ปรับพฤติกรรมชีวิต ห่างไกลออฟฟิศซินโดรม

          ด้วยสภาพการทำงานที่ต้องรีบเร่ง การอดอาหาร อดหลับอดนอนเพื่อให้งานเสร็จ ทำให้ ร่างกาย ต้องแบกรับความตึงเครียด ปราศจากการพักผ่อน อีกทั้งการใช้ คอมพิวเตอร์วันละหลาย ๆ ชั่วโมง นั่ง ยืน เดิน ฯลฯ ไม่ถูกท่า หรืออยู่ในท่าซ้ำ ๆ เดิม ๆ ต่อเนื่องนานเกินไป จนปวดคอ บ่าไหล่ เมื่อยล้าหลัง ขา เท้า ข้อมือ ข้อเข่า หรือปวดศีรษะ และหนักขึ้น ๆ กระทั่งเข้าสู่ภาวะออฟฟิศซินโดรม ซึ่งในระยะยาว อาจจะก่อ ให้เกิดอาการเรื้อรังและโรคอื่น ๆ ตามมาได้
          ออฟฟิศ ซินโดรมหากปล่อยไว้ อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
ศ.นพ.ธไนนิธย์ โชตนภูติ แพทย์หัวหน้าสถาบัน และแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกและข้อ สถาบันกระดูกและข้อ โรงพยาบาลพญาไท ออฟฟิศซินโดรม กล่าวถึงภาวะ "ออฟฟิศซินโดรม" ที่เป็นโรคเกิดจาก พฤติกรรมการทำงานและใช้ชีวิตไม่เหมาะสม เมื่อรักษาแล้วต้องปรับพฤติกรรมชีวิต เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นซ้ำหรือเป็นภาวะปวดเรื้อรัง
          คนไข้ในกลุ่มโรคออฟฟิศซินโดรม จำแนกง่าย ๆ 3 ระดับดังนี้
          ระยะเริ่มต้นจะแสดงอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ จนคนมองข้ามไป เช่น อาการปวดบ่า ปวดคอ ปวดหลัง ปวดหัว ฯลฯ
          ระยะต่อมา คือ ปวดจนแทบขยับเขยื้อนร่างกายแทบไม่ได้ ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณเตือนของอาการ กล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง เช่น อาการยกแขนไม่ขึ้น เนื่องจากมีพังผืดเกาะที่บริเวณสะบักและหัวไหล บางรายอาจมีอาการชาไปที่มือหรือนิ้ว
          ระยะหนักหน่วง คือ ปล่อยทิ้งไว้โดยไม่มีการปรับพฤติกรรมหรือรักษา อาจนำไปสู่โรคร้าย
          ที่อันตรายถึงชีวิต เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลันได้
          ในส่วนการวินิจฉัยและเข้ารับการรักษา ผศ.นพ.จิระเดช ตุงคะเศรณี แพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกและข้อประจำคลินิกนวัตกรรมระงับปวด โรงพยาบาลพญาไท ออฟฟิศซินโดรม ให้ข้อมูลว่า "เริ่มต้นโดยทีมแพทย์ จะพิจารณาจากสาเหตุของโรคก่อน เพื่อคืนสภาพของกระดูกและข้อ กล้ามเนื้อ และเส้นประสาท สู่สภาวะปกติ และเป็นการป้องกันไม่ให้กลับมาเกิดอาการปวดอีก โดยแนวทางในการรักษาแบบไม่ผ่าตัดมีหลายวิธีขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของโรค ยกตัวอย่างเช่น การใช้พลาสมาซึ่งมาจากเลือดของคนไข้ ผ่านกระบวนการพิเศษในการแยกพลาสมาจากน้ำเลือดของเรา เพื่อนำมาซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บ หรือการฉีดยาระงับการปวดการอักเสบ การใช้คลื่นความถี่พิเศษไปหยุดยั้งความเจ็บปวดของเส้นประสาท ซึ่งเหมาะสำหรับคนไข้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง ในบางกรณีแพทย์อาจต้องให้มีการทำกายภาพบำบัด หรือการรักษาอื่น ๆ ร่วมด้วย"
          ทางด้าน ดร.สิริพร ณ ป้อมเพชร อัลภาชน์ ผู้จัดการฝ่ายการสื่อสารการตลาด (Marketing and Communications Manager) ขององค์กรธุรกิจเกี่ยวกับกฎหมาย และอาจารย์พิเศษ ในหลักสูตร นานาชาติ ในสถาบันการศึกษาหลายแห่ง แบ่งปันถึงสาเหตุหลักของ ปัญหาอาการปวดคอ บ่า ไหล่ ระยะยาว "ค่อนข้างระมัดระวังเรื่องการนั่งทำงานหรืออยู่ในอิริยาบถเดิม ๆ เป็นเวลานาน เช่น การนั่งก้มหน้า ตัวงอ ห่อไหล่ อยู่กับสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ ที่จะทำให้เกิดการเกร็งกล้ามเนื้อ บริเวณคอและไหล่ โดยจะพักเปลี่ยนอิริยาบถ หรือมีการยืดกล้ามเนื้อผ่อนคลายระหว่างทำงานเป็นระยะ ๆ ค่ะ"
          ส่วนผู้เชี่ยวชาญด้านการเตรียมสมรรถภาพร่างกายเพื่อการกีฬา มิกกี้ นนท์ อัลภาชน์ เล่าถึง ทางออกในเรื่องการปวด กล้ามเนื้อ กระดูก และข้อ จากการออกกำลังกาย และกีฬาต่าง ๆ รวมถึงคน ที่อยู่ในวัยทำงานที่เครียดเคร่งและมีเวลาออกกำลังกาย ยืดเส้นสายน้อยเพิ่มเติมด้วย "ถ้าจะแบ่งอาการ บาดเจ็บจากการออกกำลังกายและกีฬามีทั้งกล้ามเนื้อระบมทั้งก่อน และหลังการเล่นกีฬา เอ็นฉีกขาด หรือรุนแรงถึงระดับกระดูกและข้อ เราต้องป้องกันตั้งแต่แรก อย่างง่ายที่สุดคือ รู้จักร่างกายตัวเอง เข้าใจว่าร่างกายของเรามีประสิทธิภาพแค่ไหน ก่อนจะฝืนหนักเกินกว่าขีดจำกัดของตัวเองจะรับได้ และจะต้องมีการยืดกล้ามเนื้อหรือวอร์มร่างกายก่อนทุกครั้ง
