หลายคนคงคุ้นหู ชื่อเกาะสุกรหรือเกาะหมู
ซึ่งประชากรบนเกาะส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ดังนั้น จึงไม่มีการเลี้ยงหมู และไม่มีสุนัข แล้วทำไมถึงชื่อเกาะสุกรถ้าอยากรู้คำตอบ พร้อม ๆ กับอยากสัมผัสบรรยากาศท้องทะเลสวย ๆ ความงดงามของภูเขา ทุ่งนา และวิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวบ้าน ตามเราไปท่องเที่ยวเกาะสุกร จังหวัดตรังกันดีกว่า...เกาะสุกร หรือที่เรียกกันว่าเกาะหมู เป็นตำบลหนึ่งของอำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ตัวเกาะขนานกับแนวชายฝั่ง และห่างจากฝั่งเพียง 3 กิโลเมตร สภาพตัวเกาะประกอบด้วยภูเขา สวนยางพารา ป่าโกงกาง นาข้าว และทะเล ทำให้ชาวบ้านบนเกาะสุกรมีอาชีพประมง ทำสวนยาง และเกษตรกรรม นอกจากนี้ เมื่อหมดฤดูนาข้าวในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน ก็จะเห็นไร่แตงโมพันธุ์หวานแดงอร่อย ออกผลเต็มทั่วท้องทุ่ง เพราะเป็นสินค้าขึ้นชื่อของเกาะสุกร
ชาวบ้านบนเกาะสุกรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ทำให้บนเกาะไม่มีการเลี้ยงหมู เลี้ยงสุนัข สำหรับที่มาของชื่อเกาะสุกรนั่นมีเรื่องเล่าหลากหลาย เช่น ในอดีตบนเกาะมีหมูป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จนกระทั่งมีชาวประมงกลุ่มหนึ่งซึ่งนับถือศาสนาอิสลาม ได้อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่บนเกาะ จึงขับไล่หมูป่าออกไปจากเกาะ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนชายฝั่งมองไปเห็นฝูงหมูป่ากำลังว่ายน้ำอยู่ จึงเรียกเกาะนี้ว่าก่อนจะเปลี่ยนเป็นเกาะหมู เกาะสุกร
และอีกตำนานหนึ่งเล่าว่า มีเรือสำเภาของเศรษฐีมาจอดที่ปากน้ำ ซึ่งลูกชายของเศรษฐีนับถือศาสนาอิสลาม มาชอบลูกสาวของตายายที่นับถือศาสนาพุทธ และได้อยู่กินกันเป็นเวลานาน ต่อมาเรือสำเภากลับมาที่ปากน้ำ ตายายจึงมาเยี่ยมลูกสาว โดยเตรียมหมูปิ้งไม้เสียบมาให้ลูก แต่ลูกสาวแกล้งจำพ่อแม่ไม่ได้ ตายายโกรธขว้างของทิ้งหมด ทำให้ไม้เสียบหมูปิ้งลอยไปติดเป็นเกาะใหญ่ จึงเรียกชื่อเกาะนี้ว่าเกาะสุกร
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเกาะสุกรจะมีชายหาดที่ไม่สวยงามเหมือนกับเกาะอื่น ๆ ในจังหวัดตรัง แต่ก็มีกิจกรรมดี ๆ มากมาย ให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเที่ยวเกาะสุกรได้สนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็น การพักผ่อนชายหาด การเช่าเรือไปดำน้ำที่ เกาะเหลาเหลียง และ เกาะตะเกียง เพื่อชมปะการังเจ็ดสี ปะการังนานาชนิด และปลานีโม่ ซึ่งเหมาะสำหรับการศึกษาเรียนรู้เชิงนิเวศน์ทางทะเลการปั่นจักรยานชมวิวทิวทัศน์และการดำรงชีวิตของชาวบ้าน โดยเส้นทางจะผ่านภูเขา