กรุงเทพฯ--12 ธ.ค.--คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
อินเทล คอร์เปอเรชั่น ประกาศเปิดตัว อินเทล คอมไพเลอร์ เวอร์ชั่น 8.0 คอมไพเลอร์รุ่นใหม่นี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอพพลิเคชั่นและยังเป็นแพคเกจพิเศษที่ใช้ในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับรันบนเซิร์ฟเวอร์ เดสก์ท้อปและอุปกรณ์โมบายล์ต่างๆ อาทิ โน้ตบุ้ก โทรศัพท์มือถือ และพีดีเอที่ใช้โปรเซสเซอร์ของอินเทลเป็นตัวประมวลผลได้ด้วย
นักพัฒนาซอฟต์แวร์ใช้คอมไพเลอร์ในการแปลภาษาโปรแกรม อย่างเช่น C++ หรือ Fortran ให้เป็นภาษาเครื่องเพื่อให้โปรเซสเซอร์เข้าใจความหมาย คอมไพเลอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงจะช่วยให้แอพพลิเคชั่นทำงานได้ดียิ่งขึ้น คอมไพเลอร์ของอินเทลออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถพัฒนาแอพพลิเคชั่นประสิทธิภาพสูงเพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้โปรเซสเซอร์ของอินเทล ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้เก็บฐานข้อมูล และซูเปอร์คอมพิวเตอร์
นายเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการบริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า "แพลตฟอร์มที่มีอยู่มากมายนับเป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในปัจจุบัน ดังนั้นนักพัฒนารายใดที่มีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงสุดก็จะได้เปรียบผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มจำนวนการทำธุรกรรมต่อวินาทีให้ได้มากขึ้น การวิเคราะห์ทางวิศวกรรมบนเซิร์ฟเวอร์ หรือแม้แต่การเพิ่มความรวดเร็วและราบรื่นในการรับส่งข้อมูลบนโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ไร้สายต่างๆ อินเทล คอมไพเลอร์ช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถออกแบบซอฟต์แวร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบสำหรับการใช้งานได้ทั้งระบบไม่ว่าจะเป็นบนเซิร์ฟเวอร์หรือโทรศัพท์มือถือ"
คอมไพเลอร์ของอินเทลที่ออกมาใหม่ ประกอบด้วย Intel C++ และ Intel Fortran สำหรับ Windows* และ Linux* และยังมี Intel C++ สำหรับ Windows CE .NET* ด้วย คอมไพเลอร์เหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้งานกับ อินเทล ไอเทเนียม ทู โปรเซสเซอร์ อินเทล ซีออน โปรเซสเซอร์ อินเทล เพนเทียม โฟร์ โปรเซสเซอร์ สถาปัตยกรรม Intel Personal Internet Client Architecture สำหรับโทรศัพท์มือถือและพีดีเอ และ อินเทล เพนเทียม เอ็ม โปรเซสเซอร์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบหนึ่งของ อินเทล เซนทริโน โมบายล์ เทคโนโลยี
Intel Visual Fortran Compiler สำหรับ Windows* เป็นเทคโนโลยีคอมไพเลอร์รุ่นถัดไปสำหรับการประมวลผลประสิทธิภาพสูง ซึ่งเป็นการรวมเอาลักษณะภาษาของ Compaq Visual Fortran* (CVF) และประสิทธิภาพการทำงานของ อินเทล คอมไพเลอร์และเทคโนโลยี code-generation เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้นักพัฒนาสามารถย้ายซอร์ซโค้ดที่เขียนขึ้นบน CVF มายัง Intel Visual Fortran ได้ง่ายขึ้น ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่สามารถใช้ภาษา CVF กับเครื่องที่ใช้โปรเซสเซอร์ซึ่งเป็นเทคโนโลยีอินเทล 32 บิต และไอเทเนียม โปรเซสเซอร์ ที่รันบนระบบปฏิบัติการ Windows และยังสามารถใช้งานภาษา CVF บนเครื่องที่ใช้เทคโนโลยีอินเทล 32 บิต และไอเทเนียม โปรเซสเซอร์ ที่รันบนระบบปฏิบัติการลินุกซ์ได้ด้วย คอมไพเลอร์รุ่นพิเศษ Intel Visual Fortran Compiler, Professional Edition สำหรับ Windows* จะมีวางจำหน่ายในช่วงต้นปี 2547 โดยรุ่นพิเศษนี้จะมี IMSL Fortran 5.0 Library* ที่พัฒนาขึ้นมาโดย Visual Numerics Inc. รวมอยู่ด้วย
คอมไพเลอร์ของอินเทลนั้นให้ประสิทธิภาพทำงานที่ดียิ่งขึ้นด้วยพลังโปรเซสเซอร์สมรรถนะสูงของอินเทล และสามารถใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์มชั้นนำทั่วไปได้ นักพัฒนาจึงสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์ตามแบบที่ต้องการได้อย่างเต็มที่ คอมไพเลอร์ทุกตัวจะได้รับการอัพเกรดและการบริการโดยตรงจากอินเทลตลอดระยะเวลาหนึ่งปี
มร. เดวิด แอกซ์มาร์ค ผู้ร่วมก่อตั้งและรองประธานบริษัท MySQL AB กล่าวว่า "ฐานข้อมูล MySQL ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เพิ่มความเร็วตั้งแต่ต้น เมื่อเราเริ่มใช้คอมไพเลอร์ Intel C++ เวอร์ชั่น 8.0 รุ่นใหม่ ปรากฏว่า MySQL สามารถเร่งความเร็วในการให้บริการฐานข้อมูลได้มากกว่าร้อยละ 20** จากการทดสอบด้วยโปรแกรม GCC3.3 ทำให้ MySQL สามารถครองตำแหน่งหนึ่งในระบบฐานข้อมูลที่เร็วที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดของโลกได้"
คอมไพเลอร์รุ่นใหม่นี้สนับสนุนการทำงานของโปรเซสเซอร์ของอินเทลที่ใช้ชื่อรหัส Prescott และกำกังจะมีการเปิดตัวในเร็วๆ นี้ โดยได้รวมเอาคำสั่งใหม่ๆ ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของกราฟิก วิดีโอและแอพพลิเคชั่นที่ซับซ้อนต่างๆ และสนับสนุนเทคโนโลยี Mobile MMX รุ่นใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพระดับสูงในด้านกราฟิก ออดิโอ และ วิดีโอ สำหรับการใช้งานบนโทรศัพท์มือถือและพีดีเอด้วย เครื่องมือนี้จะช่วยให้นักพัฒนาสามารถออกแบบแอพพลิเคชั่นสำหรับใช้งานกับอุปกรณ์ที่ใช้สถาปัตยกรรมอินเทลได้ นอกจากนี้ อินเทล คอมไพเลอร์รุ่นใหม่ยังใช้ได้กับเทคโนโลยี ไฮเปอร์-เธรดดิ้ง และ OpenMP* 2.0 ซึ่งเป็นมารตฐานอุตสาหกรรมที่ใช้ในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นเธรดระดับสูง เครื่องมือที่ให้มาพร้อมกับคอมไพเลอร์รุ่นใหม่ด้วย คือ Intel Code Coverage และ Intel Test Prioritization Tools ซึ่งการนำเครื่องมือนี้มาใช้ร่วมกันจะช่วยให้การพัฒนาแอพพลิเคชั่นทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยการพัฒนาขั้นตอนการทดสอบซอฟต์แวร์ก่อนเปิดตัวอีกด้วย
ขณะนี้อินเทลคอมไพเลอร์มีวางจำหน่ายแล้วทั่วโลก โดยมีราคาตั้งแต่ 399 เหรียญสหรัฐ ไปจนถึง 1,499 เหรียญสหรัฐ ผู้สนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก www.intel.com/software/products.
อินเทลเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นผู้นำในการผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ระบบเครือข่าย และอุปกรณ์สื่อสาร ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทอินเทล ได้ที่ เว็บไซต์ http://www.intel.com/pressroom
ติดต่อ:
คุณเพชราภรณ์ เจริญนิพนธ์วานิช คุณกรรภิรมย์ อึ้งภากรณ์
บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
โทรศัพท์: (66 2) 654-0654 โทรศัพท์: (66 2) 627-3501
e-Mail:
[email protected] e-Mail:
[email protected]จบ--
-รก-