โคนิก้า มินอลต้า เตรียมบุกตลาดดิจิตอล

บริษัท โคนิก้า และบริษัท มินอลต้า สองบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการถ่ายภาพ ได้ผนึกกำลังรวมตัวกันภายใต้ชื่อ แบรนด์ใหม่ "โคนิก้า มินอลต้า" เพื่อสร้างจุดยืนใหม่ให้กับกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายและเพื่อให้สามารถต่อสู้กับคู่แข่งในสมรภูมิผลิตภัณฑ์ถ่ายภาพและผลิตภัณฑ์ในยุคดิจิตอล โดยได้ประกาศรวมบริษัทเข้าด้วยกันเพื่อเน้นการเจาะตลาดกล้องดิจิตอล ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย ภายใต้ชื่อบริษัทใหม่ "โคนิก้า มินอลต้า โฟโต้ อิมเมจจิ้ง" มร.ฮิโรยาซึ เอ็นโด กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคนิก้า มินอลต้า โฟโต้ อิมเมจจิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า "มินอลต้านั้นเป็นหนึ่งในผู้นำในส่วนของการบันทึกภาพที่มีสีสันสวยงาม (Input) ส่วนโคนิก้านั้นก็มีการนำภาพที่บันทึกพิมพ์ออกมาให้มีสีสันสวยงามเหมือนจริง (Output) ซึ่งเมื่อ 2 บริษัทได้รวมตัวกันแล้ว ก็จะสร้างความแข็งแกร่ง และความครบวงจรให้แก่บริษัทใหม่ที่เกิดขึ้น โดยแบรนด์โคนิก้า มินอลต้า จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ถ่ายภาพสำหรับผู้บริโภคทุกกลุ่ม ส่วนประเทศไทยหลังจากการรวมตัวระหว่างโคนิก้า มินอลต้า ทางบริษัทกิตติ อินเตอร์เนชั่นแนล จะเป็นผู้จำหน่ายและดูแลเกี่ยวกับโฟโต้ทั้งหมด และทางบริษัท โคนิก้า มินอลต้า จะดูแลช่องทางไอที AV รวมถึงแล็บของโคนิก้าและซันคัลเลอร์ในโลตัส สำหรับกล้องดิจิตอลที่ทางบริษัท โคนิก้า มินอลต้า ได้วางตลาด จะครอบคลุมผู้บริโภคในตลาดบนของกล้องดิจิตอล โดยแบ่งเป็นหลายซีรีส์ ตั้งแต่ระดับมือสมัครเล่นจนถึงระดับมืออาชีพในครึ่งปีหลัง 2005 ทางบริษัทฯ จะรุกตลาดกล้องดิจิตอลมากกว่า 10 รุ่น โดยเบื้องต้นได้วางตลาดกล้อง 3 รุ่น ได้แก่ Dimage A200 กล้องโปรซูเมอร์ระดับมืออาชีพซึ่งพัฒนาจากกล้อง SLR ของมินอลต้า และ บวกกับเทคโนโลยี AS (Anti-Shake) ทำให้ถ่ายภาพได้แบบมืออาชีพ ด้วยเหตุผลนี้ทำให้กล้อง A200 เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดในระดับ 8 ล้านพิกเซล (สูงสุดในกล้องปัจจุบัน) ทำให้ได้ภาพที่เห็นมุมมองที่มากกว่ากล้องอื่นๆ Dimage Z5 กับความละเอียด 5 ล้านพิกเซลและระบบดิจิตอลซูมสูงสุดถึง 48 เท่า DimageX60 เล็กที่สุดกับจอภาพ 2.5" (ขนาดกล้องเพียง 3.5") และซูมเลนส์ในตัวเพื่อป้องกันกันเลนส์เป็นรอย (Submarine Lens) ลิขสิทธิ์เฉพาะระดับโลกกับความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมทำงานเพียง 0.5 วินาที ซึ่งกล้องรุ่นนี้ทาง โคนิก้า มินอลต้า มุ่งเป้าหมายไปที่กลุ่มวัยรุ่น และคนรุ่นใหม่ ด้วยคุณสมบัติที่พกพาง่าย, สะดวก รวมถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทางโคนิก้า มินอลต้า มีเป้าหมายที่จะทำตลาดกล้องดิจิตอลในตลาดบน โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าทีมีปัญหากับกล้องตัวแรกที่ซื้อมาและได้รับความผิดหวังจากคุณภาพหรือการทำงานของกล้องที่ไม่ได้รับมาตรฐาน ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่สุด คือ เลนส์และระบบประมวลผลภาพ ซึ่งโคนิก้ามินอลต้าเองมีเลนส์เฉพาะที่มีชื่อเสียงจากการวัดแสงที่แม่นยำ ทำให้ภาพไม่เบลอและสนับสนุนด้วยระบบ AS ที่อยู่ใน Memory ช่วยในการซูมไกล สภาพแสงน้อย รวมทั้งแก้ปัญหามือสั่นน โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง และระบบ CX processor III ซึ่งทำให้ภาพใส ลดสัญญาณรบกวน (Noise) ทางโคนิก้า มินอลต้า ได้เชิญคุณมาช่า วัฒนพานิช ซึ่งเป็นนักแสดงชื่อดังและยังเป็นช่างภาพสมัครเล่น ซึ่งมีมุมมองเรื่องการถ่ายภาพที่ดี มาเป็นตัวแทนของทางโคนิก้า มินอลต้าในการถ่ายทอดมุมมองของการถ่ายภาพไปยังกลุ่มเป้าหมายของ โคนิก้า มินอลต้า ซึ่งทางโคนิก้า มินอลต้าได้คาดหวังว่า หลังจากการมีกิจกรรมทางการตลาดและการโฆษณาต่อเนื่องทางโคนิก้า มินอลต้า น่าจะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มจาก 4% เป็น 8% (หรือนับเป็น 20% จากตลาดบน) ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 8,000 ล้านบาท หรือ 620,000 ตัว ในปี 2005 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร. 0-2434-8300 สุจินดา, แสงนภา, นวลพรรณ สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--

• ข่าวโคนิก้า มินอลต้า
• ข่าวชื่อบริษัทใหม่
• ข่าวในยุคดิจิตอล
• ข่าวตลาดดิจิตอล
• ข่าวยุคดิจิตอล