DRT ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ไตรมาส 3 มีรายได้ 606 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปี ก่อนถึง 29% กำไรสุทธิโต 57% “ประกิต” เผยตลาดต่างประเทศโต 27% ส่วนตลาดโครงการในประเทศที่มีการชะลอตัวไม่หวั่น ยันยอดขายยังโตได้อีกมาก จากการขยายกำลังการผลิต มุ่งเจาะตลาดต่างประเทศ และตลาดโครงการ
นายประกิต ประทีปะเสน ประธานกรรมการ บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2549 (กรกฎาคม - กันยายน 2549 ) บริษัทมีรายได้รวม 606 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 25 และมีกำไรสุทธิ 73 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 57 สำหรับผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนแรกของปี 2549 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2549
บริษัทฯ สามารถทำรายได้ 1,852 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 15 และมีกำไรสุทธิ 242 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 51
นายประกิตกล่าวว่า การที่บริษัทฯ มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ ขายสินค้าได้มากขึ้น โดยในช่วงไตรมาส 3 นี้ มีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 122 ล้านบาท หรือร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปี 2548 เพราะตลาดมีความต้องการกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์มากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ไม้ฝาตราเพชร ที่ผู้บริโภคมีความเข้าใจในตัวสินค้ามากขึ้น เห็นความสะดวกในการใช้งาน และที่สำคัญราคาก็ไม่สูงมาก สามารถนำไปดัดแปลงการให้มีการใช้งานอย่างหลากหลาย ซึ่งในปัจจุบันก็เป็นที่ต้องการของตลาด นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ขยายฐานลูกค้าในตลาดต่างประเทศ และตลาดโครงการตามแผนงานที่วางไว้ อย่างเช่น ล่าสุดการประสบความสำเร็จจากโครงการบ้านเอื้ออาทร ( เทิร์นคีย์ 3 ) ที่เราเป็นผู้กระจายสินค้าในส่วนของหลังคาให้กับโครงการดังกล่าวผ่านบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเว็ลลอปเม้นต์ จำกัด ( มหาชน )มูลค่าโครงการรวมประมาณ 130 ล้านบาท รวมทั้งโครงการของบริษัทฯ เอกชนต่างๆอีกหลายโครงการที่ปิดการขายไปแล้ว ซึ่งต่างก็เป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
“ในด้านของตลาดต่างประเทศนั้นก็ไปได้ดี ความต้องการสินค้าในตลาดภูมิภาคนี้ยังมีอยู่อีกมาก โดยเฉพาะตลาดประเทศเพื่อนบ้านซึ่งกำลังเร่งพัฒนา เช่น กัมพูชา และลาว ซึ่งมีการขยายตัวของสินค้ากลุ่มกระเบื้องหลังคาทั้งกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์และกระเบื้องคอนกรีต รวมถึงกลุ่มไม้ฝาสังเคราะห์สูงมาก ส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศขยับเพิ่มขึ้นเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ และเชื่อว่ารายได้และกำไรทั้งปี 2549 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ คือมีการเติบโตไม่น้อยกว่า 10% จากปีก่อน” นายประกิตกล่าว
ประธานกรรมการ บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) กล่าวด้วยว่า ในด้านของการเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับความต้องการสินค้าจากการทำตลาดที่ประสบความสำเร็จของบริษัทนั้น ในสายการผลิตที่ 8 ซึ่งรองรับตลาดประเภทไม้ฝาสังเคราะห์ มีกำลังการผลิตประมาณ 42,000 ตันต่อปี ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องจักรเป็นที่เรียบร้อยแล้วและอยู่ในช่วงทดสอบสายการผลิต คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องในเชิงพาณิชย์ได้เต็มกำลังการผลิตในต้นปีหน้า อีกทั้งการที่เราเปลี่ยนมาใช้ก๊าซธรรมชาติแทนการใช้น้ำมันดีเซลในกระบวนการผลิตสินค้า ก็ช่วยทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง
“กำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มสายการผลิตในปลายปีนี้ เรามีตลาดรองรับอยู่แล้ว ทั้งลูกค้าเก่าในประเทศและต่างประเทศ เช่น ลาวและกัมพูชา จีน พม่า เกาหลี ไต้หวัน และเรามีแผนจะรุกไปยังตลาดในแถบตะวันออกกลาง ซึ่งมีการขยายตัวของธุรกิจที่เป็นโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ รวมถึงตลาดโครงการทั้งในและต่างประเทศที่เป็นโครงการทั้งภาครัฐและภาคเอกชน” นายประกิตกล่าวและเสริมว่า ยอดขายส่วนที่เหลือของปีนี้จะมีส่วนเสริมจากตลาดภายในประเทศและตลาดภูมิภาค โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ต้องมีการซ่อมแซมอาคาร ที่อยู่อาศัย ภายหลังจากที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมด้วย
บริษัทกระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน )หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องหลังคา ไม้ฝา รวมถึงอุปกรณ์ประกอบหลังคา ภายใต้เครื่องหมายการค้าตราเพชร อดามัส เจียระไน และตราหลังคา มีประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจกว่า 20 ปี มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และได้รับการรับรองระบบคุณภาพมาตรฐาน ISO 9001:2000 รวมถึงได้รับเครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) จากสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ตลอดจนได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand’s Brand จากกรมส่งเสริมการส่งออก ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพสินค้า ตลอดจนมีการบริหารจัดการภายในโรงงานที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้สโลแกน “ คุณภาพต้องมาก่อน ทุกขั้นตอนของสินค้า ผลิตภัณฑ์ที่ล้ำค่า ถึงลูกค้าพึงพอใจ “
รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ: คุณวารุณี คำไชย (แนน)
โทร: 0-2643-1191-2 ต่อ 15 หรือ 08-1496-6762 e-mail :
[email protected]