คุณกิตติศักดิ์ วัธนเวคิน ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท น้ำตาลและอ้อยตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ ESC ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายจากอ้อยและนำผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตไปต่อยอดสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจผลิตไฟฟ้า ธุรกิจผลิตเอทานอล ธุรกิจผลิตก๊าซชีวภาพและธุรกิจผลิตปุ๋ยอินทรีย์เคมี เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมของโรงงานน้ำตาลทราย เพื่อรับผลผลิตอ้อยเข้าหีบประจำฤดูการผลิตปี 2559/60 โดยเพิ่มกำลังการผลิตหีบอ้อยเฉลี่ยต่อวันเป็น 36,000 ตัน จากเดิมที่ผลิตได้ 34,000 ตัน เพื่อรับผลผลิตอ้อยเข้าหีบที่คาดว่าจะมีปริมาณ 3.4 ล้านตันใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แม้ว่าในหลายพื้นที่จะประสบปัญหาภัยแล้งในช่วงต้นฤดูกาลเพาะปลูกก็ตาม
อย่างไรก็ตาม คาดว่าคุณภาพผลผลิตอ้อยเข้าหีบจะดีขึ้นกว่าปีก่อน ส่งผลดีต่อการผลิตน้ำตาลในรอบการผลิตปีนี้ ซึ่งจะเพิ่มเป็น 3.78 แสนตัน หรือคิดเป็นผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อย (ยิลด์) อยู่ที่ 108.64 กิโลกรัมน้ำตาล โดยคาดว่าค่าความหวานในอ้อยเฉลี่ยจะสูงขึ้นเป็น 12 ซี.ซี.เอส เมื่อเทียบกับฤดูการผลิตปีก่อนที่ผลิตน้ำตาลได้ 3.53 แสนตัน จากยิลด์เฉลี่ย 102.64 กิโลกรัมต่อตันอ้อย โดยมีค่าความหวานเฉลี่ยอยู่ที่ 11.57 ซี.ซี.เอส ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มประสิทธิภาพการหีบอ้อยของโรงงานน้ำตาลและอ้อยตะวันออกที่ดีขึ้น
"ปัญหาภัยแล้งจะมีผลต่อปริมาณและคุณภาพผลผลิตอ้อยเข้าหีบไม่มากนัก ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารจัดการด้านการเพาะปลูกและการผลิตที่ดี โดยโรงงานได้ร่วมกับชาวไร่คู่สัญญาเพื่อเพิ่มคุณภาพผลผลิตอ้อยเข้าหีบมาโดยตลอด หวังรักษาศักยภาพการผลิตน้ำตาลทรายอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง และผลักดันผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อยให้สูงขึ้น เพื่อรองรับโอกาสในช่วงที่ราคาน้ำตาลในตลาดโลกอยู่ในช่วงขาขึ้น ทำให้ชาวไร่มีโอกาสทำรายได้จากการเพาะปลูกที่เพิ่มขึ้น และทางโรงงานเองยังสามารถนำผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตไปต่อยอดสร้างความมั่นคงให้แก่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องต่อไป" คุณกิตติศักดิ์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.น้ำตาลและอ้อยตะวันออก กล่าวว่า จากปริมาณอ้อยเข้าหีบในฤดูการผลิตปี 2559/60 จะสามารถสร้างความมั่นคงด้านวัตถุดิบให้แก่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลที่ใช้ชานอ้อยเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง 78 MW และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวม 48 MW และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ จะขายไฟฟ้าเพิ่มอีก 20 MW หลังจากขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งเพิ่มอีก 55 MW ที่ตกลงจะดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลแล้วเสร็จ
นอกจากนี้ ยังสามารถนำกากน้ำตาลมาช่วยสนับสนุนกลุ่มธุรกิจผลิตเอทานอล ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิต 150,000 ลิตรต่อวัน ขณะที่กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายก๊าซชีวภาพ สามารถนำน้ำกากส่าจากการผลิตเอทานอลมาปรับสภาพและหมักเพื่อผลิตเป็นก๊าซชีวภาพ โดยบริษัทฯ มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 125,000 ลบ.ม.ต่อวัน จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิต 90,000-100,000 ลบ.ม.ต่อวัน พร้อมกันนี้ ยังสามารถนำกากหม้อกรองมาผลิตเป็นปุ๋ยอินทรีย์เคมีและวัสดุปรับปรุงดิน รวมกำลังการผลิต 20,000 ตันต่อปี เพื่อจำหน่ายให้แก่เครือข่ายเกษตรกรชาวไร่อ้อยของ ESCอีกด้วย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit