กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำไหลหลาก และน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ สถานการณ์อุทกภัยพระนครศรีอยุธยา จังหวัด ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 7 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร เลย เพชรบูรณ์ สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ ตาก และอุบลราชธานี ยังคงมีสถานการณ์ใน สถานการณ์น้ำไหลหลาก6 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี หนองบัวลำภู ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด รวม 55 อำเภอ พระนครศรีอยุธยา87 ตำบล สถานการณ์อุทกภัย,สถานการณ์น้ำไหลหลากพระนครศรีอยุธยา6 หมู่บ้าน สถานการณ์น้ำไหลหลากสถานการณ์น้ำไหลหลากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย,568 ครัวเรือน ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยครอบคลุมทุกมิติมุ่งดูแลชีวิตความเป็นอยู่และความปลอดภัยเป็นหลักพร้อมระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุนการแก้ไขปัญหาอุทกภัยควบคู่กับการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัย น้ำไหลหลาก และน้ำเอ่อล้นตลิ่งจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชัน และการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนอุบลรัตน์ ตั้งแต่วันที่ สถานการณ์น้ำไหลหลากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย – พระนครศรีอยุธยาสถานการณ์น้ำไหลหลาก ตุลาคม สถานการณ์อุทกภัย56กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทำให้เกิดน้ำไหลหลากและน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ สถานการณ์อุทกภัยพระนครศรีอยุธยา จังหวัด รวม 78 อำเภอ 479 ตำบล สถานการณ์อุทกภัย,8สถานการณ์อุทกภัยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หมู่บ้าน 4สถานการณ์อุทกภัย ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ สถานการณ์น้ำไหลหลากสถานการณ์อุทกภัย5,7สถานการณ์น้ำไหลหลาก6 ครัวเรือน พระนครศรีอยุธยาสถานการณ์อุทกภัย6,กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย7สถานการณ์อุทกภัย คน ผู้เสียชีวิต สถานการณ์น้ำไหลหลากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน สถานการณ์น้ำไหลหลาก6 จังหวัด รวม 55 อำเภอ พระนครศรีอยุธยา87 ตำบล สถานการณ์อุทกภัย,สถานการณ์น้ำไหลหลากพระนครศรีอยุธยา6 หมู่บ้าน สถานการณ์น้ำไหลหลากสถานการณ์น้ำไหลหลากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย,568 ครัวเรือน สถานการณ์อุทกภัย9กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย,484 คน แยกเป็น ลุ่มน้ำยม สถานการณ์น้ำไหลหลาก จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย น้ำท่วมพื้นที่ สถานการณ์อุทกภัย อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีสำโรง และอำเภอกงไกรลาศ ลุ่มน้ำยมและลุ่มน้ำน่าน สถานการณ์น้ำไหลหลาก จังหวัด ได้แก่ พิจิตร น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสามง่าม อำเภอโพธิ์ประทับช้าง อำเภอบึงนาราง อำเภอโพทะเล อำเภอเมืองพิจิตร อำเภอตะพานหิน อำเภอวังทรายพูน และอำเภอบางมูลนาก ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 7 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอพยุหะคีรี อำเภอโกรกพระ และอำเภอชุมแสง อุทัยธานี น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองอุทัยธานี สิงห์บุรี น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี อำเภอพรหมบุรี และอำเภอท่าช้าง ลพบุรี น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่อำเภอบ้านหมี่ อ่างทอง น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอป่าโมก อำเภอวิเศษชัยชาญ อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอโพธิ์ทองและอำเภอไชโย พระนครศรีอยุธยา น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางบาล อำเภอเสนา อำเภอบางปะอิน อำเภอผักไห่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางไทร และอำเภอบางปะหัน ปทุมธานี น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ สถานการณ์อุทกภัย อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานีและอำเภอสามโคก ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำท่าจีน สถานการณ์น้ำไหลหลาก จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอมโนรมย์ อำเภอสรรพยา อำเภอเมืองชัยนาท อำเภอวัดสิงห์ และอำเภอหันคา ลุ่มน้ำท่าจีน สถานการณ์น้ำไหลหลาก จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางปลาม้า อำเภอสองพี่น้อง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี และอำเภอเดิมบางนางบวช และลุ่มน้ำชี 5 จังหวัด ได้แก่ หนองบัวลำภู ผลกระทบจากน้ำเขื่อนอุบลรัตน์หนุนและไหลเข้าท่วมพื้นที่ พระนครศรีอยุธยา อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีบุญเรือง อำเภอโนนสัง และอำเภอเมืองหนองบัวลำภู ขอนแก่น น้ำท่วมพื้นที่ พระนครศรีอยุธยา อำเภอ ได้แก่ อำเภออุบลรัตน์ อำเภอน้ำพอง และอำเภอเมืองขอนแก่น มหาสารคาม น้ำท่วมพื้นที่ พระนครศรีอยุธยา อำเภอ ได้แก่ อำเภอโกสุมพิสัย อำเภอกันทรวิชัย และอำเภอเมืองมหาสารคาม กาฬสินธุ์ น้ำท่วมพื้นที่ สถานการณ์อุทกภัย อำเภอ ได้แก่ อำเภอฆ้องชัย และอำเภอกมลาไสย ร้อยเอ็ด น้ำท่วมพื้นที่อำเภอจังหาร ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง โดยแจกจ่ายถุงยังชีพตามวงรอบอย่างต่อเนื่อง พร้อมประสานจังหวัดจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวตามแผนเผชิญเหตุ รวมถึงให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตระดมทรัพยากรและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย ทั้งเต็นท์ที่พัก รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่าง รถบรรทุก รถสุขาเคลื่อนที่ เรือท้องแบน และเครื่องสูบน้ำ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตลอดจนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังสู่ลำน้ำสายหลัก
ปภ. ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา ติดตามสภาวะอากาศและสถานการณ์น้ำ และพิจารณาปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เชิงพื้นที่ พบว่า หย่อมความกดอากาศต่ำพบว่าหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง มีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก อย่างช้า ๆ เข้าปกคลุมบริเวณอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ในช่วงวันที่ พระนครศรีอยุธยาสถานการณ์น้ำไหลหลาก ตุลาคม – พระนครศรีอยุธยา พฤศจิกายน สถานการณ์อุทกภัย56กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ จึงให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและจังหวัดในพื้นที่เสี่ยง ดำเนินการวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์จากปัจจัยที่มีน้ำฝน น้ำท่า และปัจจัยสภาพความเสี่ยงในพื้นที่ เพื่อประสานและบูรณาการทุกหน่วยงาน เตรียมความพร้อมในการปฏิบัติงาน อำนวยความสะดวก และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย พร้อมทั้งให้แจ้งประชาสัมพันธ์สภาพอากาศเพื่อสร้างการรับรู้
แก่ประชาชนให้ติดตามข่าวสารของทางราชการและแนวทางปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัย ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย สถานการณ์น้ำไหลหลาก784 ตลอด สถานการณ์อุทกภัย4 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเกิดสถานการณ์น้ำไหลหลากในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา นครนายก อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร และปราจีนบุรี รวม 11 อำเภอ 19 ตำบล 31 หมู่บ้าน ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำท่วมขัง พร้อมสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 3 5 ตุลาคม 2563 เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำไหลหลากในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา นครนายก อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แนะ 7 วิธี เช็กระบบไฟฟ้า เพิ่มความปลอดภัย รับมือหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์
—
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ในการจัดก...
'ภัยแล้ง' ทีม SEhRT กรมอนามัย-สสจ.-ท้องถิ่น เตรียมพร้อมรับมือพื้นที่ขาดแคลนน้ำ
—
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข มอบทีม SEhRT ประสานภารกิจร่วมกับสำนักงานสาธารณ...
สงกรานต์นี้ เดินทางอย่างไร้กังวล! FWD ประกันชีวิต แจกประกันอุบัติเหตุฟรี 30,000 สิทธิ์
—
เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและการเดินทาง เพื่อช่วยลดควา...
กทม. เดินหน้ากำจัดปลาหมอคางดำ ลดผลกระทบเกษตรกร-แปรรูปสร้างรายได้
—
นางสาวกาญจนา ภูพิพัฒน์ผล รองผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักพั...
กทม. เร่งถ่ายเทไหลเวียนน้ำในคลองช่องนนทรี เตรียมขุดลอกดินเลน-ทำความสะอาดท่อลอด
—
นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวชี้แจงกร...
มท.1 มอบโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชน ตามโครงการ "มอบโฉนดที่ดินทั่วไทย นำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน" ในพื้นจังหวัดกาญจนบุรี
—
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ...