กุมารแพทย์แนะเทคนิคพ่อแม่ 4.0 เลี้ยงลูกยุคดิจิทัล สมองดี โตไปไม่ติดจอ

          การเลี้ยงดูลูกในยุคดิจิทัลท่ามกลางข้อมูลข่าวสารรอบตัวและการเชื่อมต่อแบบไร้พรมแดน แถมสังคมยังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเป็นโจทย์ที่ท้าทายคุณพ่อคุณแม่อยู่ไม่น้อย ลองมาดูคำแนะนำของ นพ.พรเทพ สวนดอก กุมารแพทย์ โรงพยาบาลกรุงเทพ เพื่อไขเคล็ดลับสู่พัฒนาการที่สมวัยเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ 
          นพ.พรเทพ สวนดอก กุมารแพทย์ โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวถึงการเลี้ยงลูกในปัจจุบันว่า สังคมมีการเปลี่ยนแปลงจากเทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัวเด็ก ๆ และเข้าถึงทุกคนมากขึ้น ดังนั้นการเลี้ยงดูแบบไม่ปิดกั้นเทคโนโลยีโดยที่ลูกไม่มีพฤติกรรมติดจอ คุณพ่อคุณแม่จะต้องนำเทคโนโลยีมาใช้เสริมสร้างการเรียนรู้ให้ลูกอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมตามวัย ดังนี้ 
          2 ขวบปีแรกเน้นสื่อสารแบบอินเตอร์แอคทีฟ (Interactive Communication)
พ่อแม่ควรเลือกใช้สื่อที่สามารถเล่นด้วยกันกับลูก อาทิ สมุดภาพ ของเล่นที่มีเสียง เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวและพัฒนาการพื้นฐานตามช่วงวัย ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ประกอบด้วย "พัฒนาการด้านภาษา" ตั้งแต่แรกเกิด พ่อแม่สามารถชวนลูกพูดคุย ร้องเพลง เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการการฟังและการเปล่งเสียงอ้อแอ้จนถึงพัฒนาการพูดประโยคที่ยาวและมีความซับซ้อนขึ้น "พัฒนาการด้านร่างกาย" ตั้งแต่ฝึกใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กสัมผัสร่างกายของพ่อแม่ จับขวดนม ใช้ช้อนตักข้าว ต่อบล็อก ขีดเขียนหนังสือ จนถึงการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ในการชันคอ พลิกคว่ำ คลาน ยืนและเดิน 
          สำหรับการนำเทคโนโลยีมาเลี้ยงดูเด็กในวัยที่มีอายุน้อยกว่า 2 ขวบเป็นสิ่งที่ไม่แนะนำหรือถ้าจะใช้เป็นเครื่องมือในการดึงดูดความสนใจของลูกน้อยควรจะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ และมีผู้ใหญ่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด อาทิ การเปิดการ์ตูนในยูทูปให้เด็กดูตลอดเวลา ซึ่งเด็กในวัยนี้ยังไม่สามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองจึงมีผลต่อพัฒนาการทางด้านภาษา ทำให้เด็กพูดช้า ขาดการโต้ตอบ ซึ่งหากมีการสะสมเรื้อรังจะยิ่งส่งผลต่อพัฒนาการทางความคิดและพัฒนาการตามวัย ทำให้พัฒนาการช้ากว่าวัย มีแนวโน้มแยกตัวจากโลกภายนอกหรือมีพฤติกรรมที่ไม่รู้จักการรอเป็นเด็กสมาธิสั้นได้ 
          2 ปีขึ้นไปจนถึงเด็กโต ไม่ควรปล่อยให้อยู่หน้าจอตามลำพัง
          การนำสื่อดิจิทัลมาเสริมการเลี้ยงลูกไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่หน้าจอเป็นชั่วโมง อาทิ เด็กอายุ 2-5 ปีควรใช้เวลาอยู่หน้าจอวันละไม่เกิน 1 ชั่วโมง เพราะทำให้ขาดการเคลื่อนไหวหรือออกกำลังกายที่เหมาะสมตามวัย มีแนวโน้มเป็นโรคอ้วนได้และไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่หน้าจอตามลำพัง เช่นเดียวกับเด็กโตที่เริ่มคิดอย่างมีเหตุผล แต่ยังขาดการคิดไตร่ตรองแบบผู้ใหญ่ ผู้ปกครองจึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อสามารถให้คำแนะนำและคัดกรองสื่อ โดยเฉพาะการจำกัดสื่อที่มีการใช้ความรุนแรง 
          "ครอบครัว" หัวใจสำคัญในการพัฒนาเด็กให้มีคุณภาพ 
          นพ.พรเทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า ครอบครัวมีส่วนสำคัญที่สุดในการสร้างพื้นฐานการเรียนรู้ที่ดีและเสริมสร้างพัฒนาเด็กให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ด้วยการทำกิจกรรมร่วมกัน อาทิ การออกกำลังกาย ทานอาหารพร้อมหน้ากัน ทำกิจกรรมนอกบ้าน ขณะเดียวกันควรสังเกตว่าลูกมีความชอบหรือเก่งด้านไหน พร้อมสนับสนุนให้เก่งยิ่งขึ้นหรือชื่นชมเพื่อให้เด็กเกิดความภาคภูมิใจในตนเองและกล้าแสดงออกในขอบเขตที่เหมาะสม 
          การทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างพ่อแม่ลูกจึงเป็นการช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ภายในครอบครัวให้แนบแน่น สร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้ลูกท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสังคมยุคดิจิทัล โดยช่วงวันเด็กแห่งชาติเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้พาเด็ก ๆ ออกไปสัมผัสประสบการณ์การเรียนรู้นอกห้องเรียน ซึ่งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจัดขึ้นในหลายสถานที่ 
          สำหรับศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ จัดกิจกรรม MBK CENTER CHILDREN'S DAY FUTURE IS YOURS เพื่อให้น้อง ๆ หนู ๆ ได้กล้าแสดงออกและพัฒนาการความคิดสร้างสรรค์ พร้อมมอบความสุขผ่านสารพันความบันเทิงสุดไฮเทค พร้อมการประกวดเดินแฟชั่นโชว์ภายใต้คอนเซปต์ "เด็กไทย 2019 มุ่งสู่ยุค Digital" ชิงรางวัลมูลค่ารวมกว่า 20,000 บาท นอกจากนี้ยังชวนมาร่วมกันบริจาคตุ๊กตาและของเล่นภายในงาน เพื่อส่งต่อความสุขให้กับเด็กกำพร้าใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวันที่ 12 มกราคม 2562 บริเวณชั้น 5 โซน D (Outlet In Town)
กุมารแพทย์แนะเทคนิคพ่อแม่ 4.0 เลี้ยงลูกยุคดิจิทัล สมองดี โตไปไม่ติดจอ
กุมารแพทย์แนะเทคนิคพ่อแม่ 4.0 เลี้ยงลูกยุคดิจิทัล สมองดี โตไปไม่ติดจอ
 
กุมารแพทย์แนะเทคนิคพ่อแม่ 4.0 เลี้ยงลูกยุคดิจิทัล สมองดี โตไปไม่ติดจอ
กุมารแพทย์แนะเทคนิคพ่อแม่ 4.0 เลี้ยงลูกยุคดิจิทัล สมองดี โตไปไม่ติดจอ
 
 

ข่าวพรเทพ สวนดอก กุมารแพทย์+โรงพยาบาลกรุงเทพวันนี้

เสริมสร้างภูมิต้านทานให้ลูกน้อย ลดความเสี่ยงด้วยวัคซีน

อีกหนึ่งวิธีในการช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรคสำหรับลูกน้อยได้เป็นอย่างดี คือ การฉีดวัคซีน เพราะเด็กเล็กๆ ภูมิต้านทานอาจยังไม่ดีพอ การติดเชื้อโรคบางชนิดอาจก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยที่รุนแรงได้ การได้รับวัคซีนพื้นฐานจำเป็นตามวัย จะช่วยปกป้องลูกน้อยให้ปลอดภัย มีพัฒนาการที่ดีสมวัยและต่อเนื่อง นายแพทย์พรเทพ สวนดอก กุมารแพทย์สาขาโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า โดยทั่วไปเด็กเล็กควรได้รับวัคซีนพื้นฐานตามวัยตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 12 เดือน ประกอบด้วย วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ

สถานการณ์ไวรัส COVID-19 ที่กำลังแพร่ระบาด... ดูแลลูกรักให้ปลอดภัย ห่างไกลจาก COVID-19 — สถานการณ์ไวรัส COVID-19 ที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศไทย ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างรวด...

การเลี้ยงดูลูกในยุคดิจิทัลท่ามกลางข้อมูลข... กุมารแพทย์แนะเทคนิคพ่อแม่ 4.0 เลี้ยงลูกยุคดิจิทัล สมองดี โตไปไม่ติดจอ — การเลี้ยงดูลูกในยุคดิจิทัลท่ามกลางข้อมูลข่าวสารรอบตัวและการเชื่อมต่อแบบไร้พรมแดน แ...

โรงพยาบาลกรุงเทพภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร... โรงพยาบาลกรุงเทพติดอันดับ Top 5 ของไทย ในรางวัล The World's Best Hospitals 2025 - Thailand — โรงพยาบาลกรุงเทพภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็...

เด็ก...ต้องการการดูแลที่ใกล้ชิด เพื่อความ... เตรียมสุขภาพเด็กให้แข็งแรงสมวัย เสริมสร้างพัฒนาการและดูแลฟัน ในช่วงวัย 1-4 ปี — เด็ก...ต้องการการดูแลที่ใกล้ชิด เพื่อความสมบูรณ์พร้อมทั้งร่างกาย อารมณ์ จ...

ทพญ.วลัยลักษณ์ เกียรติธนากร ผู้อำนวยการอา... ภาพข่าว: รพ.กรุงเทพ ให้บริการตรวจสุขภาพร่างกายและฟันเด็กตามวัย — ทพญ.วลัยลักษณ์ เกียรติธนากร ผู้อำนวยการอาวุโส ศูนย์ทันตกรรม รพ. กรุงเทพ เชิญชวนผู้ปกครองค...

ปัจจุบันการให้วัคซีนเป็นที่ยอมรับโดยสากล ... เด็กหญิงฉีดวัคซีน HPV ลดเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก — ปัจจุบันการให้วัคซีนเป็นที่ยอมรับโดยสากล ว่าเป็นแนวทางป้องกันโรคติดต่อที่สำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ...

เนื่องด้วยฤดูกาลที่อากาศมีการเปลี่ยนแปลง ... RSV ไวรัสตัวร้าย ปล่อยไว้อันตรายถึงแก่ชีวิต — เนื่องด้วยฤดูกาลที่อากาศมีการเปลี่ยนแปลง เข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาว ร่างกายต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปล...