ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้ “บ. ดั๊บเบิ้ล เอ (1991)” ที่ “BBB/Stable”

กรุงเทพฯ--6 พ.ค.--ทริสเรทติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) ซึ่งเดิมชื่อ บริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB” ในขณะเดียวกันยังจัดอันดับให้แก่หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “BBB” พร้อมแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ส่วนใหญ่ไปใช้ชำระหนี้เงินกู้ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่เหลือจะนำไปซื้อคืนหุ้นทุนของบริษัท ทั้งนี้ อันดับเครดิตสะท้อนถึงฐานะของบริษัทในการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตเยื่อกระดาษชนิดเยื่อใยสั้นและกระดาษพิมพ์เขียนของไทย รวมถึงการมีโรงงานที่มีประสิทธิภาพและมีการผลิตที่ครบวงจร ตลอดจนตราสัญลักษณ์ที่แข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์กระดาษ “ดับเบิ้ล เอ” และโครงสร้างเงินทุนที่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากราคาที่ค่อนข้างผันผวนในอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษแม้บริษัทได้ปรับปรุงผลิตภัณฑ์บางประเภทจากสินค้าโภคภัณฑ์ให้เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค รวมทั้งจากความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ความกังวลเกี่ยวกับการทำรายการระหว่างบริษัทกับบริษัทที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ตลอดจนความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจและแผนการลงทุนของบริษัท แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถคงระดับภาระหนี้สินและรักษาสภาพคล่องให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม แม้ว่าแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจและแผนการลงทุนของบริษัทยังมีความไม่แน่นอน แต่ฐานะการเงินของบริษัทก็ไม่ควรจะถดถอยลงจากระดับปัจจุบันมากเกินไป นอกจากนี้ ยังคาดว่าเมื่อการปรับโครงสร้างธุรกิจเสร็จสมบูรณ์ บริษัทจะมีเพียงรายการระหว่างบริษัทและบริษัทที่เกี่ยวข้องที่จำเป็นและสมเหตุสมผลเหลืออยู่เท่านั้น ทริสเรทติ้งรายงานว่า ณ เดือนมกราคม 2553 บริษัทดั๊บเบิ้ล เอ (1991) มีกลุ่มตระกูลดำเนินชาญวณิชย์เป็นผู้ถือหุ้นหลักในสัดส่วน 70.01% โดยบริษัทได้ถอนการจดทะเบียนออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2551 หลังจากที่นายโยธิน ดำเนินชาญวณิชย์สามารถซื้อหุ้นของบริษัทได้ในสัดส่วน 78.52% หลังจากนั้น ผู้บริหารก็ได้วางแผนปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทโดยการขายโรงไฟฟ้าจำนวน 3 โรง รวมทั้งลงทุนในโรงงานผลิตกระดาษโรงที่ 3 และนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาคในปี 2552 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยจึงส่งผลทำให้แผนการปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทต้องล่าช้าออกไป ในช่วงกลางปี 2552 บริษัทได้ขายธุรกิจไฟฟ้าซึ่งประกอบด้วยโรงไฟฟ้าโรงที่ 5 โรงที่ 6 และโรงที่ 11 ให้แก่บริษัทที่เกี่ยวข้องในราคารวมสุทธิ 