นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 15 – 21 ธันวาคม 2561 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ภาคใต้ 4 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พัทลุง และตรัง รวม 42 อำเภอ 248 ตำบล 1,803 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 204,802 ครัวเรือน 598,598 คน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 3 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และตรัง รวม 35 อำเภอ 209 ตำบล 1,546 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 188,121 ครัวเรือน 549,164 คน ผู้เสียชีวิต 6 ราย ได้แก่ นครศรีธรรมราช น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 21 อำเภอ 147 ตำบล 1,183 หมู่บ้าน 105 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 167,009 ครัวเรือน 488,423 คน ผู้เสียชีวิต 5 ราย ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอชะอวด อำเภอพิปูน อำเภอช้างกลาง อำเภอสิชล อำเภอนบพิตำ อำเภอท่าศาลา อำเภอพระพรหม อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอลานสกา อำเภอพรหมคีรี อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอขนอม อำเภอทุ่งสง อำเภอปากพนัง อำเภอฉวาง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอหัวไทร อำเภอบางขัน และอำเภอนาบอน ส่วนที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 9 อำเภอ 40 ตำบล 250 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,864 ครัวเรือน 26,632 คน ได้แก่ อำเภอท่าฉาง อำเภอไชยา อำเภอเกาะสมุย อำเภอ กาญจนดิษฐ์ อำเภอดอนสัก อำเภอท่าชนะ อำเภอคีรีรัฐนิยม อำเภอวิภาวดี และอำเภอเกาะพะงัน ขณะที่จังหวัดตรัง น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 5 อำเภอ 22 ตำบล 113 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,248 ครัวเรือน 34,109 คน ได้แก่ อำเภอรัษฎา อำเภอห้วยยอด อำเภอนาโยง อำเภอเมืองตรัง และอำเภอย่านตาขาว ในภาพรวมสถานการณ์ปัจจุบันระดับน้ำลดลง ทั้งนี้ ปภ. โดยศูนย์ ปภ.เขต 11 สุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกับจังหวัด ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย สนับสนุนการระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว รวมถึงได้การดูแลชีวิตความเป็นอยู่และอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ พร้อมทั้งแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น นอกจากนี้ ได้กำชับจังหวัดเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป ท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป