นายแพทย์ชาตรี ดวงเนตร กรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ-การแพทย์ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) และประธานคณะผู้บริหาร ศูนย์การแพทย์กรุงเทพ กล่าวถึง ความร่วมมือในครั้งนี้ว่า การที่ประเทศไทยมีเป้าหมายในการก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางการแพทย์นานาชาติ ทำให้แพทย์และสถานพยาบาลในประเทศไทยมีความจำเป็นต้องเร่งพัฒนาศักยภาพเพื่อรองรับความต้องการที่สูงขึ้นในอนาคตอย่างรอบด้าน ซึ่งประเทศไทยจัดได้ว่ามีความพร้อมระดับหนึ่ง โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยยกระดับวงการการแพทย์ไทยให้มีมาตรฐานและคุณภาพยิ่งขึ้น บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) และ มหาวิทยาลัยนาโกย่า จับมือกันเพื่อเสริมศักยภาพให้แก่วงการแพทย์ไทย พร้อมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์การทำงานให้แก่บุคลากรทางแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล เภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เพื่อเพิ่มความรู้ความเข้าใจเรื่องบริการทางการแพทย์ระดับสากล งานวิจัยทางการแพทย์ รวมไปถึงการส่งต่อผู้ป่วยระหว่างองค์กรเพื่อให้ได้เข้ารับการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ
"ประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นประเทศที่ล้ำหน้าด้านเทคโนโลยี รวมทั้งเทคโนโลยีการแพทย์ด้วย ดังนั้นการได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญจาก มหาวิทยาลัยนาโกย่า จึงถือว่าเป็นโอกาสอันดีในการพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์ของไทย เพื่อการให้บริการที่เป็นไปตามมาตรฐานสากลยิ่งขึ้น เตรียมความพร้อมให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการแพทย์นานาชาติได้ในอนาคต"
ฝ่าย ดอกเตอร์ มิชินาริ ฮามางูชิ ประธานของมหาวิทยาลัยนาโกย่า เผยถึงประวัติความเป็นมาของมหาวิทยาลัยนาโกย่า มหาวิทยาลัยนาโกย่าเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรครบครันของประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2414 โดยเริ่มจากการเป็นสถานพยาบาลขนาดเล็กและพัฒนามาเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศในปัจจุบัน มีโรงพยาบาลเป็นของตนเอง ชื่อว่า Nagoya University Hospital ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 140 ปี เป็นองค์กรที่มีบุคลากรเคยได้รับรางวัลโนเบลในสาขาต่างๆ จำนวนมากถึง 6 รางวัล โดยในปี 2014 ที่ผ่านมาได้รับรางวัลโนเบล ในสาขาฟิสิกส์จำนวน 2 ท่าน** มหาวิทยาลัยนาโกย่า ได้พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนรวมไปถึงความร่วมมือทางงานวิจัยร่วมกับหลายสถาบันชั้นนำในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในเอเชีย ประธานของมหาวิทยาลัยนาโกย่า ได้กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า
"โลกปัจจุบันนี้ ความรู้นั้นมีมากมายมหาศาล ดังนั้นหน้าที่ของ มหาวิทยาลัยนาโกย่า ในฐานะสถาบันการศึกษาชั้นนำของญี่ปุ่น จึงไม่หยุดนิ่งในการศึกษาหาความรู้ เราต้องเดินหน้าเพื่อเปิดโอกาสให้เกิดการเรียนรู้ที่กว้างขึ้น เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรวมไปถึงการรักษาพยาบาลและงานวิจัย อย่างเช่นการร่วมมือกับในครั้งนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่เราร่วมมือกับภาคเอกชนชั้นนำอย่างเครือโรงพยาบาลกรุงเทพของประเทศไทย"
ความร่วมมือในครั้งนี้จะนำมาซึ่งความร่วมมือด้านการศึกษา โดยทาง มหาวิทยาลัยนาโกย่าจะเปิดโอกาสให้พนักงานของทางเครือโรงพยาบาลกรุงเทพไปศึกษางานที่ญี่ปุ่น และทางโรงพยาบาลกรุงเทพก็จะเปิดโอกาสให้แพทย์ พยาบาล เภสัชกร และเจ้าหน้าที่ด้านอื่นๆ มาศึกษางานที่โรงพยาบาลกรุงเทพเช่นกัน โดยจะเน้นด้านการเรียนรู้บริการทางการแพทย์สมัยใหม่ที่มีมาตรฐานเป็นสากล นอกจากนี้ยังมีการส่งผู้เชี่ยวชาญมาอบรมให้แก่พนักงานของแต่ละฝ่ายอีกด้วย พร้อมกันนี้ทางมหาวิทยาลัยนาโกย่าจะเลือกโรงพยาบาลกรุงเทพเป็นสถานพยาบาลสำหรับนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยผู้อาศัยอยู่ในประเทศไทยหรือประเทศเพื่อนบ้าน และจะแนะนำคนไข้ให้เลือกใช้บริการของโรงพยาบาลกรุงเทพ หากคนไข้กำลังจะเดินทางมาประเทศไทย ส่วนทางโรงพยาบาลกรุงเทพก็จะแนะนำให้คนไข้ไปรับบริการจากโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยนาโกย่าเช่นกัน หากคนไข้มีแผนที่จะเดินทางไปนาโกย่าหรือเมืองข้างเคียง และหากมีกรณีที่พิเศษก็อาจมีการร่วมมือกันของแพทย์ทั้งสองสถาบันเพื่อหารือวิธีการรักษาได้ โดยคาดว่าการประสานความร่วมมือครั้งสำคัญนี้จะเป็นการช่วยยกระดับวงการการแพทย์ของไทยในอนาคตโดย บริษัท แมสคอท คอมมิวนิเคชั่น จำกัด 02-732-6069-70