นับเป็นอีกหนึ่งความคืบหน้าสำคัญของโครงการสานพลังประชารัฐ ด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ ที่ล่าสุด 12 องค์กรภาคเอกชน ผู้ร่วมก่อตั้ง "โครงการผู้นำเพื่อการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน" (คอนเน็กซ์-อีดี) ซึ่งประกอบด้วย 1. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 2. บมจ. เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ 3. บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด 4. บมจ. ซีพีออลล์ 5. บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร 6. กลุ่มมิตรผล 7. บมจ. ปตท. 8. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 9. เอสซีจี 10. บมจ. ไทยเบฟเวอเรจ 11. บมจ. ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป และ 12. บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้คัดเลือกผู้นำรุ่นใหม่ หรือ School Partners กว่า 550 คน เพื่อร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาศึกษาของไทย ตามแนวทางยุทธศาสตร์ 10 ด้าน โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ได้จัดให้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการเป็นครั้งแรกถึง 4 วันเต็ม เพื่อเตรียมความพร้อมรอบด้านแก่ School Partners รุ่นแรกนี้ ซึ่งได้รับเกียรติจาก พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าทีมภาครัฐ โครงการสานพลังประชารัฐ ด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ เป็นประธาน พร้อมให้นโยบายว่า "สิ่งที่ปรากฏอยู่ในยุทธศาสตร์ชาติ ตรงกับสิ่งที่เรากำลังทำ นั่นคือการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในโครงการสานพลังประชารัฐ ซึ่งการศึกษาไม่ใช่ความรับผิดชอบของใครคนใดคนหนึ่งอีกต่อไปแล้ว แต่ทุกคนในประเทศเกี่ยวข้องกันหมด School Partners ทุกท่านมาด้วยจิตอาสา ต้องขอชื่นชมในความเสียสละ ความมุ่งมั่นของคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนการศึกษา ซึ่ง School Partners จะได้เห็นภาพและเข้าใจระบบการศึกษาของไทยอย่างแท้จริง และที่สำคัญจะได้เจอกับงานหนัก แต่สิ่งที่จะทำให้งานนี้สำเร็จได้นั้น คือ "ศรัทธา" คำเดียวสั้นๆ ถ้า School Partners มีศรัทธาจริง ก็จะทำสำเร็จ กระทรวงศึกษาธิการ ยินดีที่ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ต้องขอขอบคุณทั้ง 12 องค์กร School Partners ศึกษานิเทศก์ และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่มาร่วมกันเดินหน้าโครงการนี้อย่างเต็มที่ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน"
ขณะที่ นายศุภชัย เจียรวนนท์ รองประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ / กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ในฐานะหัวหน้าทีมภาคเอกชน โครงการสานพลัง
ประชารัฐ ด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ กล่าวว่า "ขอแสดงความยินดีกับ School Partners ทุกท่านที่ได้รับการคัดเลือก และขณะเดียวกันต้องขอขอบคุณทุกท่านที่มีใจเสียสละ ทำงานเพื่อส่วนรวม ซึ่งโครงการ คอนเน็กซ์-อีดี นี้ คล้ายกับการที่เรามีCompassion ซึ่งหมายถึงเราทำด้วยใจ หรือการเชื่อมโยงใจต่อใจ ซึ่งโอกาสของการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดมิติใหม่อย่างแท้จริง ภาคเอกชนถือเป็นสถาบันที่มีองค์ความรู้มหาศาล แต่เราไม่เคยเชื่อมโยงองค์ความรู้ที่เรามีเข้ากับกระบวนการการศึกษา นี่เป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้แบ่งปันองค์ความรู้ สิ่งที่เราปฏิบัติจริง กลไกการตลาด ตลอดจนการสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนได้เห็นเป้าหมายและอนาคตตนเอง ดังนั้น หน้าที่ของ School Partners มีจุดเริ่มต้นคือการเชื่อมโยงด้วยใจกับผู้อำนวยการ คุณครูในโรงเรียน ก็ขอให้ School Partners ได้ใช้โอกาสนี้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อประเทศชาติ องค์กร ครอบครัว และลูกหลานที่เรารัก"
นายชัณต์ฏนัย ขุลีทรัยพ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่าย บมจ. ซีพีออลล์ ตัวแทน School Partner รุ่นที่ 1 กล่าวว่า "ก่อนเข้าร่วมเวิร์คช้อป กังวลว่าการเป็น School Partner จะเป็นงานที่ยาก แต่พอจบ 4 วันนี้ เกิดแรงบันดาลใจให้เราตั้งใจทำอย่างเต็มที่ มีความเชื่อและศรัทธาในตัวเองว่าเราทำได้แน่นอน การเข้าร่วมเวิร์คช้อปครั้งนี้มีประโยชน์มาก ได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ เช่นโครงสร้างและการจัดการศึกษาไทย ทำให้เราอยากเรียนรู้เพื่อปิดช่องว่างเหล่านั้น ซึ่งผมจะทำตามความเชื่อและความศรัทธาที่มี วางเป้าหมายในการพัฒนา 3 โรงเรียนที่รับผิดชอบให้ชัดเจน และพัฒนาโรงเรียนด้วย "ความรัก" และ "หัวใจ"
เช่นเดียวกับ นางสาวชนิตา ยืนยงวนานนท์ รองหัวหน้าแผนกทรัพยากรบุคคล บมจ. ไทยเบฟเวอเรจ กล่าวว่า"ตอนแรกรู้สึกกังวลว่าเราเป็นแค่คนตัวเล็กๆ คนหนึ่ง จะพัฒนาการศึกไทยได้จริงหรือ แต่พอมาร่วมเวิร์คช้อปแล้ว รู้สึกว่าโครงการนี้น่าจะสำเร็จเพราะมีคนร่วมอุดมการณ์มากขนาดนี้ และได้ค้นพบว่าเรามีเครื่องมือและวิธีการหลากหลายที่จะทำให้เราสามารถทำงานได้สำเร็จ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้เครื่องมือเหล่านี้อย่างถูกที่ถูกเวลาหรือไม่ ซึ่งต่อจากนี้ไป จะกลับไปศึกษาข้อมูล ทำการบ้านเป็นอย่างดี เพื่อเวลาที่ลงพื้นที่ไปแล้ว จะได้ประโยชน์สูงสุดต่อนักเรียน โรงเรียน และชุมชน"
สำหรับเวิร์คช้อปการประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ ยังได้รับเกียรติจากนายอิสระ ว่องกุศลกิจ หัวหน้าทีมภาคเอกชนโครงการสานพลังประชารัฐและดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมงาน รวมทั้งผู้บริหารระดับสูงจากทั้ง 12 องค์กรผู้ร่วมก่อตั้ง โครงการคอนเน็กซ์-อีดี ต่างได้มาแสดงพลัง เพิ่มความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมให้แก่เหล่า School Partners ที่ยังได้รับความรู้และประสบการณ์มากมายจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งจากภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม อันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการพัฒนาศักยภาพตนเอง และนำไปใช้ในการลงพื้นที่ปฏิบัติจริง เพื่อร่วมวางแผนพัฒนาโรงเรียนกับผู้นำโรงเรียนในโครงการประชารัฐ 3,342 แห่งในระยะแรก และจะขยายครบ 7,424 แห่งครอบคลุมทุกตำบลทั่วประเทศภายในปี 2560 ซึ่งมั่นใจได้ว่าการเตรียมพร้อมแบบติดอาวุธรอบด้านให้แก่ School Partners ตลอด 4 วันเต็มนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีให้ผู้นำรุ่นใหม่ได้สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สานพลังขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษาไทย ให้ประสบความสำเร็จ สามารถยกระดับมาตรฐาน และคุณภาพการศึกษาของประเทศได้อย่างยั่งยืนต่อไป