ม.หอการค้าไทย เผยผลวิจัยชี้ พ.ร.บ. ควบคุมยาสูบฯ มีข้อบกพร่องหลายประการ จำกัดสิทธิ์เกินควรเสี่ยงผลกระทบเชิงพาณิชย์และเสรีภาพในการประกอบการ แนะกฤษฎีกา-สนช.ทบทวนแก้ไขก่อนบานปลายกลายเป็นกฏหมายที่ขัดมาตรฐานสากล

          รศ. สุธรรม อยู่ในธรรม หัวหน้าโครงการวิจัย สถาบันวิชาการนโยบายกิจการสาธารณะกับธุรกิจและการกำกับดูแล (APaR) และคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงผลการวิจัยในหัวข้อ "โครงการศึกษาประเด็นทางกฎหมายเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติ ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ" โดยผลการวิจัยดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงความบกพร่องของร่าง พ.ร.บ.ฯ ในข้อกฎหมายหลายประการ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบในเชิงพาณิชย์ และสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะกฎหมายที่คุ้มครองเอกชนในการประกอบกิจการ โดยทางสถาบันฯ เสนอกฤษฎีกา-สนช.ควรทบทวนแก้ไขร่างกฎหมายเพื่อแก้ปัญหาให้ถูกจุดและสร้างสมดุลระหว่างการคุ้มครองสุขภาพประชาชนกับเสรีภาพของผู้ประกอบการให้ตรงตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย
          จากผลการวิจัยที่เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2558 ที่ผ่านมา มีข้อเสนอแนะให้คณะกรรมการกฤษฎีกาและสภานิติบัญญัติแห่งชาติทบทวนหลายมาตราที่จำกัดสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญของผู้ที่ถูกกระทบ โดยคำนึงถึง 'หลักความได้สัดส่วน' ตามกฏหมายปกครองและกฏหมายรัฐธรรมนูญเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และความเป็นไปได้จริงในการบังคับใช้ รวมไปถึงการพิจารณาถ้อยคำที่ใช้ในร่างกฎหมายซึ่งยังขาดความชัดเจนตามองค์ประกอบความผิดในทางอาญา และการเลือกใช้คำที่มีความหมายคลุมเครือและกว้างจนเกินไป ทั้งยังมีประเด็นในเรื่องของการให้อำนาจรัฐมนตรีในการประกาศมาตรการต่างๆ ในหลายมาตราเพิ่มเติมได้ภายหลังโดยไม่ได้มีการกำหนดกรอบในการออกกฎหมายลูกอย่างชัดเจนเพียงพอ ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาการกระทบสิทธิและเสรีภาพ และสร้างความไม่เป็นธรรมให้กับผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาสูบอย่างเกินความจำเป็นได้ในอนาคต
          รศ. สุธรรม อยู่ในธรรม คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า "ผลการวิจัยและวิเคราะห์ร่าง พ.ร.บ.ฯ แสดงให้เห็นว่า เนื้อหามีความย้อนแย้งและขัดต่อหลักนิติธรรม โดยเฉพาะในประเด็นด้านสิทธิเสรีภาพ ตามหลักกฎหมายปกครอง และไม่ต้องด้วยหลักความได้สัดส่วน โดยร่าง พ.ร.บ.ฯ จำกัดสิทธิและเสรีภาพอย่างเกินความจำเป็นและละเมิดสิทธิเสรีภาพหลายประการ อาทิ มาตรา37 ความเป็นไปได้ในการใช้มาตรการซองเรียบ (Plain Packaging) ซึ่งเป็นมาตรการที่เกินความจำเป็นและจำกัดสิทธิของผู้เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าอย่างเกินสมควรและกระทบทรัพย์สินทางปัญญาซึ่งได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคี เช่น TRIPS Agreement ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดสัดส่วนภาพและคำเตือนบรรจุภัณฑ์ของบุหรี่ถึงร้อยละ 85 ของพื้นที่ด้านหน้าและด้านหลัง และร้อยละ 6สถาบันวิชาการนโยบายกิจการสาธารณ ของพื้นที่ด้านข้างจึงทำให้ผู้ผลิตหรือนำเข้าผลิตภัณฑ์ยาสูบสามารถใช้พื้นที่แสดงตราสินค้าอย่างจำกัดเพื่อบ่งบอกที่มาของสินค้าและข้อมูลผู้ผลิตเท่านั้น ไม่ได้เป็นการส่งผลเพื่อการจูงใจหรือดึงดูดให้เกิดการบริโภค"
นอกจากนี้ ร่าง พ.ร.บ.ฯ ดังกล่าวยังขัดต่อหลักการตามกรอบอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการควบคุมยาสูบ (FCTC) ซึ่งควรจะต้องเป็นไปตามหลักการของกฎหมายภายในประเทศภาคีสมาชิก ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ การร่างกฎหมายจึงต้องคำนึงถึงรัฐธรรมนูญเป็นสำคัญ แต่ร่าง พ.ร.บ.ฯ ฉบับใหม่นี้ได้บัญญัติมาตรการที่เข้มงวดเกินกว่าที่กรอบอนุสัญญาฯ ได้วางไว้และนำเอาแนวทางปฏิบัติซึ่งไม่มีผลผูกพันตามกฎหมายมาร่างเป็นกฎหมาย ซึ่งกระทบสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญจนเกินสมควร อาทิ การจำกัดการติดต่อกับส่วนราชการในมาตรา 4สถาบันวิชาการนโยบายกิจการสาธารณ ยิ่งไปกว่านั้นร่างกฎหมายนี้ยังมีการใช้ถ้อยคำที่กว้างและคลุมเครือ เช่น "การสื่อสารการตลาด" และ "ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ยาสูบ" ซึ่งอาจมีปัญหาในทางปฏิบัติ ทั้งที่เป็นกฎหมายที่มีโทษทางอาญา
          "การร่างกฎหมายควบคุมยาสูบที่ดีจึงควรพิจารณาตามกรอบอนุสัญญาฯ เท่าที่จำเป็น เพื่อป้องกันเยาวชนในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ยาสูบ ลดปริมาณการบริโภคยาสูบ และคุ้มครองสุขภาพและอนามัยของผู้บริโภค อีกทั้งยังต้องสร้างความสมดุลระหว่างมาตรการทางกฎหมายและจำกัดเสรีภาพของพลเมืองตามรัฐธรรมนูญ รวมทั้งให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจอย่างสุจริต ซึ่งสมควรได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายเช่นกัน จึงจะสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของร่าง พ.ร.บ.ฯ ฉบับนี้ได้อย่างแท้จริง"อาจารย์ ปวินี ไพรทอง นักวิจัย กล่าวเสริม
          จากผลการวิจัยชี้ให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าร่าง พ.ร.บ.ฯ ฉบับนี้มีความย้อนแย้งในตนเองและขัดต่อข้อกฎหมายทั้งรัฐธรรมนูญและกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่สอดคล้องกับหลักการร่างกฎหมายที่ดี ที่สำคัญละเมิดและจำกัดสิทธิเสรีภาพของผู้ประกอบการ ส่งผลกระทบในเชิงพาณิชย์ ดังนั้นแนวทางที่คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะรัฐมนตรี และสภานิติบัญญัติแห่งชาติน่าจะกระทำต่อไปได้คือพิจารณาแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ฯ ดังกล่าวอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยคำถึงผลกระทบในทุกมิติ เพื่อให้พระราชบัญญัติฉบับนี้เป็นไปอย่างยุติธรรมและมีความสอดคล้องกับหลักการมีส่วนร่วมตามหลักการบริหารบ้านเมืองที่ดี (Good Governance) รวมทั้งสอดคล้องกับการนำนโยบายที่ประชาคมโลกยอมรับมาเป็นแนวทางในการร่างกฎหมายอย่างสมดุลและเป็นธรรม

ข่าวสถาบันวิชาการนโยบายกิจการสาธารณ+มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยวันนี้

ขอเชิญเข้าร่วมประชุม "เผยแพร่ผลการศึกษาโครงการศึกษาวิเคราะห์เชิงลึกแนวทางการกำกับดูแลในยุคเทคโนโลยีใหม่"

สำนักงานสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.)และสถาบันวิชาการนโยบายกิจการสาธารณะกับธุรกิจและการกำกับดูแล (APaR) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ขอเชิญเข้าร่วมประชุม "เผยแพร่ผลการศึกษาโครงการศึกษาวิเคราะห์เชิงลึกแนวทางการกำกับดูแลในยุคเทคโนโลยีใหม่" ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์ระบบ Zoom Webinar) วันศุกร์ ที่ 9 กรกฎาคม 2564 เวลา 08.30 12.00 น. ท่านสามารถลงทะเบียนได้ที่ https://forms.gle/zxnjcV6R2jttZBkm6 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https:/

ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทร... ภาพข่าว: รมว.ดิจิทัลฯ เป็นประธานเปิดการประชุมนานาชาติ “ครอบครัวปลอดภัยในยุคดิจิทัล” — ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสั...

รองนายกรัฐมนตรี พลอากาศเอก ดร.ประจิน จั่นตองร่วมงานประชุมระหว่างประเทศเพื่อก้าวสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0

รองนายกรัฐมนตรี พลอากาศเอก ดร.ประจิน จั่นตองร่วมงานประชุมระหว่างประเทศเพื่อก้าวสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 (Conference on Driving towards Industry 4.0) เนื่องด้วยสถาบันวิชาการนโยบายกิจการสาธารณะกับธุรกิจ...

สถาบันวิชาการนโยบายกิจการสาธารณะกับธุรกิจ... Conference on Driving towards Industry 4.0 — สถาบันวิชาการนโยบายกิจการสาธารณะกับธุรกิจและการกำกับดูแล (APaR) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สถาบัน International...

สถาบันวิชาการนโยบายกิจการสาธารณกับธุรกิจและกำกับดูแล(APaR) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดสัมมนา“ทิศทางโครงสร้างสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมไทย หลังการปฏิรูปเศรษฐกิจ

สถาบันวิชาการนโยบายกิจการสาธารณกับธุรกิจและกำกับดูแล(APaR) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมกับชมรมคอลัมนิสต์ นักจัดรายการวิทยุ และโทรทัศน์ไทย จัดสัมมนา...

ประชุมสุดยอด DSA Global Summit 2013 ภายใต้แนวคิด “THE DAWN OF SPECTRUM ABUNDANCE” แนะนำเทคโนโลยีคลื่นความถี่แห่งอนาคต White Space

คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดย สถาบันวิชาการนโยบายกิจการสาธารณะกับธุรกิจและการกำกับดูแล มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (APAR)...

ภาพข่าว: ม.หอการค้าไทย จัดงานสัมมนา “Digital Agenda Thailand : Of Good and Evil in Social Network

ม.หอการค้าไทย จัดงานสัมมนา “Digital Agenda Thailand : Of Good and Evil in Social Network “ทวยเทพ และหมู่มาร ดาบสองคมของโซเชียลเน็ตเวิรค์” มุ่งเน้นบริหารจัดการสังคมในยุคดิจิทัล สถาบันวิชาการน...