3,800 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทยังมีแผนจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งเพื่อทำหน้าที่ถือหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทและอาจซื้อกิจการของบริษัทลูกแห่งอื่นๆ เช่น บริษัท แอดวานซ์ เปเปอร์ มิลล์ 3 จำกัด และ บริษัท ดีเอ แพ็คเก็จจิ้ง จำกัด โดยคาดว่าจะนำบริษัทโฮลดิ้งดังกล่าวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศและลงทุนในโรงงานกระดาษโรงที่ 3 แทนบริษัท อย่างไรก็ตาม กำหนดเวลาในการนำบริษัทใหม่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์รวมถึงแผนการลงทุนยังมีความไม่แน่นอน นอกจากนี้ บริษัทยังได้ซื้อที่ดินจากบริษัทที่เกี่ยวข้อง 2 ราย คือ บริษัท ไทย เพาเวอร์ เจนเนอเรทติ้ง จำกัด และ บริษัท ไฟฟ้าชีวมวล จำกัด เพื่อใช้สร้างอ่างเก็บน้ำของตนเองด้วย ธุรกรรมดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากบริษัทบัญชีแห่งหนึ่งที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ซึ่งระบุว่าราคาซื้อที่ดินดังกล่าวอยู่ในช่วงระดับเทียบเท่ากับราคาที่ดินในบริเวณใกล้เคียง (ระหว่าง 0.3-2 ล้านบาทต่อไร่) ตามประกาศของกรมธนารักษ์ อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งมีประเด็นกังวลว่าที่ดินที่ซื้อมาในราคารวมกันจำนวน 1,860.1 ล้านบาทนั้นสูงกว่าราคาประเมินที่กระทำโดยผู้ประเมินอิสระที่จำนวน 292.9 ล้านบาทค่อนข้างมาก จึงทำให้มีข้อสงสัยในเรื่องความเหมาะสมของรายการระหว่างกันดังกล่าวแม้การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำของบริษัทจะช่วยลดการทำธุรกรรมกับบริษัทที่เกี่ยวข้องลงในอนาคตก็ตาม ทริสเรทติ้งกล่าวว่า บริษัทดั๊บเบิ้ล เอ (1991) เป็นผู้นำในการผลิตเยื่อกระดาษและกระดาษพิมพ์เขียนในประเทศไทยโดยเป็นเจ้าของโรงงานผลิตเยื่อกระดาษจำนวน 2 โรงซึ่งมีกำลังการผลิตรวมประมาณ 620,486 ตันต่อปี และมีเครื่องจักรผลิตกระดาษจำนวน 3 ชุดซึ่งมีกำลังการผลิตประมาณ 552,858 ตันต่อปี เยื่อกระดาษที่ผลิตได้ประมาณ 70%-80% นั้นบริษัทนำมาใช้เพื่อการผลิตกระดาษ และส่วนที่เหลือส่งจำหน่ายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ รายได้จากการขายกระดาษในปี 2552 คิดเป็น 90.43% ของรายได้รวมของบริษัท (ไม่รวมรายได้จากการขายไฟฟ้าในช่วงครึ่งแรกของปี 2552) ส่วนรายได้ที่เหลือมาจากการขายเยื่อกระดาษ บริษัทเป็นผู้ส่งออกเยื่อใยสั้นรายสำคัญในประเทศ โดยคิดเป็นจำนวนส่งออก 82,856 ตันในปี 2551 และ 71,304 ตันในปี 255 2 ปริมาณเยื่อกระดาษที่ส่งออกในปี 2552 ลดลง 14% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่มูลค่าที่ได้รับจากการขายลดลงกว่า 37% เนื่องจากราคาเยื่อกระดาษในปี 2552 ปรับลดลงมากกว่า 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยราคาเยื่อกระดาษมีความผันผวนค่อนข้างมากตามลักษณะของสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วไป ในส่วนของผลิตภัณฑ์กระดาษนั้น บริษัทเน้นที่กระดาษพิมพ์เขียนเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ราคากระดาษพิมพ์เขียนโดยเฉพาะแบบแผ่นนั้นค่อนข้างคงที่เมื่อเทียบกับราคาเยื่อกระดาษ ดังนั้น ในปี 2552 รายได้จากการจำหน่ายกระดาษจึงลดลงประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งสอดคล้องกับปริมาณจำหน่ายที่ลดลงประมาณ 7% เนื่องจากอุปสงค์ที่ลดลงจากวิกฤติเศรษฐกิจซึ่งทำให้บริษัทต้องให้ความสำคัญในเรื่องต้นทุนการผลิตมากกว่าปริมาณการผลิต แม้ว่ารายได้จากการจำหน่ายเยื่อและกระดาษในปี 2552 จะลดลง 12% แต่กำไรของบริษัทยังคงปรับตัวดีขึ้นเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทสามารถคงราคาขายของกระดาษเอาไว้ได้ในขณะที่ราคาของไม้สับซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักปรับลดลงเกือบ 27% ทำให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาปรับเพิ่มขึ้นจาก 14.9% ในปี 2551 เป็น 23.4% ในปี 2552 โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถคงอัตรากำไรไว้ที่ระดับดังกล่าวต่อไปได้เนื่องจากบริษัทได้เริ่มปลูกสวนป่าของตนเองและซื้อไม้โดยตรงจากผู้ปลูก อย่างไรก็ตาม การจัดหาวัตถุดิบเองดังกล่าวยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นซึ่งต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ว่าบริษัทจะสามารถคงอัตรากำไรไว้ที่ระดับดังกล่าวต่อไปในอนาคตได้หรือไม่ ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ณ สิ้นปี 2552 บริษัทดั๊บเบิ้ล เอ (1991) มีหนี้จำนวน 10,903 ล้านบาท ลดลงจาก 12,038 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2551 โดยมีหนี้เงินกู้ระยะสั้นในสัดส่วนประมาณ 44% ของหนี้สินรวม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้การค้า ในขณะที่เงินกู้ระยะยาวส่วนใหญ่เป็นหุ้นกู้ระยะยาวชนิดไม่ด้อยสิทธิสกุลดอลลาร์สหรัฐอัตราดอกเบี้ย 11% ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2555 ด้วยมูลค่าคงเหลือ 144.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นปี 2552 ในเดือนพฤศจิกายน 2552 บริษัทได้ทำคำเสนอขอซื้อคืนหุ้นกู้ดังกล่าวจำนวน 51.02% ของหุ้นกู้คงค้างจากผู้ถือหุ้นกู้ และ ในวันที่ 2 มีนาคม 2553 บริษัทก็สามารถซื้อคืนหุ้นกู้ดังกล่าวได้ในจำนวน 40.765 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2553 บริษัทได้ประกาศว่าบริษัทจะไถ่ถอนหุ้นกู้ส่วนที่เหลือทั้งหมดในวันที่ 19 มิถุนายน 2553 โดยราคาไถ่ถอนจะอยู่ที่ 105.625% ของยอดเงินต้นบวกดอกเบี้ยสะสมและดอกเบี้ยค้างจ่ายจนถึงวันไถ่ถอนแต่ไม่รวมวันไถ่ถอน นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนในการซื้อคืนหุ้นทุนของบริษัทอีกจำนวน 111 ล้านหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายอื่นด้วย ซึ่งแผนการซื้อคืนหุ้นกู้และหุ้นทุนอาจทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะใกล้ โดย ณ สิ้นปี 2552 อัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 45.04% บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ BBB อันดับเครดิตตราสารหนี้: หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 BBB แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่)

ข่าวแอ๊ดวานซ์ อะโกร+ดั๊บเบิ้ล เอวันนี้

แอ๊ดวานซ์ อะโกร เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “ดั๊บเบิ้ล เอ 1991” ฉลองแบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอ ก้าวสู่ทศวรรษที่ 2

บริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร ผู้นำการสร้างแบรนด์กระดาษในตลาดโลก และมีตลาดส่งออกมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทอย่างเป็นทางการ จาก บริษัทแอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) เป็น “บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน)” เพื่อก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 2 ของการสร้างแบรนด์กระดาษดั๊บเบิ้ล เอ หลังจากแบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นที่รู้จักของทั่วโลกและสร้างรายได้จากการส่งออกให้กับประเทศในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานับแสนล้านบาท พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ด้วยการก้าวไปเป็น “ กระดาษของชาวโลก : Paper of the world ”

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้ “บ. ดั๊บเบิ้ล เอ (1991)” ที่ “BBB/Stable”

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) ซึ่งเดิมชื่อ บริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB” ในขณะเดียวกันยังจัดอันดับให้แก่หุ้นกู้...

ดั๊บเบิ้ล เอ ฝ่าวิกฤติโชว์ตัวเลขกำไรสุทธิเกิน 2,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์

ดั๊บเบิ้ล เอ ปรับตัวฝ่าวิกฤติโลก ได้ผลดีเกินคาด ปี 52 กำไรกว่า 2 พันล้าน เชื่อปี 53 ยังสดใส ความต้องการตลาดเพิ่มขึ้น ราคาเยื่อโลกสูงขึ้น ดันต้นทุนและราคากระดาษขยับตาม อาศัยความครบวงจร มีทั้งเยื่อและกระดาษ เตรียมรับกำไร...

ดั๊บเบิ้ล เอ ฝ่าวิกฤติโชว์ตัวเลขกำไรสุทธิเกิน 2,000 ล้านบาทสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ดั๊บเบิ้ล เอ ปรับตัวฝ่าวิกฤติโลก ได้ผลดีเกินคาด ปี 52 กำไรกว่า 2 พันล้าน เชื่อปี 53 ยังสดใส ความต้องการตลาดเพิ่มขึ้น ราคาเยื่อโลกสูงขึ้น ดันต้นทุนและราคากระดาษขยับตาม อาศัยความครบวงจร มีทั้งเยื่อและกระดาษ เตรียมรับกำไร...

ทริสเรทติ้งระบุอันดับเครดิต “บ. แอ๊ดวานซ์ อะโกร” ไม่ได้รับผลกระทบจากการเสนอซื้อคืนหุ้นกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐ

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศวันนี้ว่าอันดับเครดิตองค์กรและแนวโน้มอันดับเครดิตของ บริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) ไม่ได้รับผลกระทบจากการที่บริษัทออกประกาศเสนอซื้อคืนหุ้นกู้...

ภาพข่าว: “Free Point จับมือผนึกกำลังกับพันธมิตรใหม่”

บริษัท เพย์เ น็ตเวอร์ค จำกัด จับมือร่วมเป็นพันธมิตรสู่ความสำเร็จกับ บริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) โดยมอบสิทธิพิเศษให้กับร้านค้า Double A ทุกร้าน ในการเปิดจุด Free Point ให้บริการจำหน่ายสินค้าเติมเงินทุกประเภท เพื่อประสานกำลัง...

“Free Point จับมือผนึกกำลังกับพันธมิตรใหม่”

บริษัท เพย์เ น็ตเวอร์ค จำกัด จับมือร่วมเป็นพันธมิตรสู่ความสำเร็จกับ บริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) โดยมอบสิทธิพิเศษให้กับร้านค้า Double A ทุกร้าน ในการเปิดจุด Free Point ให้บริการจำหน่ายสินค้าเติมเงินทุกประเภท เพื่อประสานกำลัง...

ทริสเรทติ้งยืนยันอันดับเครดิตองค์กร “บ. แอ๊ดวานซ์ อะโกร” ที่ระดับ “BBB/Stable”

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงฐานะของบริษัทในการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิต...

ภาพข่าว: เปิดตัว สตาร์ ฟิตเนส ศูนย์ออกกำลังกายที่ทันสมัย และใหญ่สุดในภาคตะวันออก

พณฯ ท่านชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธาน ในพิธีเปิดโครงการ “สตาร์ ฟิตเนส” ศูนย์ออกกำลังกายที่ใหญ่ และทันสมัยที่สุดในภาคตะวันออก ภายใต้บริหารของโรงแรมสตาร์ ระยอง โรงแรมระดับมาตรฐานชั้นหนึ่ง...

ภาพข่าว: ดร.วีรพงษ์ เปิดงานสัปดาห์หนังสือ กระตุ้นรักการอ่าน ที่ ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊คทาวเวอร์

ดร.วีรพงษ์ รามางกูร ประธานที่ปรึกษาเศรษฐกิจคณะรัฐมนตรี และประธานกรรมการบริหารบริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) เปิดงานสัปดาห์หนังสือ ที่ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ เพื่อส่งเสริม คนไทยรักการอ่าน ...