สวนยางพารา สวนมะม่วงหิมพานต์ ป่าโกงกาง ป่าโปร่ง ไร่แตงโม ทุ่งนา ซึ่งเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ควรไปสัมผัส เพราะจะได้ชื่นชมกับบรรยากาศท้องทุ่งนาข้าวเขียวขจี พร้อม ๆ กับสูดความหอมของกลิ่นขวัญข้าวช่วงตั้งท้อง หรือจะแวะเพลิดเพลินกับฝูงวัวควาย ฝูงนกเป็ดน้ำ นกกระยาง นกกวัก ปิดท้ายด้วยไปชมฝูงปูก้ามดาบ ปูหลากสี ฝูงนาก สัตว์ป่าชายเลนก็สามารถทำได้ทั้งนี้ หากใครสัมผัสชีวิตของชาวสวนยางพารา ก็ไม่ควรพลาดไปชมการกรีดยางในช่วงเช้ามืด และชมกรรมวิธีให้ได้ซึ่งแผ่นยางที่สวยงาม รวมถึงไปเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบ้าน เช่น ร้านจำหน่ายผาบาติก เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเรียนรู้ และหัดวาดลายผ้าบาติก รวมทั้งกรรมวิธีการย้อมผ้าที่ตั้งและอาณาเขต
องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสุกร ซึ่งเป็นตำบลหนึ่งในจำนวน 10 ตำบลของอำเภอปะเหลียนจังหวัดตรัง และเป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่กลางทะเล โดยยังไม่มีสะพานเชื่อมต่อระหว่างเกาะกับตำบลรอบนอก ต้องใช้เรือยนต์เป็นพาหนะในการเดินทาง มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 8,750 ไร่ หรือประมาณ 14 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสลับเนินเขา
อาณาเขตติดต่อกับพื้นที่และตำบลต่าง ๆ ดังนี้
ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลตะเสะ อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง ติดต่อกับ ตำบลท่าข้าม อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง
ทิศใต้ ติดต่อกับ ทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดีย
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ พื้นที่อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ พื้นที่ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง
ลักษณะภูมิประเทศ
สภาพพื้นที่ตำบลเกาะสุกรโดยทั่วไปเป็นพื้นที่ราบสลับเนินเขามีชาดหาดเป็นแนวยาวเลียบบริเวณชายฝั่ง การตั้งถิ่นฐานของราษฎรตั้งบ้านเรือนอยู่กระจัดกระจายไปตามแนวทางคมนาคมและแนวชายฝั่งทะเลเป็นส่วนใหญ่
ทรัพยากรธรรมชาติ
สำหรับทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ตำบลเกาะสุกร ได้แก่ ป่าชายเลน สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ รวมทั้งชายหาดที่สวยงามเกาะรังนกเขตการปกครองและประชากร
องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสุกร แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 4 หมู่บ้าน มีประชากรทั้งสิ้น 2,602 คน แยกเป็นชาย 1,321 คน เป็นหญิง 1,281 คน และมีจำนวนครัวเรือน871 ครัวเรือน ความหนาแน่นของประชากร 187.36 คนต่อตารางกิโลเมตร ประชากรร้อยละ 90 นับถือศาสนาอิสลาม การเดินทาง
ท่านสามารถนั่งรถตู้สายตรัง-ย่านตาขาว ไปลงที่ตลาดย่านตาขาว แล้วต่อรถสองแถวสายย่านตาขาว-ปากปรน-แหลมตะเสะ ระยะทาง 47 กิโลเมตร ถึงท่าเรือตะเสะ หรือใช้เส้นทาง ตรัง-ปะเหลียน(ทางหลวงหมายเลข 404) เลี้ยวขวาแยกบ้านนา ประมาณ 18 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายอีกประมาณ 7 กิโลเมตรถึงท่าเรือตะเสะม.4 ต.ตะเสะ อ.หาดสำราญ จ.ตรังเดินทางต่อด้วยเรือหางยาว ราวประมาณ 15-20นาที
อัตราค่าเรือโดยสาร ตะเสะ-เกาะสุกร
ผู้ใหญ่ 30.-/ คน
เด็ก 25.-/ คน
เหมาลำ 250.-/ 8 คน
อัตราค่ารถโดยสาร
สภาพเศรษฐกิจ
ส่วนใหญ่ทำการประมง และรองลงมาคือ เกษตรกรรม ทำสวนโดยเฉพาะสวนยางพารา ทำนา ปลูกแตงโม มะม่วงหินมะพานต์ เลี้ยงสัตว์ เช่น ไก่พื้นเมือง โค เป็ด ควายและอาชีพรับจ้างทั่วไป สภาพทางสังคม
การศึกษา ตำบลเกาะสุกรมีที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้านทุกหมู่บ้าน จำนวน ๑ แห่ง และมีสถานศึกษาในระบบโรงเรียนทั้งสิ้น 3 แห่ง ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้
ระดับการศึกษา ชื่อหน่วยงาน สถานที่ตั้ง
อนุบาล ศพด.อบต.เกาะสุกร ม. ๓
ประถมศึกษา ร.ร.บ้านแหลม ม. 2
ระดับประถมศึกษา -มัธยมศึกษา ร.ร.หาดทรายทอง ม. ๔
ข้อมูลจากสถานศึกษา ณ เดือนพฤษภาคม ๒๕๕๙
สถาบันและองค์กรศาสนา
ตำบลเกาะสุกรมีมัสยิด จำนวน 4 แห่งดังนี้
๑. มัสยิดบ้านแหลม หมู่ที่ 2
๒. มัสยิดดารีลมุตตากีน หมู่ที่ 2
๓. มัสยิดอัสซอลาหุดดิน หมู่ที่ 3
๔. มัสยิดยามีลาตุล หมู่ที่ 4
สาธารณสุข ตำบลเกาะสุกรมีสถานที่ให้บริการด้านสาธารณสุข ๑ แห่งคือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเกาะสุกร (รพ.สต.) ตั้งอยู่หมู่ที่ ๔
สถานที่ท่องเที่ยวของเกาะสุกร
จุดดำน้ำ
"ดินแดนต้องห้าม"..ครั้งอดีตเขตสัมปทานรังนกอีแอ่นที่ถูกปิดตายมานานนับหลายสิบปี จึงทำให้สภาพพื้นที่ของธรรมชาติบนเกาะ และในทะเล จึงยังคงสมบูรณ์สวยงาม
#เกาะเภตรา
เกาะเภตรา เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ในหมู่เกาะเภตรา ตัวเกาะเป็นภูเขาหินปูนที่มียอดเขาแหลมสูงกว่า300เมตรมีหาดทรายยาวไปตามแนวเกาะ เหนือจรดใต้ เสน่ห์เภตรา คือ ความสวยงามของภูเขา และหน้าผาสูงชัน ตั้งตระหง่าน อยู่กลางพื้นน้ำสีเขียวมรกตทะเลอันดามัน มหัศจรรย์สวรรค์ทะเลใต้
#เกาะตะเกียง
เกาะตะเกียง เป็นเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานหมู่เกาะเภตรา ซึ่งครอบคลุมทะเลสตูลและทะเลตรัง ลักษณะสีเขียวครึ้ม ที่หันหน้าไปหาเกาะเหลาเหลียง ด้านหน้าเกาะเหมะแก่การเล่มน้ำ ทะเลใสหาดทรายงามขาวนวลชวนให้หลงไหลโลกใต้น้ำแนวปะการังน้ำตื้นที่สมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่ง
#เกาะเหลาเหลียง
เกาะเหลาเหลียง ตั้งอยู่ในเขตตำบลเกาะสุกร หนึ่งในหมู่เกาะเภตรา ความงามเป็นธรรมชาติ หาดทรายขาว น้ำทะเลใส ความสมบูรณ์ ปะการัง กัลปังหา ปลาสวยงาม สิ่งมีชีวิตใต้น้ำมากมาย ซึ่งประกอบด้วย 2 เกาะ เกาะเหลาเหลียงเหนือ และเกาะเหลาเหลียงใต้
จุดดำน้ำเหล่านี้นับเป็นจุดที่สำคัญและมีชื่อเสียงในเรื่องของปะการังเจ็ดสี ปะการังเขากวาง และฝูงปลาการ์ตูนหลากสีสัน หาดสวยน้ำใส เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวที่ได้มาดำน้ำ น้ำเลที่ใสสะอาด ทำให้สามาถมองเห็นฝูงปลาได้โดยไม่ต้องลงไปดำน้ำ พื้นที่บริเวณนี้เหมาะแก่การดำน้ำตื้น ถ้าหากคุณโชคดี อาจจะได้เห็นปลาพะยูน มาว่ายน้ำเล่นอีกด้วย
#บ่อน้ำจืดมหัศจรรย์
เป็นบ่อน้ำจืดที่อยู่ในทะเล แต่ความมหัศจรรย์อยู่ที่ น้ำในบ่อกลับไม่มีความเค็มเลย น้ำในบ่อจืดสนิท ในฤดูแล้งชาวบ้านจะใช้ในบ่อนี้ในการอุปโภคบริโภค เพราะน้ำในบ่อนี้ไม่เคยแห้งขอด ปัจจุบันองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสุกร กำลังพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ และปรับปรุงพื้นที่บริเวณให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
#สันหลังมังกรหยก
เป็นสันทรายทอดยาว ยุกลางทะเล เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างทราย เปลือกหอยและโคลน ปรากฏเป็นสันเนิน เส้นทางคดเคี้ยว ยามกระทบกับแสงพระอาทิตย์จะมองเห็นเป็นสีหยกเขียว หน้าหาดของเกาะสุกร ซึ่งท่าน ผวจ.ตรัง ได้ตั้งชื่อให้ว่า..สันหลังมังกรหยก...มีความยาวกว่า 3 กิโลเมตร และปัจจุบันทาง อบต.เกาะสุกร กำลังพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่สันหลังมังกรทับทิมสยาม หรือ ราชาสันหลังมังกรแห่งท้องทะเลอันดามัน เป็นสันหลังมังกรที่ทั้งยาวและใหญ่ในบรรดาสันหลังมังกรของจังหวัดตรัง มีความยาวกว่า 5 กิโลเมตร กว้างกว่า 700 เมตร ที่สำคัญมีบริเวณพื้นที่ของสันหลังมังกรหรือสันทรายที่เต็มไปด้วยทรายและยังมีปูชนิดหนึ่งที่ชาวบ้านเรียกว่า ปูแดงขนาดเล็กนับล้านตัว คลานต้วมเตียมเต็มบนเนินทราย ทำให้เป็นที่มหัศจรรย์ต่อผู้คนที่ได้พบเห็น
#จุดชมวิวเกาะสุกร
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่นักท่องเที่ยวต่างมาชื่นชมความงดงามของทิวทัศน์ของเกาะสุกร เพราะสามารถมองเห็นสันหลังมังกร รวมทั้งบริเวณท่าเรือซึ่งนับเป็นหน้าบ้านของเกาะที่สวยงามอย่างมาก จุดชมวิวแห่งนี้มีศาลาที่พักสำหรับให้นั่งท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อนอีกด้วย ปัจจุบันกำลังมีการปรับปรุงพื้นที่โดยรอบเพื่อให้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจและเก็บภาพที่ระลึก ถ้าพูดถึงนักท่องเที่ยวที่ปั่นจักรยานไปตามเส้นทางรอบเกาะ ถนนสายนี้นับว่าไม่ควรพลาด เพราะต้องปั่นขึ้นเนินเขาสูงชัน กว่าจะปั่นถึงศาลาชมวิว เล่นเอาเหงื่อตก น่องแข็งไปตามๆกัน แต่เมื่อมาถึงจุดชมวิวแห่งนี้แล้ว ก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "หายเหนื่อยค่ะ"
วิถีชีวิตชาวบ้าน
ชาวบ้านบนเกาะสุกรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง ร้อยละ 70 และกรีดยาง ร้อยละ 20 และอาชีพอื่นๆอีกร้อยละ 10 จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเกาะสุกร ถึงประทับใจวิถีชีวิตชาวบ้านบนเกาะอย่างมาก เพราะมีความเรียบง่าย ไม่ยุ่งยาก ยังคงมีกลิ่นไอของความเป็นธรรมชาติและคงความเป็นชาวเกาะอย่างมาก นักท่องเที่ยวบางคนออกติดตามชาวบ้านออกทะเลไปหาปลา ปู กุ้ง ก็มี บางส่วนก็ช่วยชาวสวนยางกรีดยาง ทำยางแผ่น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต่างชอบและตื่นเต้นเมื่อได้เห็นภาพเหล่านี้ ต่างเก็บภาพความประทับใจบันทึกลงในกล้องถ่ายภาพ ที่นำติดตัวมาพร้อมกับรอยยิ้มของเจ้าบ้านที่เป็นเสน่ห์ให้นักท่องเที่ยวหลงใหลและแวะกลับมาอีกครั้ง เมื่อมีโอกาส......
ชมควายทะเล
ทุกเช้า-เย็นที่หาดบ้านแหลม, หาดแตงโม บนเกาะสุกร อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง จะเห็นควายกว่า 300 ตัว ลงเล่นน้ำทะเลตั้งแต่เช้าโดยลงเล่นกันทุกตัว เริ่มจากบ้านแหลมตรงสะพานท่าเทียบเรือประมงและยาวไปถึงหาดแตงโมหรือหาดแตงจีนระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร ฝูงควายจะอยู่ในทะเลนอนแช่น้ำทะเลเพื่อคลายร้อนในหน้าร้อน ชาวบ้านบอกว่าสาเหตุที่ควายชอบลงอาบน้ำ เล่นน้ำ เพราะสภาพอากาศที่ร้อนจัดประกอบมีแมลงจำนวนมากที่ไต่ตอมเจ้าควาย บางตัวบางฝูงไปเล่นน้ำสักพักก็ขึ้นมายืนและนอนที่ชายหาด เมื่อน้ำทะเลขึ้นก็จะขึ้นฝั่งเมื่อน้ำลงก็จะไปแช่น้ำตามเวลาน้ำขึ้นน้ำลงในแต่ละวันสำหรับควายที่นี้เลี้ยงไว้สำหรับการทำนาบนเกาะแห่งนี้ซึ่งมีเนื้อที่ทำนากว่า 300 ไร่ และข้าวที่นี่เลี้ยงคน บนเกาะสุกร 4 หมู่บ้านได้อย่างพอเพียงไม่อดยาก ในแต่ละปีนอกจากนั้นควายเหล่านี้ส่วนหนึ่งก็จะเลี้ยงเพื่อขายออกไปสำหรับฆ่าเป็นอาหาร ปัจจุบันนี้ทางผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสุกรมีแนวความคิดและมีแผนที่จะพัฒนาควายทะเลกว่า 300 ตัวเหล่านี้
สำหรับใครที่สนใจท่องเที่ยวและพักโฮมสเตย์ ที่ชุมชนเกาะสุกร ประสานงานได้ที่ 075 829 950
ข้อมูลเกาะสุกร http://www.kohsukorn.go.th/history.php
Cr. กลุ่ม #ตรังPositive
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit