นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า "ในส่วนของ สมอ. พร้อมที่จะประสานความร่วมมือกับทั้ง 3 AB ในการให้การรับรองตามหลักการและแนวทางเดียวกันตามที่ได้ลงนาม MOU ไว้ในวันนี้ เพื่อยกระดับการให้บริการด้านการรับรองให้ตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการที่ใช้บริการ และเป็นไปตามแผนปฎิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ รวมทั้งเชื่อมโยงฐานข้อมูล (Database) ต่างๆ ที่ สมอ. มีอยู่ อาทิ รายชื่อหน่วยตรวจ/หน่วยรับรอง และห้องปฏิบัติการทดสอบสินค้าอุตสาหกรรม เพื่อให้ทั้ง 3 หน่วยงานที่มาร่วมลงนาม MOU สามารถเข้าถึงฐานข้อมูลของ สมอ. และนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ร่วมกันได้"นายศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยสำนักมาตรฐานห้องปฏิบัติการ ในฐานะหน่วยรับรองความสามารถห้องปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศไทย มีความมุ่งมั่นในการสร้างความร่วมมือด้านการรับรองระบบงานของประเทศไทยในแบบเครือข่าย (Single platform) เพื่อบูรณาการและพัฒนากระบวนการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความซ้ำซ้อน ให้การรับรองได้รวดเร็ว ที่ผ่านมากรมวิทยาศาสตร์การแพททย์ได้ปรับปรุงและพัฒนากระบวนการรับรองมาอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น ในปีพ.ศ. 2561 เปิดให้บริการในระบบ Fast Track ประกันเวลาไม่เกิน 90 วัน พ.ศ. 2562 เปิดใช้ระบบ e-Accreditationลดเวลาจาก 220 วัน เหลือไม่เกิน 120 วัน และจะพัฒนาให้เหลือไม่เกิน 60 วันในปีพ.ศ. 2565 ดังนั้นกระผมจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เกิดการลงนามความร่วมมือกันในวันนี้ ซึ่งจะช่วยพัฒนากระบวนการรับรองของประเทศให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ช่วยยกระดับมาตรฐานห้องปฏิบัติการ สนับสนุนให้เกิดสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ อุตสาหกรรมเป้าหมาย และแผนชาติอื่นๆ ต่อไปนายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กล่าวว่า "มกอช. มีความยินที่จะสนับสนุนให้มีการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกกระทรวงฯ ทั้งภาครัฐและเอกชขน โดยการดำเนินงานในรูปแบบเครือข่าย (Single platform) ที่จะมีการลงนาม MOU ร่วมกันในวันนี้ จะเป็นการแสดงเจตจำนงค์ที่จะร่วมมือกันระหว่าง AB ทั้ง 4 หน่วยงาน ในการพัฒนาการรับรองระบบงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้เกิดการบูรณาการอย่างเป็นเอกภาพ ลดความซ้ำซ้อน เพิ่มความรวดเร็ว ใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างมีประโยชน์สูงสุดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสนับสนุนการยกระดับมาตรฐานคุณภาพสินค้าเกษตรและอาหาร รวมทั้งสินค้าอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศไทย เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามแผนปฎิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ 20 ปีของรัฐบาล"