คุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท น้ำตาลและอ้อยตะวันออก จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายจากอ้อยและนำผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตไปต่อยอดสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจผลิตไฟฟ้า ธุรกิจผลิตเอทานอล ธุรกิจผลิตก๊าซชีวภาพและธุรกิจผลิตปุ๋ยอินทรีย์เคมี เปิดเผยว่า หลังจากโรงงานน้ำตาลของบริษัทฯ ปิดหีบอ้อยประจำฤดูการผลิตปี 2557/2558 เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา สามารถผลิตน้ำตาลทรายได้ทั้งสิ้น 3,802,190 กระสอบ จากปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งสิ้น 3,545,000 ตันอ้อย เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีปริมาณอ้อยเข้าหีบ 2,660,643 ตันอ้อย เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 33 คิดเป็นอัตราผลผลิตน้ำตาลทรายต่อตันอ้อย (ยิลด์) ในระดับสูงที่ 107.25 กิโลกรัมต่อตันอ้อย
ทั้งนี้ โดยภาพรวมผลผลิตดังกล่าว จึงเป็นปีที่บริษัทฯ รับปริมาณผลผลิตอ้อยเข้าหีบสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยติดอันดับ 7 ของโรงงานที่มีปริมาณการหีบอ้อยสูงสุดของประเทศสะท้อนถึงความมั่นคงด้านวัตถุดิบอ้อยที่นำมาสกัดเป็นน้ำตาลทรายส่งผลต่อความแข็งแกร่งของธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย อีกทั้งยัง ช่วยสร้างความมั่นคงด้านวัตถุดิบให้แก่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งธุรกิจโรงไฟฟ้าที่ใช้ชานอ้อยเป็นเชื้อเพลิงที่มีวัตถุดิบเพียงพอในการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ภาครัฐเพื่อรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าได้เต็มปี
ขณะเดียวกัน ปริมาณผลผลิตอ้อยเข้าหีบดังกล่าว ยังทำให้มีผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตน้ำตาลทราย ที่มีปริมาณกากน้ำตาลเพิ่มขึ้นเพื่อทำการหมักและกลั่นผลิตเป็นเอทานอลได้มากขึ้นและสามารถนำไปใช้ในธุรกิจก๊าซชีวภาพให้เติบโตขึ้นอีกด้วย ทำให้ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตขึ้นจากปีก่อน
“ผลผลิตอ้อยเข้าหีบฤดูการผลิตปี 2557/2558 สะท้อนความแข็งแกร่งของธุรกิจโรงงานน้ำตาลทรายของบริษัทฯ ที่ได้ดำเนินการขยายกำลังการผลิตแล้วเสร็จเมื่อปี 2557 ทำให้สามารถรองรับปริมาณอ้อยเข้าหีบได้ถึงประมาณ4.5 ล้านตันต่อปีทำให้เรามีส่วนแบ่งตลาดที่มากที่สุดในภาคตะวันออกอย่างต่อเนื่อง ปีนี้บริษัทฯมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ10 ทำให้ส่วนแบ่งตลาดเราอยู่ที่ประมาณร้อยละ70 ของปริมาณการหีบอ้อยของภาค ประกอบกับประสิทธิภาพของเครื่องจักรในการผลิตน้ำตาลทรายที่ดีทำให้ฤดูการผลิตปีนี้เราสามารถปิดหีบได้เร็วกว่ากำหนด ซึ่งการเตรียมความพร้อมดังกล่าวทำให้โรงงานยังมีกำลังการผลิตที่เพียงพอในการรองรับปริมาณผลผลิตอ้อยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต หลังจากที่เราได้เร่งส่งเสริมด้านองค์ความรู้การเพาะปลูกให้แก่ชาวไร่เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่และขยายพื้นที่เพาะปลูกอ้อยให้มากขึ้น จากกำลังการผลิตในปัจจุบันและแผนการขยายกำลังการผลิตตามแผนทำให้โรงงานมีความพร้อมที่จะรับอ้อยทั้งหมดที่มีอยู่ในจังหวัดสระแก้วและที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต เพื่อนำมาสกัดเป็นน้ำตาลทรายและสามารถนำผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตน้ำตาลทรายทุกส่วนกลับมาใช้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดผ่านการประกอบธุรกิจแบบครบวงจรตามแนวคิด Fully Integrated System มาช่วยสร้างความเข้มแข็งให้แก่ธุรกิจผลิตไฟฟ้า เอทานอล ก๊าซชีวภาพ ปุ๋ยอินทรีย์เคมี และให้มีส่วนเหลือทิ้งเป็นศูนย์ หรือ Zero-waste Discharge Systems ทำให้ธุรกิจของบริษัทฯ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” คุณหญิงณัฐิกา กล่าวประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร น้ำตาลและอ้อยตะวันออก กล่าวว่า กรณีที่ครม. มีมติเห็นชอบให้โรงงานน้ำตาลที่จะขออนุญาตตั้งหรือย้ายโรงงานน้ำตาลให้มีระยะห่างจากโรงงานเดิม 50 กิโลเมตร และต้องมีแผนการส่งเสริมพัฒนาอ้อยให้เข้าสู่โรงงานในปีแรกไม่น้อยกว่า 50% นั้น จะส่งผลดีต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ทั้งนี้ จะช่วยลดปัญหาการแย่งอ้อย ในทางกลับกันจะทำให้ผู้ประกอบการส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนาร่วมกับเกษตรกร ชาวไร่อ้อย เพื่อให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมให้เจริญเติบโต มีความแข็งแกร่ง ยั่งยืน มั่นคงมากยิ่งขึ้นด้วย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit