จุฬาฯ เปิดหนึ่งร้อยห้องพักในสองอาคารของมหาวิทยาลัยเพื่อรองรับสมาชิกประชาคมที่พักฟื้นจากการติดเชื้อและผู้ที่เข้าข่ายการสืบค้นโรค (Patient under Investigation หรือ PUI) COVID-19 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่พัก
ศ.นพ.ดร.นรินทร์ หิรัญสุทธิกุล รองอธิการบดีจุฬาฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินไวรัสโคโรนา 2019 เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ที่ลุกลามขยายตัวและมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เกินกำลังที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลขนาดใหญ่หลายๆ แห่งจะรองรับได้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้พยายามเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระ โดยการจัดตั้งโครงการ CU V Care เพื่อรองรับบุคลากรและนิสิตจุฬาฯที่ติดเชื้อ COVID-19 ที่ได้รับการรักษาจนอาการดีขึ้นจนสามารถกลับไปดูแลตัวเองได้ ตลอดจนผู้ที่เข้าข่ายการสืบค้นโรคหรือ PUI (ผู้เข้าข่ายสงสัยว่าจะติดเชื้อเพราะสัมผัสหรือใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ)
ภายใต้โครงการ CU V Care ทางมหาวิทยาลัยได้ปรับปรุงอาคารจุฬานิเวศน์ สำหรับบุคลากรหรือนิสิตที่ติดเชื้อ COVID-19 และได้รับการรักษาจนมีอาการดีขึ้น และหอพักจำปาสำหรับผู้ที่เข้าข่ายการสืบค้นว่าติดเชื้อหรือไม่ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาคมจุฬาฯ และลดปัญหาปัญหาเตียงคนไข้ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ที่ไม่เพียงพอ
มหาวิทยาลัยได้วางแผนในการดูแลบุคลากรและนิสิตกลุ่มนี้ในด้านสุขภาพ โดยศูนย์บริการสุขภาพแห่งจุฬาฯ สำนักบริหารระบบกายภาพ จะได้ร่วมกันดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆของการใช้ชีวิตของบุคคลทั้งสองกลุ่มโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆยกเว้นค่าอาหาร
ในระยะต่อไปจุฬาฯ มีแผนจะขยายการช่วยเหลือผู้ป่วยหรือผู้ที่สงสัยว่าจะติดเชื้อรายอื่นๆ จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์นอกเหนือจากสมาชิกประชาคมจุฬาฯที่มีอาการดีขึ้นแล้วให้เข้ามาพักที่อาคารดังกล่าวด้วย รวมทั้งประสานงานกับสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ เพื่อใช้อาคารในพื้นที่เชิงพาณิชย์ของจุฬาฯ ในการรับผู้ป่วยมาพักเพิ่มขึ้น
“นโยบายของจุฬาฯ ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยและการดูแลสุขภาพของประชาคม จุฬาฯ ให้ดีที่สุด สถานการณ์ COVID-19 จุฬาฯส่งผลกระทบอย่างมาก เราจึงได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนในการดูแลเรื่องสุขภาพ จัดสถานที่รองรับ และมีระบบดูแลสุขภาพทางใจด้วย จึงอยากให้ความมั่นใจว่าจุฬาฯ มีระบบในการดูแลสุขภาพประชาคมจุฬาฯ เป็นอย่างดีตามมาตรฐาน เพื่อให้ผู้ติดเชื้อและ PUI มีสุขภาพที่ฟื้นคืนมาอย่างดีที่สุด” ศ.นพ.ดร.นรินทร์ กล่าว
ศ.นพ.ดร.สมบัติ ตรีประเสริฐสุข ผู้ช่วยอธิการบดีด้านแผนและยุทธศาสตร์ กล่าวเพิ่มเติมถึงการเตรียมความพร้อมของจุฬาฯ ในเรื่องที่พักสำหรับผู้ป่วยกลุ่มที่ติดเชื้อ COVID-19 และ PUI ว่าจะใช้จุฬานิเวศน์สำหรับรองรับกลุ่มแรกและหอพักจำปาสำหรับกลุ่มหลัง โดยจะสามารถรองรับได้ประมาณที่ละ 50 เตียง ซึ่งได้มีการเตรียมระบบรองรับทางด้านกายภาพและด้านการแพทย์ไว้พร้อมให้บริการได้ตั้งแต่ วันพุธที่ 25 มีนาคมเป็นต้นไป
สำหรับวิธีการคัดเลือกผู้ที่จะมารับบริการที่ CU V Care ทางโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์จะคัดเลือก ผู้ติดเชื้อที่มีอาการไม่มาก และต้องเป็นผู้ป่วยที่ได้รับการสังเกตอาการจากโรงพยาบาลมาแล้วว่ามีอาการดีขึ้นและปลอดภัยเพียงพอที่จะส่งกลับมาให้จุฬาฯ ดูแลต่อ โดยมีทีมแพทย์ พยาบาลจากศูนย์บริการสุขภาพแห่งจุฬาฯ คอยประสานติดตามอาการผู้ป่วยทุกวัน ถ้ามีอาการแย่ลงก็จะส่งกลับไปโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เพื่อตรวจรักษาต่อไป
ทั้งนี้ การดูแลจะแบ่งออกเป็นสองระดับคือ ผู้ที่เป็น PUI ไม่แสดงอาการจะให้ดูแลตัวเองเหมือนคนปกติ มีห้องพักส่วนตัวให้แต่ใช้ห้องน้ำรวมที่อาคารจำปา ส่วนผู้ป่วยที่มีผลเลือดจากการทดสอบตามมาตรฐานเป็นบวก ก็จะจัดให้อยู่ห้องเดี่ยว มีห้องน้ำในตัวที่อาคารจุฬานิเวศน์ ทั้งสองอาคารมีอาหารให้บริการ มีการจัดการเรื่องขยะอย่างเป็นระบบ และมีระบบติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโดยภาพรวมน่าจะช่วยลดการติดเชื้อระหว่างคนในครอบครัวของสมาชิกประชาคมจุฬาฯได้เพราะไม่ต้องกลับไปอยู่ปะปนกันที่บ้าน
ในส่วนของบุคลากรที่เข้ามาช่วยในโครงการนี้จะเป็นอาสาสมัครซึ่งส่วนใหญ่มาจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่สำนักบริหารระบบกายภาพ คนงาน คนสวน ที่มีสุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อแล้วเกิดภาวะแทรกซ้อน จำนวน 40 คน อาสาสมัครเหล่านี้จะได้รับการอบรมเพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจในการดูแลป้องกันตัวเองในด้านต่างๆ จากอาจารย์ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านโรคติดเชื้อ จัดทำคู่มือสรุปข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติเพื่อป้องกันตนเอง วิธีการดูแลผู้ป่วยอย่างเป็นระบบ ซึ่งมหาวิทยาลัยได้จัดทีมบริหารที่เฝ้าระวังจัดการเรื่อง COVID-19 โดยตรง เพื่อช่วยแก้ปัญหาต่อไป
ผศ.ดร.ชัยพร ภู่ประเสริฐ รองอธิการบดีด้านการพัฒนานิสิตและนิสิตเก่าสัมพันธ์ จุฬาฯ กล่าวถึงหอพักจำปาที่จะใช้เป็นที่พักของสมาชิกประชาคมจุฬาฯที่เป็น PUI ว่า ที่เลือกอาคารนี้เพราะเป็นอาคารหอพักนิสิตซึ่งมีบริเวณพื้นที่ที่แยกส่วน มีทางเข้าทางออกที่แยกออกจากพื้นที่อื่นๆ
แม้อาคารนี้จะใช้สำหรับ PUI แต่จะใช้มาตรฐานคล้ายคลึงกับการดูแลผู้ป่วย โดยเจ้าหน้าที่ดูแลจะได้รับการฝึกอบรมจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ผศ.ดร.ชัยพรกล่าวว่าต้องขอขอบคุณนิสิตที่ย้ายตัวเองออกมาเพื่อให้หอพักว่างสำหรับปรับใช้ในสถานการณ์นี้ และยังต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เป็นอาสาสมัครในการดูแลประชาคมที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อเหล่านี้
สำหรับการดูแลนิสิตทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ทางจุฬาฯ มีหน่วยส่งเสริมสุขภาวะนิสิต (Chula Student Wellness) ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนแผนการดูแลด้วยการให้บริการให้คำปรึกษาออนไลน์ในกรณีที่นิสิตมีความกังวลโดยเฉพาะในประเด็นของ COVID-19 โดยตรง
ทางด้าน ผศ.ดร.วรภัทร์ อิงคโรจน์ฤทธิ์ ผู้ช่วยอธิการบดีด้านการบริหารระบบกายภาพ จุฬาฯ กล่าวถึงการจัดที่พักสำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในระยะพักฟื้นที่อาคารจุฬานิเวศน์ว่า แต่เดิมเป็นอาคารที่พักของบุคลากรและกำลังจะได้รับการปรับปรุง มีทั้งสิ้น 4 ชั้น ขนาดห้องละประมาณ 32 ตรารางเมตร สภาพแวดล้อมมีความเหมาะสม อากาศถ่ายเทได้สะดวก และเป็นอาคารแยกจากอาคารอื่น มีระยะห่างจากอาคารอื่นไม่ต่ำกว่า 10 เมตร
มหาวิทยาลัยจะเตรียมคู่มือการปฏิบัติตนเมื่อเข้าพักอาศัย ซิมโทรศัพท์สำหรับการติดต่อสื่อสาร และของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวันไว้ให้ เช่น เครื่องมือทำความสะอาด จาน ชาม พัดลม ที่นอน ถังขยะ ฯลฯ
สิ่งของที่ผู้เข้าพักต้องใช้ร่วมกัน ก็คือ ห้องซักผ้า มีชั้นละ 1 จุด รวม 4 จุด และ จุดทิ้งขยะ ซึ่งจะจัดจุดทิ้งขยะไว้ที่ชั้น 1 กรณีที่ผู้เข้าพักออกจากห้องได้แล้ว จะมีการทำความสะอาดห้องและฆ่าเชื้อตามมาตรฐานทางสาธารณสุขก่อนรับผู้เข้าพักรายใหม่ นอกจากนี้จะมีเจ้าหน้าที่ประจำและอาสาสมัครจำนวนกว่า 50 คน เพื่อปฏิบัติงานในอาคาร ซึ่งได้รับการอบรมวิธีการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติของบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลมากที่สุด แบ่งเป็น 4 ฝ่าย คือ
การปฏิบัติงานในแต่ละวัน จะจัดเวรผลัดเปลี่ยนกันทำงานเป็น 2 ช่วงเวลา คือ ผลัดแรกเวลา 06.00 -14.00 น. และผลัดสองเวลา 14.00 - 22.00 น. โดยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและจิตอาสาทั้งหมดจะไม่มีการสัมผัสโดยตรงกับผู้เข้าพัก การติดสื่อสารหลักจะใช้วิธีออนไลน์หรือโทรศัพท์ หากจำเป็นต้องพูดคุยกัน จะกำหนดระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร ผู้ปฏิบัติงานและอาสาสมัครทุกคนจะได้รับการตรวจเช็คสุขภาพโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายหลังจากจบโครงการและมหาวิทยาลัยจะมีการทำประกันสุขภาพให้ทีมงานทุกคนด้วย
รพ. จุฬาฯ เผยความคืบหน้าการใช้แอปพลิเคชัน CheckPD แอปพลิเคชันที่ใช้ตรวจหาความเสี่ยงการเป็นพาร์กินสัน สูงถึง 50% หลังเปิดตัวได้เพียงสองเดือนเศษ หวังช่วยลดความรุนแรงของโรคด้วยการสกรีนหาคนมีความเสี่ยงเพื่อเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมตระหนักรู้ถึงภัยจากโรคพาร์กินสันเนื่องในวันพาร์กินสันโลก ศ. นพ. รุ่งโรจน์ พิทยศิริ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคพาร์กินสันและกลุ่มโรคความเคลื่อนไหวผิดปกติ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าของแอปพลิเคชัน CheckPD ที่
เพราะห่วงใยสุขภาพพนักงาน…ทรู คอร์ปอเรชั่น ลงนามความร่วมมือกับ รพ.จุฬาฯ ยกระดับสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลแก่พนักงานทรู
—
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ย...
NL คว้างานก่อสร้างคลินิกผู้ป่วยนอก รพ.จุฬาฯ ระยะ 4 ตอกย้ำความเชี่ยวชาญ ดันรายได้โตกว่า 40% ตามนัด
—
บริษัท เอ็นแอล ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ "NL" ต...
"Check PD" แอปพลิเคชันตรวจหาความเสี่ยงเป็นพาร์กินสัน แม่นยำถึง 90% เปิดให้ดาวน์โหลดแล้ววันนี้!
—
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ร่วมมือกับสภากาชาดไทย เปิดตัวแอป "Che...
โลหิตวิทยาและมะเร็งในเด็ก รพ.จุฬาฯ ขอเชิญร่วมทำบุญประจำปี 18 ก.พ.2568
—
ศ.พญ.ดารินทร์ ซอโสตถิกุล หัวหน้าโครงการสอนเด็กเจ็บป่วยเรื้อรังและศูนย์คอมพิวเตอร์เ...
นูเมโร ไทยแลนด์ มอบเงินช่วยเหลือผู้ป่วยพาร์กินสัน โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
—
ร่วมทำความดี ฉลอง 12 ปี นูเมโร ไทยแลนด์ อมรสิริ บุญญสิทธิ์ บรรณาธิการบริหาร นูเมโร...
จุฬาฯ ตอกย้ำความปลอดภัยในแคมปัส ปรับใช้เกณฑ์การฉีดวัดซีนเพื่อคัดกรองคนเข้าพื้นที่
—
คณะกรรมการศูนย์โควิด-19 จุฬาฯ ได้กำหนดมาตรการเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแ...
จุฬาฯ ปลอดโควิด-19 พร้อมเปิดที่ทำการ 1 มี.ค.นี้ เน้นการเรียนผสมผสาน คงมาตรการความปลอดภัย
—
ศ.นพ.ดร.นรินทร์ หิรัญสุทธิกุล ประธานคณะกรรมการโควิด-19 จุฬาลงกร...
โครงการ CU V Care จุฬาฯ ดูแลประชาคมที่พักฟื้น และเฝ้าระวังการติดเชื้อ COVID-19
—
จุฬาฯ เปิดหนึ่งร้อยห้องพักในสองอาคารของมหาวิทยาลัยเพื่อรองรับสมาชิกประชาค...
จุฬาฯ ชูพัฒนาท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ สร้างศักยภาพวิถีถิ่นและชุมชนอย่างยั่งยืน
—
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปิดยุทธศาสตร์พัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ สร้าง...