การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 109,075.46 ล้านบาท เพื่อรักษาระดับเงินคงคลังให้เพียงพอต่อการใช้จ่ายของรัฐบาล ซึ่งระดับเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2558 อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีอื่นๆ ในช่วงเดียวกัน
การกู้เงินเพื่อการลงทุนจากแหล่งเงินกู้ในประเทศและต่างประเทศ จำนวน 21,234.29 ล้านบาท มีรายการดังนี้
1. การกู้เงินเพื่อให้รัฐวิสาหกิจกู้ต่อ จำนวน 1,164.18 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย จำนวน 811.60 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สายสีเขียว และสายสีม่วง การรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 351.87 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย 8 สายทาง และโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง และกรมทางหลวง จำนวน 0.71 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการก่อสร้างทางสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2)
2. การกู้เงินบาททดแทนการกู้เงินตราต่างประเทศ จำนวน 20,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำและระบบขนส่งทางถนนระยะเร่งด่วน:มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2
3. การเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำ จำนวน 70.11 ล้านบาท
การชำระหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง จำนวน 8,661.99 ล้านบาท แบ่งเป็น- การชำระคืนเงินต้นที่ออกภายใต้ พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะฯ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จำนวน 3,930.25 ล้านบาท- การชำระคืนต้นเงินกู้ที่รัฐบาลให้กู้ต่อ จำนวน 3,098.46 ล้านบาท- การชำระคืนต้นเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศที่กระทรวงการคลังค้ำประกันจำนวน 175 ล้านบาท- การชำระดอกเบี้ยหนี้ในประเทศ จำนวน 1,458.28 ล้านบาท
การชำระหนี้ที่รัฐบาลกู้เพื่อชดเชยความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เพื่อชำระดอกเบี้ย จำนวน 1,759.17 ล้านบาทหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน จำนวน 1,044,724.59 ล้านบาท ลดลง 10,163.09 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงเกิดจาก
ผลของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้หนี้ต่างประเทศสกุลต่างๆ ลดลง 2,499.65 ล้านบาท
การชำระคืนเงินกู้มากกว่าการเบิกจ่าย ทำให้หนี้ลดลง 7,663.44 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากการไถ่ถอนหุ้นกู้ จำนวน 5,000 ล้านบาท ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และการไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด จำนวน 2,000 ล้านบาท ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย
หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) จำนวน 534,472.05 ล้านบาท ลดลง 3,729.07 ล้านบาท เนื่องจากการชำระหนี้เงินต้นของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรที่กู้มาเพื่อดำเนินโครงการรับจำนำผลิตผลทางการเกษตร โดยใช้เงินจากการระบายสินค้าเกษตร จำนวน 3,727 ล้านบาท และผลของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้หนี้ต่างประเทศสกุลต่างๆ ลดลง 2.07 ล้านบาท
หนี้หน่วยงานของรัฐ จำนวน 17,558.03 ล้านบาท ลดลง 820.99 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากการชำระหนี้เงินต้นของสำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย จำนวน 738.65 ล้านบาท
ในเดือนพฤศจิกายน 2558 สบน. มีการบริหารจัดการหนี้รัฐวิสาหกิจ วงเงิน 42,353.80 ล้านบาท โดยเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และการเคหะแห่งชาติ
หนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2558 เท่ากับ 5,975,766.31 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ในประเทศ 5,625,424.28 ล้านบาท หรือร้อยละ 94.14 และหนี้ต่างประเทศ 350,342.03 ล้านบาท (ประมาณ 9,984.43 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือร้อยละ 5.86 ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด และหากเปรียบเทียบกับเงินสำรองระหว่างประเทศ จำนวน 155,680.97 ล้านเหรียญสหรัฐ (ข้อมูล ณ 30 พฤศจิกายน 2558)
หนี้ต่างประเทศจะคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 6.41 ของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเสถียรภาพและความมั่นคงในด้านการเงินของประเทศโดยหนี้สาธารณะแบ่งออกเป็นหนี้ระยะยาวถึง 5,669,833.49 ล้านบาท หรือร้อยละ 94.88 และมีหนี้ระยะสั้น 305,932.82 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.12 ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit