สธ.เผย!!แม้ไทยไม่พบโรคโปลิโอมาแล้วกว่า 14 ปี แต่อยู่ในสถานะเสี่ยง
กรุงเทพฯ--30 ธ.ค.--กรมควบคุมโรค
สธ.เผย!!แม้ไทยไม่พบโรคโปลิโอมาแล้วกว่า 14 ปี แต่อยู่ในสถานะเสี่ยงเพราะพบการระบาดในประเทศเพื่อนบ้านและปัญหาเด็กต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองเร่งหยอดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยง-เตรียมพร้อมสกัดให้ไทยปลอดโปลิโออย่างถาวร
เผยปัญหาเด็กต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง การกลับมาระบาดใหม่ของโรคโปลิโอในประเทศเพื่อนบ้านแถบเอเชีย การเดินทางที่สะดวกทำให้ไทยเสี่ยงต่อการระบาดของโรคโปลิโอได้ ผู้ป่วย“โรคโปลิโอ”จะเสี่ยงสูงต่อการเป็นอัมพาตและอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต สธ.เร่งหยอดวัคซีนโปลิโอในเด็กกลุ่มเสี่ยงทั่วประเทศ 1.3 ล้านคน ควบคู่กับการเฝ้าระวังค้นหาผู้ป่วยต้องสงสัยที่มีเชื้อโปลิโออยู่ในลำไส้ ที่อาจแฝงมากับผู้ป่วยอัมพาตกล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียกอย่างเฉียบพลัน เพื่อสกัดกั้นการระบาดของโรคและรักษาพื้นที่ทั่วไทยให้ปลอดโรคโปลิโออย่างถาวร
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวถึงสถานการณ์โรคโปลิโอในประเทศไทยว่า ถึงแม้ไทยจะสามารถกวาดล้างโรคโปลิโอได้เป็นผลสำเร็จและปลอดจากโรคโปลิโอมากว่า 14 ปีแล้วก็ตาม แต่ยังมีความจำเป็นต้องรณรงค์ให้วัคซีนโปลิโอต่อเนื่องทุกปี เนื่องจากมีเด็กต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองซึ่งจะมีการย้ายที่อยู่บ่อย จึงทำให้ได้รับวัคซีนไม่ครบถ้วน รวมทั้งมีรายงานพบผู้ป่วยโรคนี้ในประเทศเพื่อนบ้านแถบเอเชีย ด้วยการเดินทางไปมาระหว่างประเทศที่สะดวกและเป็นไปได้ง่ายจึงเกรงว่าเชื้อโปลิโอจะมีโอกาสแพร่เข้ามาในประเทศไทยได้ เพื่อคุ้มครองสุขภาพคนไทยและรักษาพื้นที่ทั่วไทยให้ปลอดโรคโปลิโออย่างถาวร กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอทั้งหมด 3.2 ล้านโด๊ส เพื่อหยอดให้ฟรี!! แก่เด็กไทยอายุต่ำกว่า 5 ปีและเด็กต่างด้าวอายุต่ำกว่า 15 ปี ครอบคลุมพื้นที่ 36 จังหวัด 151 อำเภอ ตั้งเป้าให้เด็ก 1.3 ล้านคนได้รับการหยอดวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอพร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งการให้บริการจะมี 2 รอบ รอบแรกให้บริการไปแล้วเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2554 ส่วนรอบที่ 2 จะให้บริการวันที่ 18 มกราคม 2555 ยกเว้น 5 จังหวัดที่มีปัญหาน้ำท่วมขังในช่วงการหยอดวัคซีนครั้งที่1 ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา ลพบุรี และกทม. ให้เลื่อนกำหนดการหยอดวัคซีนครั้งที่ 1 เป็นวันที่ 18 มกราคม 2555 และครั้งที่ 2 เป็นวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2555 ทั้งนี้พ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องนำบุตรหลานที่อายุครบเกณฑ์เข้ารับวัคซีนให้ครบ ตามกำหนดดังกล่าวทุกปี ปีละ 2 ครั้ง ที่สถานพยาบาลของรัฐใกล้บ้าน เนื่องจากการให้วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอเป็นการสร้างภูมิต้านทานตั้งแต่เด็กและเป็นการป้องกันโรคที่ดีที่สุด ช่วยให้เด็กทุกคนห่างไกลจากโรคโปลิโอได้อย่างถาวร สำหรับเด็กที่เคยหยอดมาแล้วสามารถหยอดซ้ำอีกได้โดยไม่เป็นอันตราย
ด้านนายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า“โรคโปลิโอ”หรือ “โรคไข้ไขสันหลังอักเสบ”เป็นโรคที่เกิดได้ในคนทุกกลุ่มอายุ โรคนี้เกิดจากการติดเชื้อไวรัส มักเกิดในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เนื่องจากยังไม่มีภูมิต้านทานหรือมีแต่ไม่สูงมากพอ ถึงแม้ไทยพบผู้ป่วยรายสุดท้ายเมื่อพ.ศ.2540และปัจจุบันจะไม่มีผู้ป่วยโรคโปลิโอแล้วก็ตาม แต่ที่ผ่านมาข้อมูลการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาของสำนักระบาดวิทยากรมควบคุมโรคมีรายงานว่าระบบเฝ้าระวัง “ผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียกอย่างเฉียบพลัน” ซึ่งเป็นอาการทางคลินิกของโรคโปลิโอ ยังไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกกำหนด ในขณะที่มีการพบผู้ป่วยโรคโปลิโอมากขึ้นในประเทศแถบภูมิภาคเอเชีย เช่น อินเดีย อินโดนีเซีย พม่า เนปาล บังคลาเทศ โดยล่าสุดปี 2553 พบโรคโปลิโอเกิดการระบาดขึ้นใหม่ในประเทศทาจิกิสถาน โรคนี้อาจแพร่เข้ามาในประเทศไทยจากผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ปัญหาเด็กต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองซึ่งได้รับวัคซีนไม่ครบถ้วนเพราะย้ายที่อยู่บ่อย เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ประเทศไทยมีความเสี่ยงต่อการระบาดของโปลิโอได้
ผู้ที่เป็น“โรคโปลิโอ”จะมีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นอัมพาตที่มีอาการรุนแรง และมีผลต่อการดำเนินชีวิตในระยะยาว โดยเชื้อจะออกมากับอุจจาระของผู้ป่วยหรือผู้ที่เป็นพาหะ และติดที่มือหรือปนเปื้อนในอาหาร ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะไม่มีอาการแต่สามารถแพร่เชื้อได้ จะมีผู้ติดเชื้อประมาณร้อยละ 5-10 ที่แสดงอาการป่วยให้เห็น คือ มีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร เจ็บคอ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ มีอาการตึงกล้ามเนื้อที่คอด้านหลัง ลำตัวและขา ผู้ที่มีอาการรุนแรงจะมีอาการอัมพาตของแขนหรือขา บางรายอาจรุนแรงมากจนกล้ามเนื้อกระบังลมที่ช่วยในการหายใจเป็นอัมพาตและทำให้เสียชีวิตได้
นอกจากการเร่งรัดให้เด็กไทยอายุต่ำกว่า 5 ปีและเด็กต่างด้าวที่อายุต่ำกว่า 15 ปี ไปรับวัคซีนโปลิโอกันอย่างครอบคลุมและทั่วถึงแล้ว“การเฝ้าระวังผู้ป่วยอัมพาตกล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียกอย่างเฉียบพลัน”Acute Flaccid Paralysis (AFP) ในกลุ่มผู้มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ยังเป็นอีกหนึ่งมาตรการสำคัญที่กรมควบคุมโรคได้นำมาใช้ดำเนินการควบคู่กันไป เพื่อเฝ้าระวังค้นหาผู้ป่วยที่สงสัยเป็นโปลิโอที่มีเชื้อโปลิโออยู่ในลำไส้ ที่อาจจะแอบแฝงมากับผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียกอย่างเฉียบพลัน ซึ่งจะช่วยให้การสอบสวนการควบคุมโรคเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโปลิโอทำได้อย่างรวดเร็ว
ด้านนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเสริมว่า โรคโปลิโอเป็นโรคติดต่อที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน ซึ่งการรณรงค์ให้วัคซีนโปลิโอในปี 2554 นี้ มีเป้าหมายเพื่อให้ทั้งเด็กไทยและเด็กต่างด้าวได้รับวัคซีนโปลิโอกันอย่างครบถ้วนและทั่วถึง โดยจะเน้นพื้นที่เสี่ยง ใน 4 กลุ่ม ได้แก่ 1. จังหวัดที่มีความยากลำบากในการให้วัคซีนตามแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มโรคในระบบปกติหรือมีการเคลื่อนย้ายประชากรสูง ได้แก่ จังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และกรุงเทพมหานคร 2.อำเภอที่ติดชายแดนพม่า 3. อำเภอที่มีชุมชนชาวพม่าขนาดใหญ่ 4.อำเภอที่มีรายงานการเกิดโรคคอตีบ หรือ หัด โดยพิจารณาผู้ป่วยเฉพาะกลุ่มอายุต่ำกว่า 5 ปี รายอำเภอใช้ข้อมูล 3 ปีย้อนหลัง( พ.ศ.2551–2553 )ถ้าพบผู้ป่วยคอตีบตั้งแต่ 1 รายขึ้นไปหรือผู้ป่วยหัดตั้งแต่10 รายขึ้นไป
การได้รับวัคซีนตามที่กำหนดนอกจากจะช่วยให้หลีกไกลและหยุดยั้งโรคโปลิโอได้แล้ว ควรใส่ใจในการดูแลสุขภาพด้วย โดยเน้นสุขอนามัยส่วนบุคคล ล้างมือก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง รับประทานอาหารและดื่มน้ำที่สะอาด ถ่ายอุจจาระลงส้วมทุกครั้ง ล้างมือภายหลังจากการถ่ายอุจจาระทุกครั้ง จะสามารถลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคโปลิโอได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่มีการแพร่กระจายของเชื้อเข้ามาจากภายนอกซึ่งหลาย ๆ ประเทศกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน
กลุ่มเผยแพร่ สำนักงานเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค
โทรศัพท์: 0-2590-3862 / โทรสาร : 0-2590-3386
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ตามที่กระทรวงสาธารณสุข มีแผนปรับเปลี่ยนวัคซีนโปลิโอ (OPV) ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันซึ่งเป็นวัคซีนชนิดเชื้อเป็นอ่อนแรง 3 สายพันธ์ (Trivalent OPV) มาเป็นชนิดเชื้อเป็นอ่อนแรง 2 สายพันธ์ (Bivalent OPV) กำหนดเก็บกลับและทำลาย Trivalent OPV จากสถานบริการสาธารณสุขทุกแห่งพร้อมกันทั่วประเทศภายใน 25 เมษายน 2559 และพร้อมใช้ชนิดใหม่ทดแทนภายใน 29 เมษายน 2559 สสจ. นครพนม ได้ดำเนินการเก็บกลับและเผาทำลายโดยใช้เตาเผาขยะติดเชื้อของโรงพยาบาลนครพนม ยืนยันมั่นใจวัคซีนโปลิโอเดิมที่มีอยู่ถูกทำลายหมดและไม่มีปนเปื้อนในสิ่ง
ดร.นายแพทย์สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จากการที่องค์การอนามัยโลกหรือ WHO แนะนำให้ทุกประเทศใช้วัคซีนโปลิโอชนิดฉีด ก่อนสิ้นปี 2558 และกำหนดให้...
วันนี้ (23 กุมภาพันธ์ 2558) นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากที่ประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา ที่ประชุม...
สธ.เผย!!แม้ไทยไม่พบโรคโปลิโอมาแล้วกว่า 14 ปี แต่อยู่ในสถานะเสี่ยงเพราะพบการระบาดในประเทศเพื่อนบ้านและปัญหาเด็กต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองเร่งหยอดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยง-เตรียมพร้อมสกัดให้ไทยปลอดโปลิโออย่างถาวร เผยปัญหาเด็กต่างด้าวหลบหนีเข้า...
กทม. ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และโรตารี่สากล รณรงค์กวาดล้างโปลิโอ พร้อมเชิญชวนผู้ปกครองพาบุตรหลานเด็กไทยอายุต่ำกว่า 5 ปี และเด็กต่างชาติอายุต่ำกว่า 15 ปี ทุกคนไปรับวัคซีนโปลิโอ ฟรี ณ ศูนย์บริการสาธารณสุขและโรงพยาบาลทุกแห่ง ...
รายงานข่าวจากโรตารีสากลภาค 3350 เปิดเผยว่า โรตารีสากล ภาค 3350 ร่วมกับกรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุข และแม็คโคร จัดงาน "ชุมชนสร้างสรรค์ร่วมกันหยุดโปลิโอ" ในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน 2553 ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ณ แม็คโคร...
รายงานข่าวจากโรตารีสากลภาค 3350 เปิดเผยว่า โรตารีสากล ภาค 3350 ร่วมกับกรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุข และแม็คโคร จัดงาน "ชุมชนสร้างสรรค์ร่วมกันหยุดโปลิโอ" ในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน 2553 ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ณ แม็คโคร...
กทม. จับมือเครือข่ายหยอดวัคซีนโปลิโอแก่เด็กไทยอายุ 5 ปี และเด็กต่างชาติอายุต่ำกว่า 15 ปี ในพื้นที่กรุงเทพฯ วันที่ 23 ธ.ค. 52 และ 27 ม.ค. 53 ผู้ปกครองพาบุตรหลานรับวัคซีนได้ฟรีที่ ศูนย์บริการสาธารณสุข ศูนย์บริการสาธารณสุขสาขา ...
โรตารีประเทศไทย เชิญทุกท่านร่วมงาน ‘รณรงค์สานฝันขจัดภัยโปลิโอ’ ในวันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคมนี้ เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ อุทยานเบญจสิริ ถนนสุขุมวิท พบกับกิจกรรม นิทรรศการรณรงค์วันหยอดวัคซีนโปลิโอแห่งชาติ การเสวนา “เรื่องจริงที่ต้องรู้....โปลิโอยังไม่หมด...
ทั้งเก่ง ทั้งหล่อ แถมใจบุญ ‘ต้า สมิทธ์’ ศิลปินหนุ่มมากความสามารถจากค่ายมิราเคิล เร็คคอร์ดส เข้าร่วมกับสโมสรโรตารีกรุงเทพ 70 และศูนย์สาธารณสุข 4 ดินแดง ในโครงการหยอดวัคซีนโปลิโอประจำปีให้เด็กๆ ครั้งที่2 เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา...