาเริ่มฉีดที่อายุ 9 ปี ในอังกฤษเริ่มที่อายุ 11 ปี ในประเทศไทยขึ้นอยู่กับความพร้อม แต่โดยมากควรฉีดก่อนอายุที่จะเริ่มมีเพศสัมพันธ์ โดยวัคซีนนี้สามารถป้องกันการเกิดโรคในผู้หญิง อายุตั้งแต่ 9-45 ปี และป้องกันการเกิดรอยโรคก่อนเป็นมะเร็ง (Precancerous lesion) ของมะเร็งปากมดลูก มะเร็งปากช่องคลอด มะเร็งช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก และโรคหูดหงอนไก่ เป็นต้น ในผู้ชายอายุตั้งแต่ 9-45 ปี ช่วยป้องกันการเกิดโรค และก่อนเกิดรอยโรคมะเร็ง (Precancerous lesion) เช่น โรคมะเร็งทวารหนัก และมะเร็งช่องปากและลำคอ ของมะเร็งทวารหนัก และโรคหูดหงอนไก่ เป็นต้น

เนื่องจากเชื้อ HPV ติดได้จากเพศสัมพันธ์ จึงควรฉีดตั้งแต่ก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก และร่างกายอยู่ในวัยที่สร้างภูมิคุ้มกันได้ดี จะทำให้ได้รับประสิทธิภาพจากวัคซีนสูงสุด ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์แล้วก็สามารถฉีดวัคซีนได้ แต่ประสิทธิภาพอาจจะลดลง โดยวัคซีน HPV ถ้าฉีดเข็มแรกก่อนอายุ 15 ปี จะฉีดเพียง 2 เข็ม ห่างกัน 6 - 12 เดือน แต่ถ้าฉีดเข็มแรกหลังอายุ 15 ปีเป็นต้นไป จะฉีด 3 เข็ม ทุก 0, 2 และ 6 เดือน หรือทุก 0, 1 และ 6 เดือน การวัคซีน HPV สามารถฉีดได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย แต่มีข้อห้ามในหญิงตั้งครรภ์และผู้ที่มีประวัติแพ้วัคซีน อย่างไรก็ตามแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาถึงความเหมาะสมและความจำเป็นในการฉีดวัคซีนอีกครั้งหนึ่ง

วิธีการป้องกันที่ดีที่สุดคือ การตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกปี ในผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้วควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ซึ่งหากตรวจพบมะเร็งในระยะเริ่มต้นแต่เนิ่น ๆ จะช่วยสามารถรักษาได้ทันท่วงที ก่อนจะกลายเป็นมะเร็งร้ายได้ในภายหลัง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม เรื่องการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ที่ศูนย์สุขภาพสตรี ชั้น 2 โรงพยาบาลกรุงเทพ โทร. 02-310-3005, 02-755-1005 หรือโทร. 1719 แอดไลน์ : @bangkokhospital


ข่าวมะเร็งปากมดลูก+ไวรัสเอชพีวีวันนี้

โปรโมชั่นวันสตรีสากล แพ็กเกจตรวจมะเร็งปากมดลูก ที่ รพ. บี.แคร์ ฯ

เนื่องด้วยวันที่ 8 มีนาคมของทุกปี กำหนดให้เป็นวันสตรีสากล (International Women's Day) ซึ่งจะเป็นวันที่เหล่าสตรีจากทั่วโลก จะเข้าร่วมฉลองความเสมอภาคที่ได้รับและแสดงให้เห็นถึงความเท่าเทียมกันในสังคม รพ. บี.แคร์ฯ ร่วมสนับสนุนและส่งเสริมสุขภาพดีในสตรี มอบโปรโมชั่นตรวจคัดกรองมะเร็ง ด้วยแพ็กเกจตรวจมะเร็งปากมดลูก (Thin Prep Pep Test) ราคา 1,490 บาท และแพ็กเกจตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ร่วมกับตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวี (CoTest Thin Prep HPV Test) ราคา 2,990 บาท หมดเขต 31 มีนาคม 2566 นี้เท่านั้น

ศูนย์กุมารเวชกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ ขอเ... โปรแกรมป้องกันไวรัสเอชพีวี 4 สายพันธุ์ วันนี้ – 31 ธันวาคม 2560 — ศูนย์กุมารเวชกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ ขอเชิญชวนผู้ปกครองพาบุตรหลาน เข้ารับการฉีดวัคซีนเพ...

วิ่งด้วยใจให้น้อง ป้องกันมะเร็งปากมดลูก

มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมากอันดับ 2 ของมะเร็งในสตรี รองจากมะเร็งเต้านม แต่มีอัตราการเสียชีวิตที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับผู้ป่วยมะเร็งเต้านม คือ เสียชีวิตประมาณ 4,500 รายต่อปี หรือวันละ 12.3 ราย และพบผู้ป่วยรายใหม่ ประมาณ 9,000 รายต่อปี นับ...

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญชี้ไวรัสเอชพีวี ติดได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เสี่ยงมะเร็งปากมดลูก มะเร็งองคชาต และหูดหงอนไก่

แนะฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสเอชพีวีมีประสิทธิภาพป้องกันได้ถึงร้อยละ 70 ของเชื้อก่อมะเร็งปากมดลูก และงานวิจัยล่าสุดระบุหากฉีดช้าไปเพียง 2 ปีครึ่ง จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชพีวีอย่างคงทนเพิ่มถึง...

กระตุ้นหญิงไทยตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยเทสต์เอชพีวี ดีเอ็นเอ ช่วยลดอุบัติการณ์จากโรคมะเร็งปากมดลูกในระยะยาว

เมื่อเร็วๆ นี้ โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จัดงานแถลงข่าว “เอชพีวี ไวรัสร้ายที่ผู้หญิงต้องรู้” เนื่องในโอกาสที่เดือนมกราคมเป็นเดือนแห่งการรณรงค์โรคมะเร็งปากมดลูกในต่างประเทศ เพื่อเผย...

ภาพข่าว: โรช ร่วมรณรงค์ป้องกันมะเร็งปากมดลูก กระตุ้นหญิงไทยตรวจคัดกรองด้วยเอชพีวี ดีเอ็นเอ

เมื่อเร็วๆ นี้ นายพิเชษฐพงษ์ ศรีสุวรรณกุล (กลาง) กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานแถลงข่าว “เอชพีวี ไวรัสร้ายที่ผู้หญิงต้องรู้” เนื่องในโอกาสที่เดือนมกราคมเป็นเดือนแห่งการรณรงค์...

โรงพยาบาล บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ จัดโปร... โรงพยาบาล บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษเพื่อเอาใจผู้หญิงยุคใหม่ — โรงพยาบาล บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษเพื่อเอาใจผู้หญิง...