TMB แจ้งความคืบหน้าโครงการปรับแนวทางบริหารพนักงานบริการ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากพนักงาน ที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการแล้ว กว่า 95%

กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--ธนาคารทหารไทย

ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB เปิดเผยว่า “โครงการปรับแนวทางบริหารพนักงานบริการ” (Service Staff Alignment Program - SSRP) ของธนาคาร เพื่อประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ซึ่งเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ในปัจจุบัน มีความคืบหน้าที่ดี โดยในวันนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรับสมัคร มีพนักงานบริการสมัครเข้าร่วมโครงการแล้ว 95% ดร. เอกพล ณ สงขลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ TMB เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารได้ดำเนิน “โครงการปรับแนวทางบริหารพนักงานบริการ” โดยมอบหมายให้บริษัทผู้ให้บริการภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญ เป็นผู้เข้ามาดำเนินงานด้านบริการแทนธนาคาร ซึ่งงานเหล่านี้ได้แก่ ขับรถ รักษาความปลอดภัย รับส่งเอกสาร และนักการ โดยทำข้อตกลงกับบริษัทผู้ให้บริการภายนอกให้รับพนักงานบริการเข้าเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่เดิมให้แก่ธนาคารต่อไป วันนี้ (20 มกราคม) เป็นวันสุดท้ายของการตอบรับเข้าร่วมโครงการภายหลังจากที่ผู้บังคับบัญชาได้ชี้แจงรายละเอียดของโครงการให้พนักงานบริการ รวม 487 คน ทราบเป็นรายบุคคล เมื่อวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา และ ณ 16.00 น. ของวันนี้ มีพนักงานจำนวน 466 คน หรือ 95% ของพนักงานบริการ ที่ตอบรับและสมัครใจเข้าร่วมโครงการแล้ว ในจำนวนนี้ มีพนักงาน 21 คน ที่ได้แสดงความจำนงว่าต้องการเป็นพนักงานธนาคารต่อไป และได้สมัครเข้ารับการคัดเลือกเพื่อปฏิบัติงานในหน้าที่อื่นที่ธนาคารกำลังเปิดรับสมัคร ซึ่งมีจำนวน 15 คน ได้เข้ารับการทดสอบข้อเขียนและสอบผ่านแล้ว และจะได้รับการแต่งตั้งให้ทำงานในธนาคารในตำแหน่งใหม่ต่อไป พนักงานส่วนใหญ่สมัครใจทำงานในหน้าที่เดิมให้แก่ธนาคารอย่างต่อเนื่อง ในฐานะพนักงานของบริษัทผู้ให้บริการภายนอก ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554 เป็นต้นไป โดยจะได้รับผลตอบแทนกรณีออกจากธนาคารสูงกว่าตามที่กฎหมายกำหนด ประกอบด้วย เงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน บวกกับผลตอบแทนพิเศษที่ธนาคารมอบให้ โดยคำนวณจากค่าจ้างเดือนสุดท้ายคูณด้วยจำนวนปีที่ได้ร่วมงานกับธนาคารมา และนอกจากนี้ ยังได้รับค่าจ้างเพื่อชดเชยวันหยุดพักผ่อนประจำปีของปี 2553 ที่ยังไม่ได้ใช้ และสิทธิวันหยุดพักผ่อนประจำปี 2554 ตามสัดส่วน รวมทั้งมีสิทธิได้รับโบนัสตามผลงานปี 2553 จากธนาคาร ทั้งนี้ ธนาคารได้พิจารณาคัดเลือกบริษัทผู้ให้บริการภายนอกอย่างรอบคอบ โดยเน้นที่ความเชี่ยวชาญในงาน ความน่าเชื่อถือและจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งได้ทำข้อตกลงกับบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกให้รับพนักงานบริการของธนาคารเข้าเป็นผู้ปฏิบัติงาน โดยคำนึงพิจารณาถึงประสบการณ์ในการทำงานและจ่ายค่าตอบแทนให้แก่พนักงานโดยเฉลี่ยในอัตราที่สูงกว่าอัตราขั้นต่ำทั่วไปของตลาด ธนาคารจะจ่ายเงินชดเชยตามกฎหมาย และผลตอบแทนพิเศษ กรณีออกจากธนาคารให้แก่พนักงานทั้งสองกลุ่มข้างต้น ในวันที่ 24 มกราคม 2554 และพนักงานยังมีสิทธิจะได้รับโบนัสตามผลการปฏิบัติงาน ปี 2553 ซึ่งจะจ่ายให้ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ศกนี้ ดร. เอกพลกล่าวด้วยว่า “ความสำเร็จของโครงการในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า พนักงานธนาคารรวมทั้งพนักงานบริการ ต่างมีความเข้าใจและสนับสนุนเหตุผลและหลักการของโครงการ และเห็นว่าเป็นโครงการที่เป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง” สายงานสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02 299 1950,53 / 02 242 3260

ข่าวธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่+ธนาคารทหารไทยวันนี้

กรุงไทยยันไม่มีนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้-ฝาก

กรุงไทยเผยขณะนี้ยังไม่มีนโยบายขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้-เงินฝาก เพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจฟื้นตัวอย่างเข็มแข็ง ระบุหากปรับขึ้นหวั่นลูกค้าและภาคธุรกิจได้รับผลกระทบ ระบุสภาพคล่องในระบบยังสูง นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ ไม่ได้สร้างแรงกดดันให้กับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ เนื่องจากสภาพคล่องในระบบอยู่ในระดับสูง ดังนั้น การปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้หรือเงินฝาก ถ้าจะเกิดขึ้นจะเป็นผลจากนโยบายการทำธุรกิจของแต่ละธนาคาร

ฟิทช์: ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ของไทยมีความพร้อมในการปฏิบัติตามเกณฑ์กำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ที่มีนัยต่อความเสี่ยงเชิงระบบในประเทศ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวว่า "ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ของประเทศไทยน่าจะสามารถปฏิบัติตามเกณฑ์ใหม่ด้านการดำรงเงินกองทุนส่วนเพิ่มที่จะมีผลบังคับใช้กับธนาคารพาณิชย์ที่มีนัยต่อความเสี่ยง...

กรุงศรียืนยันความแข็งแกร่งของเงินกองทุน

ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศแนวทางการกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ที่มีความสำคัญเชิงระบบ (Domestic Systemically Important Banks: D-SIBs) นั้น กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ขอเรียนให้ทราบว่า ธนาคารกรุงศรีอยุธยาเป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญ...

ฟิทช์คงอันดับเครดิตของธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดใหญ่ 4 แห่ง

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 4 แห่ง ของประเทศไทย โดยธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBank และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ได้รับการคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประ...

เครือข่ายธุรกิจของธนาคารขนาดใหญ่ในประเทศไทยยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว

ฟิทช์ เรทติ้งส์กล่าวในรายงานเรื่อง "Thailand's Large Banks: Peer Review" ฉบับล่าสุดว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ของไทย 4 แห่งน่าจะสามารถรักษาความแข็งแกร่งของเครือข่ายธุรกิจไว้ได้ต่อเนื่อง ...

ฟิทช์คงอันดับเครดิตของธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดใหญ่ 4 แห่ง

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 4 แห่ง ของประเทศไทย โดยธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBank และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ได้รับการคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประ...

ฟิทช์คงอันดับเครดิตของธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดใหญ่ 4 แห่ง

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 4 แห่ง ของประเทศไทย โดยธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBank และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ได้รับการคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประ...