คปก.เสนอปรับปรุงกฎหมาย 2 ฉบับ ร่างกฎหมายอำนวยความสะดวกขนส่งข้ามพรมแดน - ร่างพ.ร.บ.ศุลกากร

กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย

นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ได้ลงนามในหนังสือบันทึกความเห็นและข้อเสนอแนะคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย 2 เรื่อง ได้แก่ ร่างพ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามพรมแดน พ.ศ. ....และร่างพ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่..) พ.ศ. .... (ว่าด้วยการอนุวัติการตามความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามพรมแดนภายในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงตอนบน) เสนอต่อนายกรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภา โดย คปก.ได้ศึกษาพิจารณาร่างพ.ร.บ.ทั้งสองฉบับในคราวเดียวกัน ซึ่งเห็นควรให้มีการปรับปรุงร่างพ.ร.บ.ทั้งสองฉบับ โดยในร่างพ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามพรมแดน พ.ศ. ....คปก.ตั้งข้อสังเกต 3 ประเด็นหลัก คือ กรณีการลงโทษซ้ำ ซึ่งกำหนดไว้ในร่างมาตรา 10(3) คปก.เห็นว่า ในกรณีที่มีการกระทำความผิดตามกฎหมายไทยและกฎหมายต่างประเทศซึ่งฐานความผิดของแต่ละประเทศกำหนดไว้ต่างกัน หรือผิดตามกฎหมายอื่นโดยกฎหมายของประเทศภาคี หรือกฎหมายของไทยอาจกำหนดแตกต่างกัน รัฐบาลประเทศภาคีอาจร้องขอให้ส่งตัวบุคคลดังกล่าวเพื่อมาดำเนินคดีตามฐานความผิดหรือกฎหมายอื่นของประเทศภาคีได้ ประเด็นถัดมา ในการคุ้มครองเจ้าหน้าที่ เมื่อพิจารณาตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีอาญาแล้วเห็นว่า การกำหนดมาตรา 8 ของร่างพ.ร.บ. ซึ่งระบุว่า “ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลประเทศภาคีตามความตกลงที่ดำเนินพิธีการในพื้นที่ควบคุมร่วมกันในราชอาณาจักรเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา” ไม่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีอาญา อีกทั้งการจะให้ความคุ้มครองแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลประเทศภาคีตามความตกลงที่ดำเนินพิธีการในพื้นที่ควบคุมร่วมกันในราชอาณาจักรก็ไม่เป็นไปตามเอกสิทธิและความคุ้มกันตามรัฐธรรมนูญ และสิทธิพิเศษของบุคคลตามกฎหมายระหว่างประเทศกำหนดไว้ ประเด็นต่อมา หากกำหนดให้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลประเทศภาคีฯ เป็น “เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา” จะเกี่ยวพันเรื่องสิทธิ หน้าที่ และความรับผิด ทั้งนี้หากโทษตามกฎหมายไทยกำหนดไว้สูงกว่าประเทศภาคี มีประเด็นซึ่งต้องพิจารณาเช่นกันว่ารัฐบาลประเทศภาคีจะยอมรับหรือไม่ นอกจากนี้ การนำความตกลงระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวให้มีการตั้งด่าน ที่ด่านพรมแดนมุกดาหาร (สะพานมิตรภาพ 2) และด่านสากลขัวมิตรภาพแขวงสะหวันนะเขต ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ที่ใช้เฉพาะระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวมากำหนดหลักเกณฑ์ในร่างพระราชบัญญัติฯ ฉบับนี้ เจตนารมณ์ของผู้ร่างต้องการให้มีผลใช้บังคับกับทุกพื้นที่ ไม่ได้รองรับเฉพาะความตกลง CBTA เท่านั้น แต่รวมถึงความตกลงอื่นที่รัฐบาลไทยอาจไปทำกับรัฐบาลประเทศอื่นในภายหน้า หากกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าวไว้ในร่างพระราชบัญญัติฯ ฉบับนี้ ก็ไม่มีสิ่งใดมารับรองว่ารัฐบาลประเทศอื่นๆ ซึ่งประเทศไทยจะไปทำความตกลงด้วยจะเห็นชอบกับหลักเกณฑ์ดังกล่าวและจะกำหนดหลักเกณฑ์ไว้ทำนองเดียวกับที่ประเทศไทยทำความตกลงกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อย่างไรก็ตาม บางกรณีทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดเกี่ยวกับการขนส่งข้ามพรมแดน อาจมีกรณีการลักลอบขนส่งสัตว์ป่า หรือโบราณวัตถุซึ่งมีแหล่งที่มาในประเทศไทยหรือประเทศภาคีอื่น ดังนั้นการที่กฎหมายได้เปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลไทยได้ใช้ดุลพินิจหากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลไทยใช้ดุลพินิจไม่เหมาะสมอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศไทยได้เช่นกัน ส่วนประเด็นเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนในร่างมาตรา 10 และ มาตรา 11นั้น คปก.มีข้อสังเกต2 ประการ ได้แก่ 1.การส่งตัวผู้ต้องหาหรือบุคคลซึ่งกระทำความผิด ควรให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การส่งผู้ร้ายข้ามแดน และ 2.การพิจารณาเรื่องการส่งผู้ต้องหาหรือบุคคลซึ่งกระทำความผิด ควรคำนึงถึงการให้ความคุ้มครองบุคคลสัญชาติไทยเป็นกรณีพิเศษมากกว่าบุคคลสัญชาติอื่นด้วย สำหรับร่างพ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่..) พ.ศ. .... (ว่าด้วยการอนุวัติการตามความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามพรมแดนภายในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงตอนบน) เป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าส่งออกโดยเฉพาะจึงจำเป็นต้องกำหนดหลักเกณฑ์และรายละเอียดต่างๆ ให้ชัดเจน ซึ่ง คปก.เห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมถ้อยคำในร่างมาตรา 37 สัตตรส จากเดิม “ให้กรมศุลกากรมีอำนาจในทางศุลกากรทั้งปวงในพื้นที่ควบคุมร่วมกันเช่นเดียวกับในเขตศุลกากร” เป็น “ให้กรมศุลกากรมีอำนาจในทางศุลกากรทั้งปวงในพื้นที่ควบคุมร่วมกันและพื้นที่ตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามพรมแดนเช่นเดียวกับในเขตศุลกากร” เพราะร่างพ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามพรมแดนฯ กำหนดเขตพื้นที่ควบคุมร่วมกันไว้กว้างกว่า ทำให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจในเขตศุลกากรเท่านั้นอาจไม่ครอบคลุมกรณีที่มีความตกลงเพิ่มเติมขยายเขตพื้นที่เพื่อให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรไปปฏิบัติหน้าที่ในเขตพื้นที่นั้นได้ สำหรับเรื่องทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดเกี่ยวกับการขนส่งข้ามพรมแดน และการลงโทษซ้ำ ในร่างมาตรา 37 เอกูนวีสติ (3) คปก.เห็นชอบให้มีการเพิ่มเติมข้อความในวรรคหนึ่ง โดยเพิ่ม “เว้นแต่จะมีความตกลงเป็นอย่างอื่น...” เข้ามา เพื่อรองรับความตกลงซึ่งรัฐบาลไทยอาจทำกับรัฐบาลของประเทศต่างๆ ซึ่งอาจไม่เห็นชอบกับหลักเกณฑ์ในร่างมาตรา 37 เอกูนวีสติ ซึ่งกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินการในกรณีที่มีการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรที่พนักงานศุลกากรตรวจพบในพื้นที่ควบคุมร่วมกัน ส่วนประเด็นการส่งผู้ร้ายข้ามแดน คปก.มีความเห็นทำนองเดียวกันกับร่างพ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามพรมแดนฯ เนื่องจากได้นำหลักเกณฑ์ของพ.ร.บ.ดังกล่าว มากำหนดหลักเกณฑ์ให้สอดคล้องโดยมีการปรับเปลี่ยนถ้อยคำบางคำให้ใช้เฉพาะกับเรื่องที่เกี่ยวกับศุลกากร ติดต่อ: สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย : OFFICE OF LAW REFORM COMMISSION OF THAILAND อาคารซอฟต์แวร์ ปาร์ค ชั้น๑๙ ตำบลคลองเกลือ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ๑๑๑๒๐ โทร.๐ ๒๕๐๒ ๖๐๐๐ ต่อ ๘๒๗๘ โทรสาร. ๐ ๒๕๐๒ ๖๐๐๐ ต่อ ๘๒๗๔ -กผ-

ข่าวคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย+สภาผู้แทนราษฎรวันนี้

สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย จัดแถลงข่าวเรื่อง "ความคืบหน้าการดำเนินงานคณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อกำกับการปฏิรูปกฎหมาย"

ขอเรียนเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมทำข่าว การแถลงข่าวเรื่อง "ความคืบหน้าการดำเนินงานคณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อกำกับการปฏิรูปกฎหมาย" และเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมี ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธานกรรมการที่ปรึกษาเพื่อกำกับการปฏิรูปกฎหมาย การแถลงข่าวจะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๐ เวลา ๑๖.๓๐-๑๗.๑๕ น. ณ ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ชั้น ๑๖ อาคารซอฟต์แวร์ปาร์ค ถนนแจ้งวัฒนะ อำเภอปากเกร็ด

สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ขอเรียนเชิญเข้าร่วมการสัมมนาวิชาการ การปฏิรูปกฎหมายสิ่งแวดล้อม

ขอเรียนเชิญเข้าร่วมการสัมมนาวิชาการ การปฏิรูปกฎหมายสิ่งแวดล้อม กำหนดการ การสัมมนาวิชาการ : การปฏิรูปกฎหมายสิ่งแวดล้อม วันพุธที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๙ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. ณ ห้องประชุมกมลทิพย์ โรงแรมสุโกศล...

คปก.หนุนประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง พร้อ... คปก.หนุนปชช.เข้าชื่อเสนอกม. แนะสภาต้องพิจารณาภายใน 180 วัน — คปก.หนุนประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง พร้อมแนะให้สภาต้องพิจารณาร่างกฎหมายฉบับประชาชนภายใน 180 ...

สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย จัดงานครบรอบ 4 ปี คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย เรื่อง "ปฏิรูปกฎหมายท้าทายปฏิรูปประเทศ"

ขอเรียนเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมทำข่าว งานครบรอบ 4 ปี คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย เรื่อง "ปฏิรูปกฎหมายท้าทายปฏิรูปประเทศ" ในวันพุธที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๘ เวลา ๐๘.๓๐-๑๕.๓๐ นาฬิกา ณ ศูนย์ประชุมวายุภักดิ์...

คปก.เดินหน้ายกระดับกม.แรงงานไทยสู่สากล แนะถึงเวลาปฏิรูปชำระกม.แรงงาน

คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) โดย นาย คณิต ณ นคร ประธานกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ลงนามในบันทึกความเห็นและข้อเสนอแนะเรื่อง “แนวทางการจัดทำประมวลกฎหมายแรงงานและร่างพระราชบัญญัติการบริหารแรงงาน พ.ศ....” เสนอต่อนายกรัฐมนตรี...

สถาบันสิทธิมนุษยชนฯ ม.มหิดลจับมือศูนย์ศึกษาสันติภาพฯ จุฬาฯ เชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมการประชุมถกแถลงรัฐธรรมนูญ

สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล และศูนย์ศึกษาสันติภาพและความขัดแย้ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วม “การประชุมถกแถลงรัฐธรรมนูญ” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้...

คปก.แนะปฏิรูปกระบวนยุติธรรมแรงงาน ต้องแยกศาลแรงงานออกจากศาลยุติธรรม ค้านข้อเสนอตั้งแผนกคดีแรงงานในศาลอุทธรณ์ไม่ตอบโจทย์

คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) โดย นาย คณิต ณ นคร ประธานกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ลงนามในบันทึกความเห็นและข้อเสนอแนะเรื่อง “ข้อเสนอต่อร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยว่าด้วยการแยกศาล...

คปก.ยันรธน.ต้องรับรองสิทธิเสรีภาพสื่อ-ห้ามการเมืองครอบงำ ปฏิรูปสื่อต้องโปร่งใส-ตรวจสอบได้ แนะออกกฎหมายรองรับองค์กรวิชาชีพสื่อฯ

คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) โดย นาย คณิต ณ นคร ประธานกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ลงนามในบันทึกความเห็นและข้อเสนอแนะเรื่อง “การแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพของสื่อมวลชน...

คปก.คลอดกฎหมายสิทธิชุมชน ดึงปชช.มีส่วนร่วมจัดการทรัพยากรท้องถิ่น รับรองสถานะตามกฎหมายเทียบเท่านิติบุคคล ลดความขัดแย้งชุมชน-รัฐ

คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) โดย นาย คณิต ณ นคร ประธานกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ได้ส่งบันทึกความเห็นและข้อเสนอแนะเรื่อง “แผนการให้มีกฎหมายว่าด้วยสิทธิชุมชน” และ...

คปก.จับมือกท.พาณิชย์เดินหน้าเตรียมความพร้อมรองรับกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ

เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ จัดสัมมนา “เตรียมพร้อม...รองรับกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ” ณ ห้องประชุม 30404 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยมีพลเอกปัฐมพงศ์ ประถมภัฏ...