กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ยืนยันอันดับเครดิตหุ้นกู้มีประกัน 7,500 ล้านบาท (KEGCO#1) ของ บริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด (KEGCO) ที่ระดับ “AA-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของโครงการโรงไฟฟ้า
ขนอม ความสำคัญในฐานะเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าหลักสำหรับภาคใต้ของประเทศไทย และความสามารถในการดำเนินการโรงไฟฟ้าที่เป็นที่ยอมรับ อย่างไรก็ตาม จุดเด่นเหล่านี้ถูกลดทอนบางส่วนด้วยความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของการแปรรูปอุตสาหกรรมไฟฟ้าในอนาคต แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนความคาดหมายของทริสเรทติ้งว่าบริษัทผลิตไฟฟ้าขนอมจะยังคงได้รับกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอจากรายได้ค่าไฟฟ้า และคาดว่าโรงไฟฟ้าขนอมจะสามารถบรรลุผลการดำเนินงานตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทผลิตไฟฟ้าขนอมก่อตั้งในปี 2538 เพื่อซื้อโรงไฟฟ้าขนอมซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 824 เมกะวัตต์จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บริษัทมีฐานะเป็นบริษัทย่อยซึ่งถือหุ้น 100% โดย บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่ กฟผ. ถือหุ้น 25.4% การจัดตั้ง EGCO และ KEGCO เป็นส่วนหนึ่งของการเริ่มโครงการแปรรูปกิจการไฟฟ้าของ กฟผ. โรงไฟฟ้าขนอมตั้งอยู่ในภาคใต้ของประเทศไทยที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มีกำลังการผลิตรวม 824 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังความร้อน 2 ชุด กำลังการผลิตรวม 150 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 1 ชุด กำลังการผลิตรวม 674 เมกะวัตต์
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่าง กฟผ. และบริษัทผลิตไฟฟ้าขนอมมีการออกแบบที่ดี อายุสัญญาที่นานถึง 15-20 ปีช่วยลดความเสี่ยงทางการตลาดทั้งในด้านการเปลี่ยนแปลงราคาค่าไฟฟ้าและปริมาณการใช้ไฟ รายได้ค่าไฟฟ้าส่วนใหญ่ซึ่งมาจากการดำรงความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าช่วยลดความเสี่ยงจากความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ลดลง ในขณะที่โครงสร้างค่าไฟฟ้าที่ประกอบด้วยต้นทุนบวกกำไรช่วยลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงราคาค่าไฟ ความได้เปรียบในการแข่งขันของโรงไฟฟ้าขนอมมาจากการที่โรงไฟฟ้าเป็นแหล่งไฟฟ้าหลักสำหรับภาคใต้ซึ่งการใช้ไฟฟ้ามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง การผลิตไฟฟ้าของบริษัทคิดเป็นสัดส่วน 60% โดยประมาณของการผลิตทั้งหมดของภาคใต้ การเดินเครื่องโรงไฟฟ้าตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันสามารถบรรลุเป้าหมายทั้งในด้านความพร้อมจ่ายและอัตราการเผาไหม้เชื้อเพลิง เทคโนโลยีที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว ประกอบกับบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญซึ่งโอนย้ายมาจาก กฟผ. ช่วยลดความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีและจากการดำเนินงาน ในขณะที่ผู้ซื้อไฟฟ้ารับภาระความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาเชื้อเพลิงผ่านทางค่าพลังงานไฟฟ้า
ทริสเรทติ้งกล่าวต่อไปว่า เนื่องจาก กฟผ. เป็นผู้ซื้อไฟฟ้าเพียงรายเดียวของบริษัทผลิตไฟฟ้าขนอม ดังนั้น ฐานะทางการเงินและเครดิตของ กฟผ. จึงมีผลกระทบอย่างมากต่อความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัท ปัจจุบันการแปรรูป กฟผ. ถูกระงับโดยศาลปกครอง ทำให้ กฟผ. คงสถานภาพการเป็นรัฐวิสาหกิจซึ่งถือหุ้น 100% โดยรัฐบาล
บริษัทผลิตไฟฟ้าขนอมมีผลประกอบการอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยบริษัทสามารถดำรงค่าความพร้อมจ่ายเฉลี่ยของโรงไฟฟ้าให้อยู่ที่ระดับ 94.9% รายได้จากการขายไฟฟ้าของบริษัทเพิ่มขึ้น จาก 4,224 ล้านบาทในปี 2547 เป็น 4,339 ล้านบาทในปี 2548 และ 4,188 ล้านบาทสำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2549 ภาระหนี้รวมของบริษัทลดลงเป็น 6,752 ล้านบาท ณ เดือนกันยายน 2549 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนลดลงอย่างต่อเนื่องจาก 61.5% ในปี 2547 เป็น 52.8% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2549 อัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทซึ่งอยู่ในระดับสูงที่ 1.32 เท่า ณ สิ้นปี 2548 นั้นมากกว่าระดับต่ำสุดที่กำหนดไว้ที่ระดับ 1.1 ทริสเรทติ้งกล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit