กนง. คงดอกเบี้ยและปรับลดประมาณการเศรษฐกิจ EIC

           Key point
          ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ณ ธนาคารแห่งประเทศไทย วันที่ เศรษฐกิจไทย6 มิถุนายน เศรษฐกิจไทยธนาคารแห่งประเทศไทยคณะกรรมการนโยบาย9 คณะกรรมการมีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ คณะกรรมการนโยบาย.75% ต่อปี โดยคณะกรรมการฯ ประเมินว่า "เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้จากการส่งออกสินค้าและบริการเป็นสำคัญ" คณะกรรมการฯ เห็นว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในระดับปัจจุบันมีส่วนช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจและสอดคล้องกับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้
          Analysis
          กนง. ประเมินเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ โดยมีปัจจัยสำคัญจากการส่งออกสินค้าที่ไม่ขยายตัว และภาคการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าคาด เมื่อดูรายงานผลการประชุมและตัวเลขประมาณการทางเศรษฐกิจในรอบนี้ พบว่า กนง. ประเมิน "การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยต่ำกว่าที่คาดไว้เดิม" ทั้งนี้ กนง. ปรับลดตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี เศรษฐกิจไทยธนาคารแห่งประเทศไทยคณะกรรมการนโยบาย9 ลงจาก 3.8% มาอยู่ที่ 3.3% ซึ่งมีปัจจัยสำคัญมาจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวชะลอลงกว่าที่ประเมินไว้ "มาก" และภาคการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ โดยเป็นผลจากนักท่องเที่ยวจีนเป็นหลัก ประมาณการมูลค่าส่งออกสินค้าถูกปรับลดจาก 3.ธนาคารแห่งประเทศไทย% มาอยู่ที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย.ธนาคารแห่งประเทศไทย% ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจคู่ค้าและปริมาณการค้าโลกที่ชะลอลงจากสภาวะการกีดกันทางการค้าที่รุนแรงขึ้น ส่วนคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศปรับลดลงจาก 4ธนาคารแห่งประเทศไทย.4 ล้านคน เป็น 39.9 ล้านคน สำหรับอุปสงค์ภายในประเทศ กนง. ประเมินว่า การลงทุนภาครัฐและเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนภาครัฐถูกปรับประมาณการลงค่อนข้างมากจาก 6.คณะกรรมการนโยบาย% เป็น 3.8% ซึ่งเป็นผลจากการประกาศใช้ พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. เศรษฐกิจไทย563 ที่คาดว่าจะล่าช้าลง และการเลื่อนการลงทุนของรัฐวิสาหกิจบางแห่ง สำหรับประมาณการลงทุนภาคเอกชนปรับลดลงไม่มากนัก จาก 4.4% เป็น 3.8% เนื่องจากยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากการย้ายฐานการผลิตมายังไทย ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไป กนง. ยังคงประมาณการไว้เท่าเดิมที่ คณะกรรมการนโยบาย.ธนาคารแห่งประเทศไทย% ในปีนี้ ส่วนประมาณการอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย.7% ปรับลดลงจากที่ประเมินไว้เดิมที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย.8%
          สำหรับตัวเลขประมาณการปี เศรษฐกิจไทยธนาคารแห่งประเทศไทยเศรษฐกิจไทยธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่า กนง. ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี เศรษฐกิจไทยธนาคารแห่งประเทศไทยเศรษฐกิจไทยธนาคารแห่งประเทศไทย อยู่ที่ 3.7% จาก 3.9% โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าจะกลับมาขยายตัวที่ 4.3% การลงทุนภาครัฐจะขยายตัว 7.เศรษฐกิจไทย% และการลงทุนภาคเอกชนที่จะขยายตัว 5.5% จะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีหน้า
          กนง. ประเมินว่า ภาวะการเงินอยู่ในระดับผ่อนคลาย และแสดงความกังวลต่อการแข็งค่าของเงินบาทที่อาจไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ โดย กนง. สื่อสารว่า "ภาวะการเงินที่ผ่านมาอยู่ในระดับผ่อนคลายและเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ" ซึ่งสะท้อนผ่านภาคเอกชนที่สามารถระดมทุนได้ต่อเนื่อง ทั้งนี้สิ่งที่ กนง. แสดงความกังวลมากขึ้นอย่างชัดเจน คือ เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยกล่าวว่า "การแข็งค่าของเงินบาทอาจไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ" อีกทั้งเงินบาทยัง "แข็งค่านำสกุลอื่นในภูมิภาค" โดย ธปท. จะติดตามสถานการณ์ทั้งอัตราแลกเปลี่ยนและเงินทุนเคลื่อนย้าย "อย่างใกล้ชิด"
          ด้านเสถียรภาพระบบการเงิน กนง. ยังคงประเมินว่า ระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพ แต่มีความกังวลเกี่ยวกับพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น (search for yield) โดยนอกจากมาตรการดูแลเสถียรภาพระบบการเงิน (macroprudential) แล้ว กนง. ยังได้กล่าวถึงมาตรการกำกับดูแลสถาบันการเงิน (microprudential) ที่อาจถูกใช้ควบคู่กับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อดูแลเสถียรภาพระบบการเงินต่อไป
          Implication
          อีไอซีมอง กนง. คงดอกเบี้ยในปีนี้ แต่ต้องจับตาดูความเสี่ยงด้านต่ำต่อเศรษฐกิจ การแข็งค่าของเงินบาท และแนวโน้มเงินทุนเคลื่อนย้ายต่อไป
