โรงงานยาสูบ จัดพิธีลงนามพิธีลงนามข้อตกลงคุณธรรมจัดซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิตบุหรี่ และ พิธีส่งมอบพื้นที่โรงงานยาสูบเพื่อก่อสร้างสวนป่า “เบญจกิติ”

04 Mar 2016
นางสาวดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้อำนวยการยาสูบ ขับเคลื่อนแผนย้ายฐานการผลิตโรงงานยาสูบไปที่โรงงานผลิตยาสูบ 6 สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมส่งมอบพื้นที่โรงงานยาสูบคลองเตยเพื่อก่อสร้างสวนป่า "เบญจกิติ" ส่วนที่ 2 ระยะที่ 1
โรงงานยาสูบ จัดพิธีลงนามพิธีลงนามข้อตกลงคุณธรรมจัดซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิตบุหรี่ และ พิธีส่งมอบพื้นที่โรงงานยาสูบเพื่อก่อสร้างสวนป่า “เบญจกิติ”

ผู้อำนวยการยาสูบ เปิดเผยว่า โรงงานยาสูบในฐานะหน่วยงานภาครัฐได้สนองนโยบายรัฐบาลในการยกระดับความโปร่งใสและเป็นองค์กรธรรมาภิบาล ซึ่งนับเป็นหน่วยงานแรกที่ประสบความสำเร็จในการนำร่องดำเนินโครงการนำข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) มาใช้ในการจัดซื้อเครื่องจักรของโรงงานผลิตยาสูบแห่งใหม่ และได้จัดพิธีลงนามข้อตกลงคุณธรรม สำหรับการจัดซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิตบุหรี่ด้านกระบวนการจัดเก็บและเบิกจ่ายใบยาและหีบบุหรี่อัตโนมัติ (สัญญา M-02/4) วงเงิน 695 ล้านบาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยมีผู้สังเกตการณ์จากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) เข้าร่วมในการดำเนินงานทุกขั้นตอนของการจัดซื้อจัดจ้าง สำหรับแผนการย้ายฐานการผลิตยาสูบไปที่โรงงานผลิตยาสูบ 6 พร้อมกับการย้ายพนักงาน การย้ายเครื่องจักรเก่าและการจัดหาเครื่องจักรใหม่นั้น จะสอดคล้องกับแผนการส่งมอบพื้นที่ ซึ่งจะทยอยย้ายไปทีละส่วนงาน โดยไม่ส่งผลกระทบกับพนักงานและการดำเนินงานของโรงงานยาสูบ และจะส่งมอบพื้นที่โรงงานยาสูบคลองเตย ซึ่งได้น้อมเกล้าฯ ถวายพื้นที่แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยจะเริ่มทยอยส่งมอบพื้นที่ให้กับกรมธนารักษ์ เพื่อก่อสร้างสวนป่า "เบญจกิติ" ส่วนที่ 2 ระยะที่ 1 บนเนื้อที่ 61 ไร่ เพื่อดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จทันเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2559

การก่อสร้างสวนป่า "เบญจกิติ" ส่วนที่ 2 บนพื้นที่ใช้สอยเพิ่มเติมอีกกว่า 320 ไร่นี้ นับเป็นส่วนที่ดำเนินการต่อเนื่องจาก "สวนเบญจกิติ" ส่วนที่ 1 ซึ่งเป็นสวนน้ำที่โรงงานยาสูบได้น้อมเกล้าฯ ถวายพื้นที่กว่า 140 ไร่ เมื่อปี 2547 มีแผนการดำเนินงานแบ่งออกเป็น 3 เฟส เริ่มดำเนินการในปี 2559 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562 เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่มีสภาพเป็นสวนป่าแห่งแรกใจกลางกรุงเทพมหานคร

ผู้อำนวยการยาสูบ กล่าวว่า งบประมาณที่ใช้ก่อสร้างสวนป่า "เบญจกิติ" ส่วนที่ 2 ทั้งสิ้นกว่า 1,000 ล้านบาท โรงงานยาสูบจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด โดยใช้เงินจากส่วนที่โรงงานยาสูบต้องนำส่งเข้ากระทรวงการคลัง และจะส่งมอบให้กรมธนารักษ์สำหรับการก่อสร้างสวนป่าฯ ระยะที่ 1 เป็นเงิน 210 ล้านบาท การดำเนินงานดังกล่าวนับเป็นโอกาสอันดีของโรงงานยาสูบซึ่งเป็นผู้ถวายที่ดินและก่อสร้างสวนป่าเบญจกิติเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แสดงออกถึงความจงรักภักดีและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่พนักงานยาสูบและปวงชนชนชาวไทยสำนึกในดวงใจด้วยความจงรักภักดีเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้

HTML::image(