นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การดำเนินงานของโครงการโอปอย จะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) ทีมงานที่ปรึกษา และสถานประกอบการที่จะต้องผสานความร่วมมือกันในการดำเนินโครงการฯ โดย สอจ. จะทำหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือ ติดตามและประสานงาน ส่วนทีมงานที่ปรึกษาจะเป็นผู้ที่เข้าไปให้คำปรึกษาแก่สถานประกอบการ สำหรับสถานประกอบการมีหน้าที่ให้รายละเอียดแก่ทีมงานที่ปรึกษา และร่วมกันแก้ไข ดำเนินการปรับปรุงตามคำแนะนำของที่ปรึกษา รวมทั้ง ทีมที่ปรึกษายังได้จัดทำแผนการดำเนินงาน ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อให้สถานประกอบการนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาต่อยอดได้ด้วยตนเอง
10 ปีที่ผ่านมา โครงการฯ สามารถลดต้นทุน เพิ่มรายได้ให้สถานประกอบการคิดเป็นมูลค่ากว่า 4,914 ล้านบาท จากวงเงินงบประมาณรวมทั้งหมดที่ได้รับ 394.60 ล้านบาท ให้ผลประโยชน์มากถึง 12.45 เท่าของวงเงินงบประมาณ มีสถานประกอบการเข้าร่วมโครงการโอปอยจำนวนกว่า 1,505 ราย เฉลี่ยได้แล้วแต่ละรายสามารถลดต้นทุนเพิ่มรายได้ และสร้างมูลค่าเพิ่มได้เฉลี่ยรายละ 3.27 ล้านบาท ซึ่งหากผู้ประกอบการแต่ละรายยังคงดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่อง หรือนำความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาต่อยอดก็จะสามารถลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ในแต่ละปีให้กับสถานประกอบการได้มากทีเดียว
กระทรวงอุตสาหกรรม หวังว่าโครงการโอปอยจะเป็นหนึ่งในโครงการเล็กๆ ที่จะช่วยผลักดันให้สินค้าเกษตรแปรรูปของไทยก้าวสู่ Industry 4.0 และผู้ประกอบการยังสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทุกจังหวัด หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.opoai.com
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit