ฟิทช์คงอันดับเครดิตภายในประเทศของ 5 สถาบันการเงินไทยที่ไม่ใช่ธนาคารซึ่งเป็นบริษัทลูกของสถาบันการเงินต่างประเทศ และประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบสำหรับ บล.โนมูระพัฒนสิน

28 May 2020

ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารในประเทศไทย 5 แห่งที่เป็นบริษัทลูก (subsidiary) ของสถาบันการเงินต่างประเทศดังนี้

  • บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGS-CIMB TH คงอันดับเครดิตที่ 'A(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
  • บริษัทหลักทรัพย์โนมูระพัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS คงอันดับเครดิตที่ 'AA(tha)’; เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ (Rating Watch Negative)
  • บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน) หรือ EB คงอันดับเครดิตที่ 'AA(tha)’ ; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
  • บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ MBKET คงอันดับเครดิตที่ 'AA(tha)’ ; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
  • บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด หรือ YSTH คงอันดับเครดิตที่ 'AA(tha)’ ; แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ

พร้อมกันนี้ฟิทช์ได้ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันสกุลเงินบาทของ บริษัท ไทยโอริกซ์ ลีสซิ่ง จำกัด (หรือ TOLC) ที่ 'AAA(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

สำหรับรายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดแสดงไว้ในส่วนท้าย

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตภายในประเทศและอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
อันดับเครดิตของทั้ง 5 บริษัท ได้แก่  CGS-CIMB TH, CNS, EB, MBKET และ YSTH พิจารณาจากมุมมองของฟิทช์ว่าบริษัทเหล่านี้น่าจะได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษนอกเหนือจากการดำเนินงานตามปรกติ (extraordinary support) จากบริษัทแม่ในต่างประเทศของแต่ละบริษัท ซึ่งคือ CGS-CIMB Securities International Pte Ltd. หรือ CGS-CSI, Nomura Holdings Inc. (NHI; A-/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ/อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Viability Rating) ที่ bbb+/เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ), ACOM Co., LTD. (ACOM; BBB+/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ), Malayan Banking Berhad (Maybank; BBB+/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ/ อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินที่ bbb+) และ Yuanta Financial Holdings (YFHC; BBB+/แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ)

ฟิทช์คาดว่า CNS, EB, MBKET และ YSTH จะยังคงรักษาสถานะในการเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อบริษัทแม่ โดยประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญของกลุ่มบริษัทแม่และบริษัทลูกในประเทศไทยเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนกลยุทธ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกฉียงใต้ของกลุ่ม นอกจากนี้ฟิทช์มองว่าบริษัทเหล่านี้ยังได้รับประโยชน์จากความร่วมมือในด้านการดำเนินงานและด้านการเงินกับกลุ่มบริษัทแม่ ซึ่งสะท้อนได้จากการควบคุมการบริหารจัดการอย่างใกล้ชิด การผสานความร่วมมือในด้านการพัฒนาธุรกิจ และการให้การสนับสนุนด้านแหล่งเงินทุนสำรอง

ในขณะที่ฟิทช์มองว่า CGS-CIMB TH มีสถานะเป็นบริษัทลูกหลัก (core subsidiary) ของบริษัทแม่ (CGS-CSI) เนื่องจากบริษัทมีบทบาทสำคัญต่อบริษัทแม่ในฐานะที่เป็นบริษัทลูกที่ใหญ่เป็นลำดับที่ 2 ของกลุ่ม อีกทั้งยังมีความสำคัญต่อเครือข่ายทางธุรกิจในภูมิภาคของ CGS-CSI นอกจากนี้ CGS-CSI ยังถือหุ้นเกือบทั้งหมดในบริษัท อีกทั้งยังมีอำนาจควบคุมการดำเนินงานและมีการใช้ชื่อและสัญลักษณ์ทางการค้าร่วมกันกับบริษัทแม่ด้วย ทั้งนี้ความสามารถของ CGS-CSI ที่จะให้การสนับสนุนแก่ CGS-CIMB TH นั้นจะมาจากบริษัทแม่ระดับสูงสุดของกลุ่มซึ่งคือ China Galaxy Securities Co., Ltd. (CGS) ซึ่งมีอำนาจควบคุม CGS-CSI ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน (joint venture) ในประเทศสิงคโปร์