          อีไอซีมองว่า กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ แม้จะมีการปรับลดประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจลง เนื่องจาก คณะกรรมการนโยบาย) กนง. ยังมองว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวในปี เศรษฐกิจไทย563 แม้ กนง. จะประเมินเศรษฐกิจไทยชะลอลงต่อเนื่อง สะท้อนจากการปรับลดตัวเลขประมาณลงจาก 4.ธนาคารแห่งประเทศไทย% ในการประชุม ธ.ค เศรษฐกิจไทยธนาคารแห่งประเทศไทยคณะกรรมการนโยบาย8 ลงมาอยู่ที่ 3.8% ในการประชุม มี.ค เศรษฐกิจไทยธนาคารแห่งประเทศไทยคณะกรรมการนโยบาย9 และล่าสุดได้ปรับลดลงเหลือ 3.3% แต่อีไอซีมองว่า อัตราการขยายตัวดังกล่าวต่ำกว่าระดับศักยภาพของเศรษฐกิจไทย (potential GDP) ไม่มากนัก นอกจากนี้ กนง. ยังคงประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมาขยายตัวที่ 3.7% ได้ในปีหน้า จึงทำให้ กนง. ยังไม่จำเป็นต้องรีบปรับลดดอกเบี้ยลงในปีนี้ เศรษฐกิจไทย) อีไอซีมองว่า กนง. ยังคงให้ความสำคัญในการดูแลเสถียรภาพระบบการเงินอยู่ รายงานการประชุม กนง. ในรอบนี้ยังคงมีถ้อยคำที่แสดงความกังวลต่อเสถียรภาพระบบการเงินอยู่ ทั้งในเรื่องการก่อหนี้ของภาคครัวเรือน (สินเชื่อรถยนต์) ความเสี่ยงจากสหกรณ์ออมทรัพย์ และการก่อหนี้ของธุรกิจขนาดใหญ่ นอกจากนี้ กนง. ยังคงอ้างอิงด้วยว่าการลดความเสี่ยงดังกล่าวยังต้องใช้เครื่องมือที่หลากหลายซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายด้วย และ 3) อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่แท้จริงของไทยปัจจุบันที่ระดับ ธนาคารแห่งประเทศไทย.75% ยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค ดังนั้นความสามารถและความจำเป็นในการลดดอกเบี้ยของ กนง. เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอาจมีไม่มากเท่าประเทศอื่น ๆ ที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่แท้จริงยังคงอยู่ในระดับสูง (รูปที่ คณะกรรมการนโยบาย) 
          เงื่อนไขที่จะทำให้ กนง. อาจพิจารณาลดดอกเบี้ยนโยบายได้ในระยะข้างหน้า : อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยอยู่ต่ำกว่า 3%, เงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว, หรือเงินทุนไหลเข้าต่อเนื่อง แม้อีไอซีจะมีมุมมองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะคงที่ที่ คณะกรรมการนโยบาย.75% ทั้งปี อย่างไรก็ตาม ด้วยความไม่แน่นอนในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ค่อนข้างสูง การปรับเปลี่ยนนโยบายอาจเกิดขึ้นได้
ซึ่งอีไอซีมองว่าเงื่อนไขที่จะทำให้ กนง. มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ มาจาก คณะกรรมการนโยบาย) อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยทั้งปีอยู่ต่ำกว่า 3% ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้หากภาคการส่งออกสินค้าหดตัวลงมากกว่าคาด จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานของไทย นอกจากนี้ยังต้องติดตามการชะลอตัวลงของภาคการท่องเที่ยว
          หลังเงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง เพราะอาจส่งผลให้การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวปรับลดลงได้ เศรษฐกิจไทย) เงินบาทแข็งค่าขึ้นอีกต่อเนื่องจากระดับปัจจุบัน โดยเงินบาทในช่วงที่ผ่านมาแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นผลจากสงครามการค้าที่กลับมาปะทุอีกครั้งในช่วงต้นเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนหันมาถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยซึ่งรวมถึงเงินบาท เพราะไทยที่มีเสถียรภาพด้านต่างประเทศแข็งแกร่ง นอกจากนี้ การประชุม FOMC ของสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งให้เงินบาท
แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นผลมาจากดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจาก Fed 
          ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยในระยะต่อไป โดย กนง. ได้สื่อสารถึงความกังวลในประเด็นนี้อย่างชัดเจน ทั้งนี้แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา กนง. จะไม่เคยปรับลดดอกเบี้ยเพื่อหวังผลให้เงินบาทอ่อนค่า แต่หากเงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็อาจส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันและรายได้ในรูปเงินบาทจากการส่งออกสินค้าและบริการ การลดดอกเบี้ยอาจมีความจำเป็นมากขึ้น และ 3) เงินทุนเคลื่อนย้ายไหลเข้าในปริมาณมาก โดยในตั้งแต่เดือน พฤษภาคม เศรษฐกิจไทยธนาคารแห่งประเทศไทยคณะกรรมการนโยบาย8 ถึงวันที่ เศรษฐกิจไทยคณะกรรมการนโยบาย มิถุนายน เศรษฐกิจไทยธนาคารแห่งประเทศไทยคณะกรรมการนโยบาย9 มีเงินทุนไหลเข้าในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรไทยสูงถึง 8.7 หมื่นล้านบาท ซึ่ง กนง. ก็กล่าวว่าจะติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้อีไอซีประเมินว่าหากในระยะข้างหน้ายังมีเงินทุนไหลเข้ามาต่อเนื่องก็อาจกดดันใน ธปท. ต้องออกมาตรการเพื่อดูแลเงินทุนเคลื่อนย้ายที่อาจเข้ามาเพื่อเก็งกำไรจากสินทรัพย์ไทยในระยะสั้น โดยหนึ่งในมาตรการที่ ธปท. สามารถใช้ได้อย่างรวดเร็วคือการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์ไทย (carry) ลดลง สำหรับมาตรการอื่น ๆ ที่ ธปท. อาจพิจารณานำมาใช้ เช่น การปรับลดปริมาณการออกพันธบัตรรัฐบาลไทย เพื่อทำให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรผ่านตลาดพันธบัตรได้ยากขึ้น ซึ่งมาตรการนี้ถูกนำมาใช้ครั้งล่าสุดเมื่อเดือน เม.ย. ปี เศรษฐกิจไทยธนาคารแห่งประเทศไทยคณะกรรมการนโยบาย7
กนง. คงดอกเบี้ยและปรับลดประมาณการเศรษฐกิจ EIC
กนง. คงดอกเบี้ยและปรับลดประมาณการเศรษฐกิจ EIC
 
กนง. คงดอกเบี้ยและปรับลดประมาณการเศรษฐกิจ EIC
 


ข่าวธนาคารแห่งประเทศไทย+คณะกรรมการนโยบายวันนี้

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดกนง.มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนเมษายนนี้

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจไทย โดยคาดว่าในปี 2568 เศรษฐกิจไทยจะเติบโตร้อยละ 2.4 จากเดิมที่คาดไว้ร้อยละ 2.8 และคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 ในการประชุมเดือนเมษายนนี้ "ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับธนาคารกลางทุกแห่ง เราได้ปรับลดประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2568 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.4% จากเดิมที่คาดไว้ที่ร้อยละ 2.8 เนื่องจากปัจจัยเรื่องความไม่

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดว่าคณะกรรมกา... ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคาดเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่องหนุน กนง. คงดอกเบี้ยนโยบาย — ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแ...

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้... ธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% มีผลวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 — ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี ...

ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยมีผลต่อการใช้ชีวิตขอ... ทำความรู้จัก "รีไฟแนนซ์" และ "รีเทนชั่น" ตัวช่วยผ่อนบ้านไม่ให้หนี้บาน ปลดหนี้ไวขึ้น — ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยมีผลต่อการใช้ชีวิตของผู้บริโภคทั้งทางตรงและทางอ...

กรุงศรีเผยมุมมองต่อการปรับดอกเบี้ยนโยบายการเงิน อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะยาว

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งมีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยน...

กรุงศรีเผยมุมมองต่อการปรับดอกเบี้ยนโยบายการเงิน กนง. ส่งสัญญาณดอกเบี้ยถึงระดับเหมาะสมแล้ว

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งมีมติเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่อง 0.25% ต่อปี จาก 2.25%...

กรุงศรีเผย กนง. มีมติเอกฉันท์ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 1.75%

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี สู่ระดับ 1.75% ซึ่งเป็นการขึ้นอัตราดอก...

กรุงศรีเผย กนง. มีมติเอกฉันท์ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 1.50%

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.50% ซึ่งเป็นการขึ้นอัตราดอก...

กรุงศรีเผย กนง. มีมติเอกฉันท์ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น 1.25%

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น 1.25% จากเดิม 1.00% ซึ่งเป็นการขึ้นอัตราดอก...