          "สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย แนะนำท่าออกกำลังกายเพื่อให้ได้ยืดเส้นยืดสายในออฟฟิศ สองท่า ท่าแรกคือ Squat Mobility ท่าที่สองคือ Push up Shoulder Mobility ทั้งสองท่าจะช่วยในการปรับสรีระ และเรื่องการขยับตัวของกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อต่าง ๆ จากการอยู่ในท่าเดิมนาน ๆ
          ขั้นตอนง่ายๆ ของ ท่าแรก Squat Mobility
          หนึ่ง- ยืนขากว้างประมาณหัวไหล่
          สอง- ขาตรงก้มลงไปจับปลายเท้า ท่อนแขนอยู่ด้านในของขา
          สาม-นั่งยองลงไป
          สี่-ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะแล้วยืนขึ้น
          ส่วนท่าที่สอง Push up Shoulder Mobility
          หนึ่ง-เริ่มท่ามาตรฐานแบบวิดพื้น บนพื้น กำแพง หรือโต๊ะทำงาน
          สอง- ย่อแขนและลำตัวลง ให้ข้อศอกกาง
          สาม- ดันตัวเองกลับมาแขนตรง กดศีรษะลง
          สี่-กลับมาที่ท่าเริ่มต้น
          สำหรับศิลปินดาราสาวสวย แพทตี้-พิมพาภรณ์ เสริมพณิชกิจ ดารานักแสดงจากช่อง 7 ที่มีทั้งภารกิจในสายงานบันเทิง และธุรกิจส่วนตัว แบ่งปันประเด็นปัญหาการปวดกล้ามเนื้อ กระดูก และข้อ อย่างทีสาว ๆ หลายคนเป็นอยู่ "แพทตี้เคยมีปัญหาปวดสะโพก ต้นขา น่อง และเท้า อยู่เป็นระยะมาตลอดหลายปี สิ่งที่ปรับและทำได้อย่างยั่งยืนเลยคือ ทำบุคลิกภาพให้ดี ระวังท่าทางการนั่ง นอน ยืน และเดิน แน่นอนว่าผู้หญิงทำงานทุกคนจะต้องใส่รองเท้าส้นสูง สะพายหรือถือกระเป๋าค่อนข้าง มีน้ำหนัก นั่งไขว่ห้าง หรือแม้แต่ตอนนอนอ่านหนังสือ หรือใช้สมาร์ทโฟน ก็จะไม่ระวังอิริยาบถที่จะทำให้กล้ามเนื้อปวดเมื่อย ท่าที่อาจทำกระดูกคดงอ และปัญหาอื่น ๆ ที่อาจตามมาอีกมาก ตรงนี้แพตตี้คิดว่า เราต้องฝึกระเบียบวินัยให้ร่างกายและท่าทางของตัวเอง ซึ่งการเล่นโยคะช่วยได้มากค่ะ ถือว่าได้ทั้ง สุขภาพและบุคลิกภาพค่ะ"
          "7 ข้อปรับพฤติกรรมชีวิต ห่างไกลออฟฟิศซินโดรม"โรงพยาบาลพญาไท. เลิกอิริยาบถในการทำงานไม่เหมาะสม ทั้งนั่งหลังค่อม การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ มากกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน โดยไม่เปลี่ยนอิริยาบถ หรือการยืน เดิน และอยู่ในอิริยาบถอื่นใดนานเกินไป
          ออฟฟิศซินโดรม. ลดปัญหาความเครียด เพราะความเครียดนำมาซึ่งอาการยึด ตึง ของเส้นเอ็น กล้ามเนื้อ ได้ทุกส่วน
          3. ละจากสภาพแวดล้อมที่ไม่อำนวยความสะดวกต่อการทำงาน โต๊ะทำงานที่ไม่เป็นระเบียบ ไม่สะดวกต่อการ หยิบสิ่ง ของ เก้าอี้ไม่เหมาะสม ไม่มีพนักพิงที่รองรับหลังอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการกดแป้นคียบอร์ดที่ไม่มีตัวรองรับ ข้อมือ จะทำให้มีการกระดกข้อมือขึ้นลงซ้ำ ๆ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการอักเสบบริเวณเส้นเอ็น รวมทั้งเกิดภาวะพังผืดหนา ทำให้เกิดอาการชาบริเวณนิ้ว และข้อมือ
          4. ดูแลอาหารการกิน ให้ตรงมื้อ และครบคุณค่าทางโภชนาการ การรับประทานน้อยเกินไป การอด หรือ กินไม่ตรงเวลา ย่อมทำให้เกิดปัญหาโรคอื่นๆ ตามมา รวมถึง การกินที่มากกินไป กินของไม่มีประโยชน์ ก็เช่นกัน
          5. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เพราะสารชนิดนี้มีผลกระตุ้น ให้เกิดการหลั่งกรดออกมามาก
          6. ส่งเสริม สภาพแวดล้อมอื่น ๆ จัดโต๊ะและเก้าอี้ทำงาน และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เหมาะกับอิริยาบถประจำวัน ทำห้องทุกห้องในบ้านและที่ทำงานให้ปลอดโปร่ง สะดวกต่อการ ยืน เดิน และหยิบฉวยสิ่งของ ทั้งยังสร้างความผ่อนคลาย
          7. เพิ่มเติมการออกกำลังกาย และ/หรือ กีฬา เป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 วัน วันละ 3ธไนนิธย์ โชตนภูติ นาที
เพียงเท่านี้เพื่อนซี้ที่คุณไม่ได้อยากต้อนรับอย่าง "ออฟฟิศซินโดรม" ก็จะถอยห่างความสนิทสนม ออกไปจนกลายเป็นหนุ่มสาวสุขภาพดีที่ไร้ความกังวลต่อโรคต่าง ๆ ในอนาคตแล้ว
          ข้อมูลจากการเสวนาสุขภาพ "ห่างไกลโรคฮิต ออฟฟิศซินโดรม" โดย คลินิกนวัตกรรมระงับปวด สถาบันกระดูกและข้อ โรงพยาบาล พญาไท ออฟฟิศซินโดรม





ปรับพฤติกรรมชีวิต ห่างไกลออฟฟิศซินโดรม ปรับพฤติกรรมชีวิต ห่างไกลออฟฟิศซินโดรม

ข่าวธไนนิธย์ โชตนภูติ+โรงพยาบาลพญาไท2วันนี้

ภาพข่าว: โรงพยาบาลพญาไท2 เปิดคลินิกนวัตกรรมระงับปวด

ศ.นพ.ธไนนิธย์ โชตนภูติ (ที่ 4จากซ้าย) แพทย์หัวหน้าสถาบันกระดูกและข้อ และทีมแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกและข้อ สถาบันกระดูกและข้อ โรงพยาบาลพญาไท 2 เป็นประธาน เปิดคลินิกนวัตกรรมระงับปวด บริการวินิจฉัยและดูแลรักษาอาการบาดเจ็บของผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ ครบวงจร ด้วยนวัตกรรมการรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด เจาะกลุ่มวัยทำงานเข้าข่ายออฟฟิศซินโดรม ณ สถาบันกระดูกและข้อ ชั้น 5 อาคาร บี รพ.พญาไท

ด้วยสภาพการทำงานที่ต้องรีบเร่ง การอดอาหาร... ปรับพฤติกรรมชีวิต ห่างไกลออฟฟิศซินโดรม — ด้วยสภาพการทำงานที่ต้องรีบเร่ง การอดอาหาร อดหลับอดนอนเพื่อให้งานเสร็จ ทำให้ ร่างกาย ต้องแบกรับความตึงเครียด...

ภาพข่าว: งานสัมมนาเชิงวิชาการทางการแพทย์ 2014 ในหัวข้อ “นวัตกรรมใหม่ Taping Theory กับกลุ่มโรคเอ็นและข้ออักเสบใน NCDs”

ภ.ญ. สุนันทา วังโสภณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โคว่า (ประเทศไทย) จำกัด (ที่ 3 จากซ้าย) พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์นายแพทย์ธไนนิธย์ โชตนภูติ (ที่ 1 จากซ้าย) ร่วมงานสัมมนาเชิงวิชาการทางการ...

ชมรมศัลยแพทย์ข้อเข่าข้อสะโพกประเทศไทย จับมือภาคเอกชนจัดงาน “ข้อเสื่อมบรรเทา ข้อเข่าแข็งแรง” เนื่องในวันโรคข้อสากล

ชมรมศัลยแพทย์ข้อเข่าข้อสะโพกประเทศไทย ร่วมกับบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เมดิคอล (ไทยแลนด์) จำกัด จัดงาน “ข้อเสื่อมบรรเทา ข้อเข่าแข็งแรง” เนื่องในวันโรคข้อสากลเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ...