DRT ทำกำไรสุทธิไตรมาสสอง 91 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อนถึง 65 % “ประกิต” เผยแม้ภาคอสังหาริมทรัพย์จะชะลอตัวก็ไม่กระทบกับบริษัทฯ พร้อมเดินหน้าเร่งเพิ่มสายการผลิต และขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ
นายประกิต ประทีปะเสน ประธานกรรมการ บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องหลังคาตราเพชร อะดามัส และเจียระไน เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2549 (มกราคม-มิถุนายน 2549) ว่า DRT สามารถทำรายได้รวมเป็นจำนวน 1,245.54 บาท เพิ่มจากปีก่อนร้อยละ 10.40 คิดเป็นผลกำไรสุทธิ 168.99 ล้านบาท โดยในไตรมาส 2 ของปี 2549 (เมษายน – มิถุนายน 2549 ) บริษัทมีกำไรสุทธิ 91.11ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.93 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2548 ที่มีกำไรสุทธิ 55.19 ล้านบาท คิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 65.09% รายได้รวม 651.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.82% เมื่อเทียบกับไตรมาส2/2548 ที่มีรายได้ 552.88 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้นประมาณ 119.44 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 11.08 เนื่องจากตลาดมีความต้องการกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์มากขึ้น และไม้ฝาตราเพชรเอง จากเดิมที่เป็นสินค้าที่ใช้เฉพาะกลุ่ม แต่ปัจจุบันเนื่องจากมีการให้ความรู้ความเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์ มากขึ้น ทำให้สามารถขยายกลุ่มลูกค้าเข้าสู่กลุ่ม พรีเมี่ยมทำให้มีราคาขายเฉลี่ยสูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อน
“ ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา DRT ถือว่าเติบโตได้ดี ถึงแม้สถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะผันผวน แต่บริษัทก็ยังสามารถรักษายอดขายรวมของบริษัทฯ ไว้ได้ เนื่องจากสินค้าของบริษัทกว่า 90% เป็นการขายให้กับผู้ใช้โดยตรงหมายถึงการขายผ่านร้านค้าผู้จำหน่ายที่มีอยู่ทั่วประเทศ และส่วนใหญ่ก็เป็นตลาดภูมิภาค ซึ่งลูกค้ายังคงมีรายได้ที่ดีจากการขายสินค้าทางการเกษตร และในส่วนของสายการผลิตที่ 7 ซึ่งเริ่มเดินกำลังผลิตเมื่อไตรมาส 4 ปลายปี 2548 ได้ดำเนินการผลิตกระเบื้องหลังคาเจียระไน รวมทั้งไม้สังเคราะห์และแผ่นเจียระไนบอร์ด โดยเราได้นำไปเปิดตัวในงานสถาปนิก’49 ที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้กระแสตอบรับจากกลุ่มผู้บริโภคดีพอสมควร นอกจากนี้สำหรับตลาดต่างประเทศเอง เราได้มีแผนที่จะผลักดันสินค้าดังกล่าวไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งแต่เดิมเรามีฐานของลูกค้าเก่าอยู่แล้ว และคาดว่าน่าจะสามารถขยับสัดส่วนการขายให้เพิ่มมากขึ้น ได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ” นายประกิตกล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง เนื่องจากขณะนี้สายการผลิตกระเบื้องคอนกรีต CT 5 ซึ่งเป็นสายการผลิตกระเบื้องคอนกรีตใหม่ล่าสุด เสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นถึง 45,000 ตัน ต่อปี เม็ดเงินลงทุนกว่า 140 ล้านบาท เริ่มเดินเครื่องผลิตสินค้าตั้งแต่เมื่อต้นเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ส่วนสายการผลิตที่ 8 ซึ่งรองรับตลาดประเภทไม้ฝาสังเคราะห์ ทั้งผนังภายนอกและภายใน เพดาน รวมทั้งไม้พื้นแบบต่างๆ ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องจักรไปแล้วกว่า 80 % ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการติดตั้งเครื่องจักรเสร้จเรียบร้อย และเดินเครื่องจักรผลิตสินค้าด้วยกำลังการผลิตประมาณ42,000 ตันต่อปี ปัจจุบันผู้บริโภคหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนไม้จริงมากยิ่งขึ้น ส่วนแผนการตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ยังคงเน้นการทำตลาดโดยการสร้างความเข้มแข็งให้กับช่องทางการจัดจำหน่ายหลักที่มีอยู่กว่า 600 รายทั่วประเทศ เช่น เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างบริษัทและผู้แทนจำหน่าย ด้วยการจัดกิจกรรมการตลาดต่างๆ มากมาย รวมถึงการจัดอบรมให้ความรู้ ความเข้าใจในแต่ละผลิตภัณฑ์กับพนักงานของบริษัทฯ รวมทั้งร้านค้าผู้แทนจำหน่าย และช่างฝีมือทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบทุกกลุ่มเป้าหมาย
นอกจากนี้เรายังได้มีการเซ็นต์สัญญาในการใช้ก๊าซธรรมชาติ ( Natural Gas ) เป็นพลังงานทดแทน ในสายการผลิตต่างๆ กับ บริษัท ปตท.จำกัด ( มหาชน ) เป็นระยะเวลา 10 ปี คาดว่าจะเริ่มใช้ตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. 49 เป็นต้นไป นอกจากนี้เราให้ความสำคัญในเรื่องของการบริหารจัดการต้นทุนทุกตัวสินค้า และในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆงจะต้องเกิดประโยชน์สูงสุด “
ประธานกรรมการ DRT กล่าวด้วยว่า แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทมีการขยายตลาดไปยังต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ซึ่งตอนนี้เรามีผู้แทนจำหน่ายในตลาดเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา จีน ลาว พม่า เกาหลี ไต้หวัน และน่าจะเพิ่มมากขึ้นอีกในอนาคต โดยมีแผนขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศในโซนตะวันออกกลาง ( Middle East ) เพราะกลุ่มประเทศดังกล่าวมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงอย่างต่อเนื่องมาตลอด สำหรับสัดส่วนรายได้ ของ DRTนั้น รายได้หลักยังคงเป็นกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ ที่มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 65.89% กระเบื้องคอนกรีต 17.16% และไม้ฝา 14.79%
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
Master Mind Communications Co.,Ltd
Tel : 0-2643-1191-2
Fax : 0-2643-1192
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net