พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา องค์ทูตสันถวไมตรี ยูนิเฟม

กรุงเทพฯ--15 ก.ย.--คิธแอนด์คินฯ

เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2551 ที่ผ่านมา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ได้ทรงรับเป็น “ทูตสันถวไมตรี” ให้กับกองทุนการพัฒนาเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเฟม) ในโครงการ Say NO to Violence against Women ในประเทศไทย ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ด้วยพระองค์ทรงตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อผู้หญิง โดยมีพระดำรัสตอนหนึ่งว่า “ปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน เป็นปัญหาส่วนรวม ไม่ใช่ปัญหาส่วนตัว ผู้หญิงที่เป็นเหยื่อความรุนแรงต้องทนทุกข์ทั้งทางกาย และจิตใจ รวมถึงความสามารถในการหาเลี้ยงชีพ ความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กมีหลายรูปแบบ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมไปถึงการละเมิดทางเพศ และปัญหาด้านเศรษฐกิจ ซึ่งความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กเป็นปรากฏการณ์สากล ไม่ได้จำกัดในสังคม ชนเผ่า หรือวัฒนธรรมอันใดอันหนึ่งเท่านั้น ที่สำคัญที่สุดความรุนแรงต่อผู้หญิงไม่ใช่การกระทำที่ไม่มีที่มาที่ไป แต่เป็นการกระทำที่มีรากฝังลึกมาจากทัศนคติทางสังคมและวัฒนธรรมซึ่งสร้างให้เกิดความสัมพันธ์เชิงอำนาจที่ไม่เท่าเทียมกันระหว่างหญิงชาย ใน หลายสังคม รวมถึงสังคมไทย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างละเอียดอ่อนและจริงจัง เพื่อนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทัศนคติและพฤติกรรม ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนรวมถึงความตั้งใจจริงของทุกฝ่ายในสังคม” ดร.จีน เดอคูน่า ผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ กองทุนการพัฒนาเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเฟม) กล่าวว่า รู้สึกสำนึกในพระกรุณาธิคุณ และชื่นชมในพระปรีชาสามารถของพระเจ้าหลานเธอฯ ในพระกรณียกิจที่ใต้ ฝ่าพระบาททรงบำเพ็ญเพียรเพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสที่สุดกลุ่มหนึ่งในสังคมไทย ยูนิเฟมเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า ด้วยพระปรีชาสามารถ พระวิริยะอุตสาหะของพระเจ้าหลานเธอฯ ในฐานะทูตสันถวไมตรีในโครงการและการรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงต่อสตรีหรือ Say NO to Violence against Women ของยูนิเฟม จะทรงเป็นตัวอย่างที่ประเสริฐสุดให้กับคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ นอกจากนี้ ยังทรงเป็นศูนย์รวมดวงใจของชาวไทยทุกคนและทุกภาคส่วน ก่อให้เกิดความสามัคคี ผนึกกำลังกันเพื่อเพิ่มความพยายามหาทางยุติความรุนแรงต่อสตรี อันจะเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ประเทศอื่นสืบไป “จากปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและทั่วโลก ยูนิเฟมจึงต้องการรวบรวมรายชื่อให้ครบ 5 แสนชื่อ เพื่อทำการส่งมอบรายชื่อให้กับนายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2551 ซึ่งเป็นวันสากลแห่งการยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในโลกที่ให้การสนับสนุน ตระหนักถึงปัญหาสิทธิสตรีมากที่สุด นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างแรงกระตุ้นต่อประเทศอื่นๆ หันมาให้ความสนใจต่อสิทธิสตรีและยุติการใช้ความรุนแรง” ดร.จีนกล่าว ดังนั้นเพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกแก่คนไทย ยูนิเฟม ขอเชิญชวนประชาชนคนไทยทุกคนร่วมลงชื่อเพื่อยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงได้ที่เว็ปไซต์ www.novaw.in.th ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ ประชาสัมพันธ์ บ.คิธแอนด์คินฯจก. คุณอรวรรณ เถลิงเกียรติกำจร 02 663 3226 ต่อ 67 คุณนครีย์ ชาญสุนทร 02 663 3226 ต่อ 71 สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวการละเมิดสิทธิมนุษยชน+ประชุมแห่งชาติวันนี้

สมาคมธนาคารไทย สนับสนุนการยกระดับนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานของสถาบันการเงินเกี่ยวกับการทำธุรกรรมกับประเทศที่มีความเสี่ยงสูง

สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิก ดำเนินธุรกิจภายใต้จรรยาบรรณธนาคาร (Banking Industry Code of Conduct) อย่างรับผิดชอบต่อลูกค้า สังคม และประชาคมโลกและตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยมีนโยบายชัดเจนที่ไม่สนับสนุนการจัดซื้ออาวุธและสรรพาวุธกับองค์กรทางทหารกับประเทศที่มีความเสี่ยงสูง รวมถึงให้ความสำคัญต่อการป้องกันและห้ามทำธุรกรรมทางเงิน เพื่อการสนับสนุนการก่อการร้ายหรือสงครามที่นำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบขององค์กรกำกับดูแล คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานป้องกัน

ดร.อังค์วรา ไชยอนงค์ อาจารย์ประจำคณะนิติศ... DPU คว้า 2 รางวัล "วิทยานิพนธ์ระดับดี สาขานิติศาสตร์" จากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ — ดร.อังค์วรา ไชยอนงค์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลั...

สหภาพรัฐสภาประณามการล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญาในเมียนมา

ชุมชนรัฐสภาทั่วโลกประณามการล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อยโรฮิงญาในรัฐยะไข่ ทางตอนเหนือของเมียนมา โดยบรรดาสมาชิกรัฐสภาได้เรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมายุติการขับไล่ชาวโรฮิงญาด้วยความรุนแรงและการใช้กำลังบีบบังคับ รวมทั้งยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนของชาว...

มาร์ส และเนสท์เล่ ให้คำมั่นขจัดปัญหาในห่วงโซ่อุปทานอาหารสัตว์เลี้ยงของตน เพิ่มแรงกดดันให้ไทยยูเนี่ยนต้องลงมือทำ

อุตสาหกรรมอาหารขนาดใหญ่อย่างมาร์ส และเนสท์เล่ ประกาศให้คำมั่นต่อสาธารณชนว่าห่วงโซ่อุปทานอาหารสัตว์เลี้ยงของบริษัทจะปลอดจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนและอาหารทะ...

"ผู้ก่อร้าย ผู้อพยพชาวโรฮิงญา หรือหน่วยงานความมั่นคง ภัยต่อความมั่นคงของไทย"

"ผู้ก่อร้าย ผู้อพยพชาวโรฮิงญา หรือหน่วยงานความมั่นคง ภัยต่อความมั่นคงของไทย" โดย ศิววงศ์ สุขทวี ช่วงเดือนที่ผ่านมา ข่าวคราวความรุนแรงในรัฐยะใข่ ประเทศเมียนมาก็ปรากฎขึ้นใหม่อีกครั้ง จากการโจมตีที่ตั้งของกองกำลังตำรวจชาย...

กรีนพีซหยิบยกความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและแรงงานก่อนหน้าการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของไทยยูเนี่ยน

กรีนพีซระบุความเสียหายต่อชื่อเสียง การประมงแบบทำลายล้าง และการละเมิดสิทธิมนุษยชนในห่วงโซ่อุปทานถือเป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนและผู้ถือหุ้นควรคำนึงถึงในการตัดสินใจลงทุน ในวาระโอกาสที่ผู้ถือหุ้นกว่าพันคน...