อันดับเครดิตภายในประเทศของ CNS พิจารณาจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (หรือ Viability Rating) ของ NHI แทนที่จะเป็นอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign Currency Issuer Default Rating) เนื่องจากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ NHI มีปัจจัยสนับสนุนมาจากการคาดการณ์ของฟิชท์ว่า NHI จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น (A/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถีรภาพ) ในกรณีที่มีความจำเป็น เนื่องจาก NHI มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศญี่ปุ่น และฟิทช์เชื่อว่าการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นที่ระดับบริษัทแม่ อาจจะไม่ครอบคลุมมาถึง CNS ซึ่งไม่ได้มีสถานะเป็นบริษัทลูกหลักและประกอบกิจการในต่างประเทศ ฟิทช์ให้เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบแก่อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ CNS เพื่อสะท้อนถึงเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบของอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ NHI

ฟิทช์ให้อันดับเครดิตของตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของ EB ที่ระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัท ซึ่งสอดคล้องกับเกณฑ์ในการจัดอันดับเครดิตของฟิทช์

อันดับเครดิตโครงการหุ้นกู้ระยะสั้นของ YSTH อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของบริษัท เนื่องจากหุ้นกู้ที่ออกภายใต้โครงการดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของบริษัท

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของการประกาศอันดับเครดิตก่อนหน้านี้ ดูได้จากประกาศอันดับเครดิต

  • "Fitch Downgrades EASY BUY to 'AA(tha)’; Outlook Stable" ลงวันที่ 8 เมษายน 2563  www.fitchratings.com/site/pr/10117080  
  • "Fitch Downgrades Maybank Kim Eng Securities (Thailand) to 'AA(tha)'; Outlook Stable" ลงวันที่ 20 เมษายน 2563 www.fitchratings.com/site/pr/10118601 และ
  • “Fitch Revises Outlook on Yuanta Securities (Thailand) to Negative; Withdraws Debenture Ratings”  ลงวันที่ 27 เมษายน 2563 www.fitchratings.com/site/pr/10119806

อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกัน
อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของ TOLC พิจารณาจากการได้รับการค้ำประกันในลักษณะไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนการค้ำประกันจากบริษัทแม่ซึ่งคือ ORIX Corporation ประเทศญี่ปุ่น (ORIX: 'A-’/แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ) ทั้งนี้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ ORIX ที่ 'A-’ อยู่ในระดับที่สูงกว่าอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาว (Long-Term Local-Currency IDR) ของประเทศไทยที่ 'BBB+’ และสอดคล้องกับระดับอันดับเครดิตภายในประเทศไทยที่สูงที่สุด ซึ่งคือ 'AAA(tha)’

แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพสะท้อนถึงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันยังจะคงอยู่ที่ระดับ AAA(tha) แม้ว่าอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ ORIX จะถูกลดระดับเป็น 'BBB +' เนื่องจากอันดับเครดิตดังกล่าวจะอยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาวของประเทศไทย และยังคงสอดคล้องกับเครดิตที่ดีที่สุดในประเทศ

อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ
ฟิทช์ให้อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิของ MBKET ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัทอยู่ 1 อันดับ เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวมีความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss severity risks) มากกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่ไม่ด้อยสิทธิซึ่งมีลำดับการชำระหนี้ก่อน นอกจากนี้อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการที่หุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวไม่มีคุณสมบัติรองรับผลขาดทุนระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption features) และไม่มีคุณสมบัติการแปลงเป็นทุน (equity conversion)

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
อันดับเครดิตภายในประเทศและอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
ฟิทช์อาจปรับมุมมองหรืออันดับเครดิตเป็นเชิงบวกสำหรับอันดับเครดิตของ CGS-CIMB TH, CNS, EB, MBKET และ YSTH หากบริษัทแม่มีความสามารถในการให้การสนับสนุนแก่บริษัทลูกในระดับที่สูงขึ้นโดยอาจสะท้อนได้จากอันดับเครดิตหรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทแม่ หรืออันดับความแข็งแกร่งทางการเงินในกรณีของ CNS และ MBKET หรือโครงสร้างเครดิตของบริษัทแม่สำหรับ CGS-CIMB TH ที่เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางบวก รวมทั้งการพิจารณาอันดับเครดิตของแต่ละบริษัทเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศด้วย

อันดับเครดิตของ CNS, EB, MBKET และ YSTH อาจถูกปรับเพิ่มอันดับได้หากฟิทช์เชื่อว่าแนวโน้มที่บริษัทจะได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ปรับตัวสูงขึ้น หากฟิทช์ทบทวนการประเมินและเชื่อว่าบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทลูกหลักของกลุ่ม (core subsidiary) โดยอาจสะท้อนได้จากการที่บริษัทลูกมีบทบาทเชิงกลยุทธ์ต่อกลุ่มบริษัทแม่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เช่น การมีส่วนรวมและบทบาทเพิ่มขึ้นอย่างมากในการช่วยสนับสนุนความแข็งแกร่งในด้านเครื่อข่ายธุรกิจโดยรวมของกลุ่มและ (ในกรณีของ EB) การเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น

การปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ EB จะส่งผลให้อันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ EB ได้รับการปรับเพิ่มอันดับขึ้นด้วยเช่นกัน  อันดับเครดิตของหุ้นกู้ระยะสั้นของ YSTH อยู่ในระดับที่สูงที่สุดของอันดับเครดิตภายในประเทศแล้ว ดังนั้นจึงไม่สามารถปรับเพิ่มอันดับขึ้นได้อีก

หุ้นกู้มีผู้ค้ำประกัน
อันดับเครดิตหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของ TOLC อยู่ในระดับที่สูงที่สุดสำหรับอันดับเครดิตภายในประเทศ จึงไม่มีปัจจัยที่จะทำให้อันดับเครดิตได้รับการปรับเพิ่ม

หุ้นกู้ด้อยสิทธิ
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิของ MBKET อาจถูกปรับอันดับเพิ่มขึ้นได้หากอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัทซึ่งเป็นอันดับเครดิตอ้างอิง (anchor rating) ได้รับการปรับเพิ่มอันดับ

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
อันดับเครดิตภายในประเทศและอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
ฟิทช์อาจปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ CGS-CIMB TH, CNS, EB, MBKET และ YSTH หากโครงสร้างเครดิตของบริษัทแม่ หรืออันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทแม่ในกรณีของ CNS และ MBKET ปรับตัวอ่อนแอลง
นอกจากนี้อันดับเครดิตของบริษัทลูกดังกล่าวอาจถูกปรับลดลงได้หากโอกาสที่บริษัทแม่จะให้การสนับสนุนเป็นพิเศษนอกเหนือจากการดำเนินงานตามปรกติแก่บริษัทลูกปรับตัวลดลง ตัวอย่างเช่น การที่บริษัทแม่ลดสัดส่วนการถือหุ้นลงอย่างมีนัยสำคัญจากระดับปัจจุบัน ประกอบกับระดับการควบคุมด้านการบริหารจัดการของบริษัทแม่และระดับความเชื่อมโยงด้านการเงินและการบริหารงานระหว่างบริษัทแม่และบริษัทลูกปรับตัวลดลง อีกทั้งฟิทช์จะพิจารณาอันดับเครดิตของแต่ละบริษัทเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นที่มีอันดับเครดิตภายในประเทศด้วย อย่างไรก็ตาม ฟิทช์คาดว่าระดับของการให้ความสนับสนุนจากบริษัทแม่ของแต่ละบริษัทจะไม่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในระยะสั้นถึงระยะกลาง

การปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศของ EB อาจส่งผลให้อันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของบริษัทถูกปรับลดอันดับเครดิตลงเช่นกัน เช่นเดียวกันกับการปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของ YSTH ก็อาจส่งผลให้อันดับเครดิตระยะสั้นของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของบริษัทถูกปรับลดอันดับเครดิตลงเช่นกัน

หุ้นกู้มีผู้ค้ำประกัน
อันดับเครดิตหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของ TOLC อาจถูกปรับลดอันดับลงหากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ ORIX อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าอันดับเครดิตสากลสกุลเงินภายในประเทศระยะยาวของประเทศไทย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ทั้งจากการปรับลดอันดับเครดิตของ ORIX หรือการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของประเทศไทย และฟิทช์จะพิจารณาอันดับเครดิตเปรียบเทียบกับอันดับเครดิตภายในประเทศของสถาบันการเงินอื่นด้วย
การปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ ORIX เป็น 'BBB+’ พร้อมทั้ง “แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ” อาจส่งผลให้แนวโน้มอันดับเครดิตของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของ TOLC ถูกปรับเป็น “แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ” เช่นกัน

หุ้นกู้ด้อยสิทธิ
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิของ MBKET จะถูกปรับลดอันดับลงหากอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัท ซึ่งเป็นอันดับเครดิตอ้างอิงถูกปรับลดอันดับลง

รายละเอียดของอันดับเครดิตมีดังต่อไปนี้:
CNS:

  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AA(tha)’; ปรับเป็น “เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ”
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)’

MBKET:

  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AA(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)’
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ด้อยสิทธิสกุลเงินบาทคงอันดับที่ 'AA-(tha)’

EB:

  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AA(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)’
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันคงอันดับที่ 'AA(tha)’

CGS-CIMB TH

  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'A(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นปรับคงอันดับที่ 'F1(tha)’

TOLC

  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ค้ำประกันโดย ORIX คงอันดับที่ 'AAA(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
    YSTH:
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AA(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)’
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของโครงการหุ้นกู้ระยะสั้น ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันคงอันดับที่ 'F1+(tha)’