“ฟู้ดสไตลิสต์” ...สนับสนุนเยาวชนไทย ร่วมสร้างประสบการณ์ครีเอทเมนูเชิงสร้างสรรค์ ในเวที “Foodstylist Cooking Dancing Contest 2011” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Cookatainment เปลี่ยนเพลงให้เป็นจาน” ดึงนักศึกษา 10 ทีม จาก 5 สถาบันการศึกษาด้านอาหารชั้นนำร่วมแข่งขันการทำอาหารแนวใหม่ หวังปั้นเชฟหน้าใหม่ประดับอุตสาหกรรมวงการอาหารไทย
อดีตนักร้องนำชื่อดัง “วงซิกเซ้นต์“ ประวิตร เปรื่องอักษร ประธานกรรมการ บริษัท ฟู้ดโปรเจ็ค (สยาม) จำกัด และบรรณาธิการบริหาร Foodstylist Magazine ในฐานะผู้ริเริ่มเปิดเวทีแข่งขันทำอาหารแนวใหม่ “Foodstylist Cooking Dancing Contest 2011” ด้วยคอนเซ็ปต์ “Cookatainment เปลี่ยนเพลงให้เป็นจาน” กล่าวว่า แนวคิดนี้เป็นการผสมผสานอาหาร และดนตรี ซึ่งถือเป็นศาสตร์แห่งศิลปะ และเป็นเรื่องแปลกใหม่ที่จะเกิดขึ้นในเมืองไทย! โดยไม่มีที่ใดจัดมาก่อน และที่ผ่านมา “ฟู้ดสไตลิสท์” เปิดเวทีการแข่งขันที่มีแนวคิดที่แตกต่าง สร้างกระแสการประกวดการทำอาหารอย่างสร้างสรรค์ และเน้นส่งเสริมให้เกิดเชฟหน้าใหม่ๆ มาประดับวงการอาหารในเมืองไทย อย่างเช่นในเวทีนี้ เป็นการเพิ่มสีสัน และความบันเทิงในกับวงการเชฟรุ่นใหม่ โดยใช้ดนตรี และเสียงเพลงเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์อาหารดี ๆ ซึ่งถือว่าเป็นการร่วมสร้าง Cooking Show ในรูปแบบใหม่ ๆ สู่วงการอาหารไทย
“ซึ่งการแข่งขัน ฯ ในครั้งนี้ มีนิสิตนักศึกษา จำนวน 10 ทีม ทีมละ 3-4 คนร่วมแข่งขัน และมีกติกาการประกวดคือ ผู้เข้าแข่งขันจะต้องทำอาหาร โดยมีการออกแบบตกแต่งอย่างสร้างสรรค์ น่ารับประทาน และนำผลิตภัณฑ์ของผู้สนับสนุนโครงการ ฯ อย่างน้อย 2 ผลิตภัณฑ์ เป็นส่วนประกอบในอาหาร โดยเกณฑ์การตัดสินคือ ทุกทีมจะต้องทำอาหารเมนูละ 2 จาน แบ่งเป็นอาหารจานหลักที่บังคับใช้ “ซี่โครงแกะ” เป็นวัตถุดิบหลัก และขนมหวานบังคับให้ใช้ “ผลิตภัณฑ์กะทิอร่อยดี” เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ และให้อิสระในการจัดโต๊ะโชว์อาหารตามสไตล์ และตามธีมของแต่ละเมนูที่นำเสนอ รวมถึงการเลือกใช้ภาชนะ และอุปกรณ์การตกแต่งอย่างเหมาะสม นอกจากนี้จะพิจารณาในเรื่องของการบริหารเวลาที่เหมาะสม รสชาติของอาหารที่ดี มีกรรมวิธีที่ถูกสุขลักษณะ สะอาด มีสีสันสวยงาม และไฮไลท์สำคัญคือ ลีลาการนำเสนอ รวมถึงบทเพลงที่สื่อถึงอาหารที่ได้รังสรรค์ขึ้นมา”
นายพรพิษณุ ภูระธีระ ผู้จัดการแผนกการตลาดผลิตภัณฑ์ซอสปรุงรสตราภูเขาทอง กล่าวว่า สำหรับการเข้าร่วมกิจกรรมการประกวด Foodstylist Cooking Dancing Contest 2011ครั้งนี้ เราได้สนับสนุนในด้านของผลิตภัณฑ์ อาทิเช่น ซอสหอยนางรม และซอสปรุงรส ให้ผู้เข้าแข่งขันได้นำมาประกอบอาหารเพื่อใช้ในการประกวด โดยผลิตภัณฑ์ของเราได้มีการคัดสรรมาเป็นอย่างดี เราเน้นในเรื่องของสุขภาพ เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของผงชูรส หรือสิ่งเจือปน และยังเป็นผลิตภัณฑ์ของคนไทย ที่สำคัญเวทีนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ มีความชื่นชอบในการทำอาหารได้ใช้เครื่องปรุงรสของคนไทย ที่มีการผลิตในเมืองไทย มาเพิ่มรสชาติ และสีสันของอาหารให้ดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือ ปลอดภัยต่อสุขภาพ และทำให้ร่างกายแข็งแรงดีด้วย
“การเข้ามามีส่วนสนับสนุนกิจกรรม ฯ ทำให้เราได้เห็นศักยภาพของเด็กรุ่นใหม่ที่มีใจรักในการทำอาหารมากขึ้น โดยเวทีนี้เป็นก้าวแรกที่ช่วยส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่รักอาชีพการทำอาหาร ทั้งอาหารไทย อาหารนานาชาติ หรืออาหารฟิวส์ชั่นในอนาคต และสามารถพัฒนาเป็นเชฟมืออาชีพได้อย่างไม่ยากอย่างแน่นอน”
สำหรับการแข่งขันดังกล่าวได้จัดขึ้นที่ลานด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ผลปรากฎว่า ทีม “อร่อย Around” นำทีมโดย น.ส เกศกนก สมุทรอัษฎงค์, น.ส.ประณยา โฉมศรี และนายธนวัฒน์ เพ็ญสุวรรณ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะโรงเรียนการเรือน แขนงธุรกิจภัตตาคาร และร้านอาหารแบบเร่งด่วน จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต โชว์ฝีมือเหนือคู่แข่งคว้ารางวัลชนะเลิศมาครองด้วยธีม “สำนึกรักบ้านเกิด” ผ่านบทเพลง “โอ้ละหนอ My love ของ เบิร์ด-ธงชัย” ที่มีสำเนียงการร้อง จังหวะและการนำเครื่องดนตรีของภาคใต้มาใช้ ซึ่งตรงกับแนวคิดของสมาชิกทั้ง 3 คน กับเมนูอาหารจานหลักที่มีชื่อว่า Nasi Dagang หรือ ข้าวมันซี่โครงแกะอบ ซึ่งประยุกต์มาจาก “ข้าวมันแกงไก่” อาหารที่ชาวมุสลิมทางใต้นิยมรับประทานกันเป็นอาหารหลัก และมีคุณค่าทางอาหารสูง จึงมีแนวคิดว่า “ซี่โครงแกะ” น่าจะสามารถนำมาประยุกต์แทนเนื้อไก่ได้ และแรงบันดาลใจของเมนูนี้เกิดจากสมาชิกภายในทีมถึง 2 คนที่มีพื้นเพมาจากภาคใต้ และเคยได้รับประทานมาก่อนนั่นเอง จนชนะใจเหล่าคณะกรรมการคว้าถ้วยรางวัลเกียรติยศ และประกาศนียบัตรจาก Foodstlylist และสมาคมพ่อครัวไทย พร้อมเงินรางวัลมูลค่า 20,000 บาท และกิ๊ฟเซ็ตจากผู้สนับสนุนโครงการฯ รวมมูลค่ากว่า 40,000 บาท ส่วนรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ ทีม 1 จากมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต คว้าถ้วยรางวัลเกียรติยศ และประกาศนียบัตร พร้อมเงินรางวัลมูลค่า 15,000 บาท, รองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ ทีม Popular ป่าช้าแตก นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี คว้าถ้วยรางวัลเกียรติยศ และประกาศนียบัตร พร้อมเงินรางวัลมูลค่า 10,000 บาท และรางวัลชมเชย 2 รางวัล รางวัลละ 5,000 บาท ได้แก่ ทีม Home นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และทีม Freshy นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ส่วนเมนูของหวานคือ Coconut Gratin with rice noodles sweets หรือ กาแตงกะทิลอดช่อง เป็นการนำขนมหวานของไทย “ลอดช่องน้ำกะทิ” มาผสมผสานกับขนมจากประเทศฝรั่งเศส โดยมีเคล็ดลับที่สำคัญคือ การตีไข่ขาวให้ขึ้นฟู ให้มีลักษณะคล้าย Meringue ตกแต่งด้วย Gratin เอกลักษณะเฉพาะที่มีลักษณะสีเหลืองทองเหมาะกับตกแต่งอาหารให้ดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น
3 เยาวชนคนเก่ง บอกว่า “ดีใจ และภูมิใจมากที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ เราได้ร่วมแข่งขันตามเวทีต่างๆ ที่มหาวิทยาลัยได้จัดขึ้น ทำให้เราได้พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ รางวัลนี้จึงเปรียบเสมือนสิ่งตอบแทนสำหรับการสนับสนุน และแรงใจจากอาจารย์ทุกท่านที่คอยให้คำปรึกษา ครอบครัวที่คอยให้กำลังใจ และเคียงข้างพวกเราเสมอมา รวมถึงมีส่วนกระตุ้นให้พวกเราได้มีแรงบันดาลใจในการคิดค้น และสร้างสรรค์อาหารในเมนูแปลกใหม่อีกด้วย สำหรับการแข่งขันในเวที “Foodstylist Cooking Dancing Contest 2011” นี้ เราใช้เวลาตั้งแต่ก่อนน้ำท่วมใหญ่ในการฝึกฝน ด้วยการรวมตัวกันในช่วงปิดภาคเรียน วันหยุด หรือหลังเลิกเรียน เริ่มต้นจากการช่วยกันคิด ช่วยกันแชร์ว่าเราจะทำเมนูอะไร จากนั้นก็ฝึกฝน และทดลองทำ นำข้อแนะนำจากอาจารย์ รวมถึงประสบการณ์จากการได้ฝึกงานในโรงแรมมาใช้ ซึ่งสิ่งที่พวกเราคิดว่าสำคัญที่สุดสำหรับทีมเราคือ การได้ร่วมกันคิด ร่วมกันทำในทุก ๆ ขั้นตอน ซึ่งถือว่าลงตัวที่สุดสำหรับทีมเรา”
น้อง ๆ ทีม “อร่อย Around” ทิ้งท้ายให้แนวคิดดี ๆ อีกว่า “คนที่สนใจในการทำอาหาร หรืออยากจะเป็นเชฟ อย่างแรกที่ต้องมีคือ ใจรัก เมื่อเรารู้สึกรักในสิ่งที่ทำ เราก็จะมีความพยายามในการศึกษา การค้นคว้าหาความรู้อยู่เสมอ ต้องสร้างวินัยให้เกิดกับตนเอง มีความขยัน อดทน และต้องกล้าที่ริเริ่ม และทดลองคิดค้นสิ่งใหม่ รวมถึงการหาประสบการณ์จากเวทีการประกวดแข่งขันต่าง ๆ เพื่อฝึกฝน และพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้น เพราะนอกจากเราจะต้องแข็งขันกับคนอื่นแล้ว ยังต้องแข็งขันกับตัวเองอีกด้วย”
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net