นายทากุโอะ ฮาเซกาวา ประธานกรรมการบริษัท ไลท์เฮ้าส์ อินโฟ เซอร์วิส จำกัด ผู้บริหารเจเอ็ดดูเคชั่น กล่าวว่า จากประสบการณ์ในการทำงานด้านแนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นในเมืองไทยมานานกว่า 15 ปี ทำให้ทราบถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความสนใจของเยาวชนไทยที่ต้องการไปเรียนต่อประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยส่วนใหญ่จะเป็นการศึกษาต่อระดับปริญญาตรี และการศึกษาภาษาญี่ปุ่นในโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น จากข้อมูลในปี 2558 พบว่ามีนักเรียนไทยที่ศึกษาภาษาญี่ปุ่นในประเทศไทยประมาณ 130,000 คน และมีนักเรียนไทยที่ศึกษาอยู่ในประเทศญี่ปุ่นประมาณ 3,300 คน
"ญี่ปุ่นถือเป็นอีกหนึ่งประเทศเป้าหมายของเด็กไทยที่ใฝ่ฝันจะไปเยือน ทางเจเอ็ดดูเคชั่นจึงได้จัดการแข่งขัน J-Challenge ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนที่สนใจศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น ได้มีเวทีในการแสดงความสามารถ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กไทยได้ค้นหาตัวเองและทำตามความฝันให้เป็นจริง" นายทากุโอะ กล่าว
สำหรับการแข่งขันจัดเป็นประเภททีม ทีมละ 2 คน แบ่งออกเป็น 2 ระดับ ได้แก่ ระดับมัธยมปลาย สำหรับนักเรียนที่กำลังศึกษาภาษาญี่ปุ่นอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6 และการแข่งขันระดับอุดมศึกษา สำหรับนิสิต นักศึกษา ระดับปริญญาตรีทุกชั้นปี ไม่จำกัดคณะและสาขาวิชา อายุไม่เกิน 26 ปี ซึ่งในปีนี้มีนักเรียน นิสิต นักศึกษา สมัครเข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 1,200 คน จากทั่วประเทศโดยผลการแข่งขันในปีนี้ ทีมชนะเลิศระดับมัธยมปลาย ได้แก่ นายเชี่ยวชาญ ทรัพย์สุวิต และนายตะวัน ป้อมทอง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอ่างทองปัทมโรจน์วิทยาคม จ.อ่างทอง
เชี่ยวชาญ เริ่มต้นเล่าว่า นับเป็นปีที่สองของการมาแข่งขัน J-Challenge หลังจากพลาดหวังในครั้งที่แล้ว ผมและเพื่อนก็กลับไปฝึกฝนเพิ่มเติม โดยนำประสบการณ์ในปีก่อนมาพัฒนาความรู้ให้มากขึ้น เน้นศึกษาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภูมิศาสตร์และความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับญี่ปุ่น พวกผมโชคดีที่ทางบ้านและคุณครูสนับสนุน ถือเป็นกำลังใจสำคัญที่ทำให้ผมมีความเชื่อมั่น มานะ พยายาม จนสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในครั้งนี้ได้สำเร็จ"
ทางด้าน ตะวัน กล่าวว่า "เวที J-Challenge เป็นการแข่งขันที่แตกต่างจากเวทีอื่นๆ ตรงที่เน้นตอบปัญหาเชิงลึกด้านภาษาและความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับญี่ปุ่น ผู้แข่งขันต้องมีความรู้อย่างรอบด้าน ถ้าเป็นคนที่ชอบเรื่องญี่ปุ่นอยู่แล้ว เวทีนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้มาพิสูจน์ความรู้ความสามารถของตนเอง และที่สำคัญยังมีรางวัลทุนเรียนภาษาและไปสัมผัสการใช้ชีวิตที่ประเทศญี่ปุ่นนานถึง 2 สัปดาห์ ถือเป็นโอกาสและประสบการณ์ที่มีค่าสำหรับเด็กต่างจังหวัดอย่างผมให้ได้ไปเปิดโลกการเรียนรู้ในต่างแดนครับ"
ในส่วนของทีมชนะเลิศระดับอุดมศึกษา ได้แก่ นายฐานันต์ พันชนะ และนายทากะนาริ โดวมิ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สองหนุ่มผู้มีฝันเดียวกันที่อยากจะต่อยอดสู่การทำงานในญี่ปุ่น
โดยนายฐานันต์ เล่าว่า จุดเริ่มต้นที่ทำให้สนใจภาษาญี่ปุ่นเพราะชอบเล่นเกม จึงพยายามศึกษา หัดอ่าน สะกดคำ และหาความหมายด้วยตัวเอง จนเป็นแรงผลักดันให้สนใจเรียนภาษาญี่ปุ่นอย่างจริงจังเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา และต่อยอดมาสู่การเรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมต่างๆ ของญี่ปุ่นมากขึ้น ส่วนการเข้ามาแข่งขัน J-Challenge ถือเป็นการพิสูจน์ความรู้ของตัวเอง และเป็นโอกาสดีที่จะได้เรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นนอกห้องเรียน รู้สึกดีใจมากที่สามารถนำความรู้จากสิ่งที่เราชื่นชอบมาต่อยอดเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ตัวเองได้"
นายทากะนาริ หนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น กล่าวว่า ผมย้ายมาอยู่เมืองไทยตั้งแต่เด็ก มีโอกาสพูดภาษาญี่ปุ่นกับคุณพ่อที่บ้านเท่านั้น ส่วนความรู้อื่นๆ เกี่ยวกับญี่ปุ่นผมเริ่มศึกษาเองจากสิ่งที่ชอบ ทั้งอ่านหนังสือการ์ตูน เล่นเกม ฟังเพลง และดูภาพยนตร์ ผมมองว่าภาษาเป็นสิ่งสำคัญที่จะใช้ต่อยอดไปสู่ประสบการณ์ใหม่ๆ และโอกาสในการทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างที่ผมตั้งใจไว้ และเวที J-Challenge ก็เปิดโอกาสให้ผมได้ทำตามความฝันในการไปใช้ชีวิตจริงที่ญี่ปุ่น สำหรับเพื่อนๆ น้องๆ ที่ชื่นชอบความเป็นญี่ปุ่น และอยากมีโอกาสที่ดีแบบนี้ ขอให้สมัครมาแข่งขัน J-Challenge ในปีหน้า ถ้าเราตั้งใจและเตรียมตัวมาให้พร้อม ผมเชื่อว่ารางวัลชนะเลิศก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมครับ"ต้องขอแสดงความชื่นชมและยินดีกับน้องๆ ทุกคนที่สามารถนำสิ่งที่รักมาต่อยอดสร้างความฝันของตัวเองได้สำเร็จ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความตั้งใจและพยายาม สำหรับน้องๆ เยาวชนที่อยากจะมีโอกาสดีๆ แบบนี้ สามารถติดตามข่าวสารการแข่งขัน J-Challenge 2017 ได้ทาง www.japanexpothailand.org โอกาสยังรอทุกคนอยู่
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit