อพท. เปิดตัวชุมชนชายฝั่งทะเลตะวันตก การันตีรางวัล Dasta Award 2020 ชวนนักท่องเที่ยวร่วมสัมผัสธรรมชาติ ปักหมุด “ชุมชนบ้านทุ่งประดู่” จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำเสนอกิจกรรมท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วิถีประมงชายฝั่ง ห่มทราย แล่นเรือใบ ชิมอาหารชุมชนหลากเมนูจาก “มะพร้าว” ของดีทับสะแก
ดร.ชูวิทย์ มิตรชอบ รักษาการผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. กล่าวว่า อพท. ได้ดำเนินการตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ได้นำชุมชนที่ผ่านการพัฒนามาตรฐานการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ GSTC และเกณฑ์การท่องเที่ยวโดยชุมชนของประเทศไทย หรือ CBT Thailand มานำเสนอเพื่อเป็นทางเลือกแก่นักเดินทางที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในสถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนอาจไม่เคยรู้จัก
ล่าสุดนำเสนอการท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตในพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันตก ที่มีจุดเด่นเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางธรรมชาติ และวิถีชีวิต โดย อพท. ได้นำอัตลักษณ์ของท้องถิ่นมาพัฒนาเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยว ด้วยรูปแบบการบูรณาการทำงานร่วมกับชุมชนที่มีศักยภาพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป้าหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ยกระดับเศรษฐกิจชุมชน โดยใช้กลไกการจัดการการท่องเที่ยวเป็นตัวขับเคลื่อน เพื่อสร้างรายได้เสริมให้ชุมชนเพิ่มขึ้นจากรายได้ประจำ
นายสุจินต์ มีประดิษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ สำนักงานพื้นที่พิเศษ 8 อพท. กล่าวว่า พื้นที่ดำเนินงานของ อพท. 8 ครอบคลุม 4 จังหวัดในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก (Thailand Riviera) ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร และจังหวัดระนอง เริ่มดำเนินงานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 ภายใต้การบูรณาการกับส่วนราชการและภาคเอกชน เป้าหมายเพื่อนำชุมชน “ก้าวไปสู่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน”
ในส่วนของแนวทางการพัฒนาชุมชนบ้านทุ่งประดู่ อพท. ดำเนินการให้องค์ความรู้เพื่อให้ชุมชนสามารถบริหารจัดการการท่องเที่ยวได้ด้วยตัวเอง โดยใช้เกณฑ์การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนของประเทศไทย ซึ่งพัฒนาขึ้นมาจากเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (Global Sustainable Tourism Criteria : GSTC) เป็นเครื่องมือดำเนินงาน เช่น การจัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยววิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวชุมชนบ้านทุ่งประดู่ พ.ศ. 2562 – 2565 ภายใต้กระบวนการการมีส่วนร่วมของชุมชน และภาคีพัฒนาจากภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาในจังหวัด เพื่อใช้เป็นกรอบการพัฒนา รวมถึงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว พัฒนาบุคลากร สนับสนุนปราชญ์ชุมชนขึ้นเป็นนักสื่อความหมาย เพื่อให้สอดคล้องกับความพึงพอใจของนักท่องเที่ยว การพัฒนาทักษะนักสื่อความหมายรุ่นอื่นๆ เพื่อสืบทอดต่อไป การกำหนดกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมาย การบริหารจัดการเพื่อก่อให้เกิดการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง ส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์ โดยนำผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยว สถานประกอบการที่พัก ทดสอบกิจกรรมการท่องเที่ยวของชุมชน เรียนรู้เรื่องการจัดทำสื่อออนไลน์สำหรับส่งเสริมการขายให้ชุมชน และการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างถูกสุขอนามัยภายใต้วิถี New Normal เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว
“ในการพัฒนาชุมชนบ้านทุ่งประดู่ อพท. ได้ร่วมมือกับสมาคมการท่องเที่ยวต่าง ๆ อาทิ สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (PATA) ลงสำรวจพื้นที่ และกิจกรรมการท่องเที่ยวของชุมชน รวมถึงได้ฝึกอบรมนักสื่อความหมายในท้องถิ่น เพื่อให้สามารถอธิบายและนำชมตามเส้นทางการท่องเที่ยวที่วางไว้ ก่อนที่จะนำไปสู่การวางแผนส่งเสริมการตลาด รองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศในอนาคต”
ผลจากการพัฒนาทำให้ชุมชนบ้านทุ่งประดู่ มีการบริหารจัดการภายในชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม และมุ่งสู่การเป็น “ท่องเที่ยวชุมชนเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน” ที่ชัดเจน พร้อมที่จะรองรับนักท่องเที่ยวในแต่ละฤดูกาลด้วยการจัดทำปฏิทินการท่องเที่ยว ชุมชนแห่งนี้ยังผ่านการรับรองมาตรฐาน ได้รับรางวัล DASTA Award 2020 เป็นชุมชนต้นแบบให้กับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในด้านการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่มาเยือนยังเป็นกลุ่มศึกษาดูงานและ CSR ดังนั้น เป้าหมายต่อไป คือ ส่งเสริมให้เกิดการรับรู้ให้บ้านทุ่งประดู่เป็นจุดหมายปลายทางของกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไป
ทางด้านชุมชน นางสาวสุวลี เสรีวัฒนาชัย ตัวแทนวิสาหกิจชุมชนบ้านทุ่งประดู่ กล่าวว่า จากการเข้ามาของ อพท. ทางชุมชนก็พร้อมที่จะต่อยอดการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ โดยไม่กระทบต่ออาชีพหลัก และจะรักษาสิ่งแวดล้อมให้คงไว้ เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนที่สามารถใช้เวลาว่างจากอาชีพหลักมาประกอบอาชีพเสริมด้านการท่องเที่ยว ทำให้ปัจจุบันวิสาหกิจชุมชนบ้านทุ่งประดู่ สามารถพัฒนากิจกรรมที่นำเอาทรัพยากรที่มีอยู่ เช่น ทรายที่มีแร่ธาตุสูง หรืออาชีพทำสวนมะพร้าวของทับสะแกที่โด่งดัง ทำไร่ ทำนา ทำประมง มาเป็นองค์ประกอบของกิจกรรมที่จะให้บริการกับนักท่องเที่ยว ได้สัมผัสและเรียนรู้วิถีของชุมชนอย่างแท้จริง
“นักท่องเที่ยวจะเข้าใจวิถีชีวิตของชุมชน จากการร่วมทำกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ และการถ่ายทอดของนักสื่อความหมาย ได้เรียนรู้ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวทั้งแบบสดและแบบแปรรูป เช่น การนำกากมะพร้าวมาทำสีย้อมผ้าสำหรับทำกิจกรรมมัดย้อม การทำสบู่จากมะพร้าว และน้ำมันมะพร้าวนวดสมุนไพร และยังมีเมนูของหวานขึ้นชื่อ “อัญมณีนกคุ้ม” ที่หาทานได้ที่บ้านทุ่งประดู่เพียงแห่งเดียว เพราะทำจากมะพร้าวพันธุ์นกคุ้มซึ่งเป็นพันธุ์พื้นเมืองของที่นี่และปัจจุบันหาได้ยากมาก”
ส่วนกิจกรรมทางทะเลนำข้อดีของทรายที่ชายหาดบ้านทุ่งประดู่ที่มีคุณสมบัติพิเศษ เพราะแร่ธาตุสูงนับว่ามีแห่งเดียวในประเทศไทย นำมาพัฒนาสู่กิจกรรมห่มทรายคลายเครียด หรือสปาทรายให้กับนักท่องเที่ยว รวมถึงกิจกรรมสอนแล่นเรือใบ โดยโค้ชผู้ชำนาญการ เป็นต้น ชุมชนสามารถจัดเป็นโปรแกรม ONE DAY TRIP หรือมากกว่า 1 วัน ตามความต้องการของนักท่องเที่ยว โดยสามารถรองรับได้ตั้งแต่กลุ่มขนาดเล็ก กลุ่มครอบครัวไปจนถึงกลุ่มคณะดูงาน ไม่เกิน 30-40 คน ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เข้าใช้บริการต้องมีการติดต่อล่วงหน้า เพราะบางกิจกรรมต้องหาวัตถุดิบและวิทยากรให้บริการอย่างเพียงพอต่อคณะนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่สนใจ สามารถติดต่อได้ที่ 08 1572 9665 (คุณปิ่น)
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit