อินเทลเน้นพัฒนาโซลูชั่นเอ็นเตอร์ไพรซ์ที่ดีขึ้น เร็วขึ้น และคุ้มค่ามากขึ้น

กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ มร. ไมค์ ฟิสเตอร์ รองประธานอาวุโส บริษัท อินเทล คอร์เปอเรชั่น ได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าวิศวกรและนักพัฒนาในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจำนวนหลายพันคนในงาน อินเทล ดิเวลล็อปเปอร์ ฟอรั่ม (Intel Developer Forum) ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองซานโฮเซ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ว่า อินเทลมุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการใช้โซลูชั่นระดับเอ็นเตอร์ไพรซ์ที่ดีขึ้น เร็วขึ้น และมีความคุ้มค่ามากขึ้นกว่าเดิม มร.ฟิสเตอร์ ได้พูดถึงนวัตกรรมใหม่ในเรื่องของระบบประมวลผลประสิทธิภาพสูง (High Performance Computing - HPC) ระบบที่บริหารได้ง่ายขึ้น ระบบที่ทำงานเป็นโมดูล แพลตฟอร์มของอินเทล รวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆในอนาคต ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า อินเทลได้ร่วมมือกับบริษัทฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ต่างๆ อย่างจริงจัง เพื่อหาทางแก้ไขอุปสรรคต่างๆ ของลูกค้าให้ได้ ในโอกาสนี้ ผู้บริหารของเดลล์และและไอบีเอ็มได้มาร่วมบรรยายกับมร.ฟิสเตอร์ด้วย โดยได้พูดถึงแพลตฟอร์มและทิศทางทั้งในปัจจุบันและอนาคต นอกจากนี้ยังเน้นถึงความสำคัญของโปรเซสเซอร์ในตระกูลไอเทเนียม ทู ของอินเทล รวมทั้งเทคโนโลยีมาตรฐานอุตสาหกรรมอย่าง PCI Express ด้วย มร. ฟิสเตอร์กล่าวว่า "ผู้จัดการแผนกไอทีของบริษัทต่างๆ ต้องเผชิญกับปัญหาที่ยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้น พวกเขาจึงต้องการให้อุตสาหกรรมไอทีนำเสนอโซลูชั่นที่โดดเด่นกว่าเดิมตามไปด้วย ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาเป็นต่อในการแข่งขันได้ อินเทลจึงทำงานร่วมกับผู้ค้ารายอื่นๆ โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือสนองตอบต่อความต้องการเหล่านี้ให้ได้ เนื่องจากความต้องการที่ว่านั้นเป็นตัวกระตุ้นการเติบโตและการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ภายในอุตสาหกรรมของเรา" การที่จะสนองตอบต่อความต้องการในการประมวลผลด้านวิทยาศาสตร์ การวิจัย และงานด้านเทคนิคได้นั้นจำเป็นต้องอาศัยระบบคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง ราคาเหมาะสมกับประสิทธิภาพ บวกกับการมีโซลูชั่นและเครื่องมือต่างๆ ให้เลือกใช้มากมาย ซึ่ง มร.ฟิสเตอร์ ชี้ให้เห็นว่าการที่คอมพิวเตอร์ซึ่งใช้สถาปัตยกรรมอินเทลประสบความสำเร็จในตลาด HPC เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า โซลูชั่นที่พัฒนาขึ้นมาโดยอิงกับแพลตฟอร์มของอินเทลนั้นให้ประสิทธิภาพสูงสุดคุ้มค่า อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและมีตัวเลือกที่หลากหลายมากกว่าด้วย มร.ฟิสเตอร์ บอกว่าในตอนนี้ Lawrence Livermore National Laboratory และ Sandia National Labs ซึ่งห้องแล็ปทั้งสองแห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีการใช้คอมพิวเตอร์แบบ HPC มากที่สุดในโลก การที่ความสามารถในการบริหารระบบลูกผสมถือว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อแผนกไอทีของบริษัทต่างๆ ดังนั้น มร.ฟิสเตอร์ จึงออกมาประกาศว่าอินเทลได้ร่วมมือกับเดลล์ เอชพี และไอบีเอ็ม โดยตั้งเป้าไปที่การปรับปรุงขั้นตอนการบริหารระบบลูกผสมที่ใช้แพลตฟอร์มมาตรฐานให้ดีขึ้นกว่าเดิม ความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้การบริหารระบบข้ามแพลตฟอร์มมีประสิทธิภาพดีขึ้น เสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง อีกทั้งยังช่วยปรับปรุงให้คอมพิวเตอร์ที่ใช้สถาปัตยกรรมอินเทลทำงานร่วมกันในศูนย์ข้อมูลได้ดีขึ้นด้วย ส่วนการประมวลผลแบบโมดูลในระดับองค์กรนั้น ถือเป็นโมเดลการประมวลผลแบบใหม่ซึ่งจะช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถนำเอาโซลูชั่นที่มีความคุ้มค่าสูงไปใช้ได้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม อินเทลทำงานร่วมกับผู้ค้ารายอื่นๆ ในอุตสาหกรรมจนกระทั่งสามารถพัฒนาระบบที่มีความสามารถระดับนี้ออกมาได้ในรูปของคอมพิวเตอร์ในตระกูล Intel Enterprise Blade Server ซึ่งออกแบบขึ้นมาเพื่อนำเสนอความยืดหยุ่นและการบริหารที่เรียบง่ายกว่าเดิมให้แก่สภาพแวดล้อมในการใช้งานภายในองค์กรต่างๆ ผลิตภัณฑ์รุ่นแรกมีชื่อว่า Intel Server Computer Blade SBXL52 โดยเบลดแต่ละชุดติดตั้ง อินเทล ซีออน โปรเซสเซอร์ (Intel Xeon Processor) เอาไว้ 2 ตัว ซึ่งแร็กเม้าท์แต่ละจุดติดตั้งเบลดได้ 14 ชุด เบลดรุ่นนี้สามารถเชื่อมต่อกันเป็นระบบเครือข่ายและมีระบบบริหารที่ใช้งานได้ง่ายขึ้นผ่านทาง Intel Management Module และ Intel Deployment Manager ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม VERITAS OpForce นอกจากนั้น Fister ยังเปิดเผยอีกว่าอินเทลเตรียมที่จะคลอดเบลดที่ใช้ อินเทล ซีออน เอ็มพี โปรเซสเซอร์ 4 ตัว ที่มีชื่อรหัสว่า McCarran ภายในปลายปีนี้ด้วย มร.ฟิสเตอร์กล่าวว่าภายในปี 2546 อินเทลจะพัฒนาโปรเซสเซอร์ในตระกูลไอเทเนียม ทู ให้มีแคชที่ใหญ่ขึ้น รวมทั้งยังมีเวอร์ชันที่สามารถทำงานในคอมพิวเตอร์แบบโปรเซสเซอร์คู่ และกินไฟต่ำลงกว่าเดิมอีกด้วย โปรเซสเซอร์ในตระกูลซีออน เอ็มพี จะใช้กับเซิร์ฟเวอร์ที่ติดตั้งโปรเซสเซอร์ตั้งแต่ 4 ตัวขึ้นไป โดยจะเป็นโปรเซสเซอร์รุ่นที่มีแคชมากขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2547 เป็นต้นไป จากนั้นอินเทลจะเปิดตัว อินเทล ซีออน เอ็มพี โปรเซสเซอร์ รุ่นที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 0.09 ไมครอน ที่มีชื่อรหัสว่า Potomac เพื่อใช้กับเซิร์ฟเวอร์ที่มีโปรเซสเซอร์ตั้งแต่ 4 ตัวขึ้นไป โดยจะใช้งานร่วมกับชิปเซ็ตรุ่นใหม่ของอินเทลที่มีชื่อรหัสว่า Twin Castle ด้วย นอกจากนั้นอินเทลยังได้มีการปรับปรุงโปรเซสเซอร์รุ่นยอดนิยมอย่างซีออนเพื่อใช้สำหรับเซิร์ฟเวอร์และเวิร์กสเตชันแบบโปรเซสเซอร์คู่ โดยจะเป็นโปรเซสเซอร์ที่มีความเร็วสูงขึ้น และนำออกสู่ตลาดภายในปีนี้ ส่วนโปรเซสเซอร์ระดับเอ็นเตอร์ไพรซ์ ที่มีชื่อรหัสว่า Nocona ซึ่งใช้กระบวนการผลิตแบบ 0.09 ไมครอนจะออกสู่ตลาดในช่วงครึ่งแรกของปี 2547 นอกจากนั้นอินเทลยังมีการเปิดตัวโปรเซสเซอร์ที่ใช้กระบวนการผลิตแบบ 0.09 ไมครอนอีกรุ่นหนึ่ง ชื่อรหัสว่า Jayhawk ที่จะมีการแนะนำต่อจาก Nocona ด้วย โดยที่ Nocona จะทำงานกับชิปเซ็ตเซิร์ฟเวอร์และเวิร์กสเตชันรุ่นใหม่ของอินเทลที่มีชื่อรหัสว่า Lindenhurst, Lindenhurst VS และ Tumwater ในงานไอดีเอฟครั้งนี้ อินเทลมีโอกาสสาธิตเทคโนโลยีใหม่ที่แสดงให้เห็นว่าแพลตฟอร์มของอินเทลมีประสิทธิภาพดีขึ้นและสามารถขยายขนาดของระบบได้ดีขึ้น เช่น การสาธิตการทำงานแบบครบวงจรของPCI-Express ที่ใช้งานควบคู่กับชิปเซ็ตรุ่นใหม่ของอินเทล รวมทั้งยังมีการเปิดตัว Intel Platform Innovation Framework เพื่อใช้งานกับ Extensible Firmware Interface (EPI) ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงชิ้นส่วนเก่าแก่ที่สุดของคอมพิวเตอร์ชิ้นสุดท้ายซึ่งก็คือไบออสนั่นเอง ผู้ที่ร่วมบรรยายกับมร.ฟิสเตอร์ ได้แก่ ซานดร้า มอร์ริส ผู้อำนวยการฝ่ายข้อมูลของอินเทลซึ่งออกมายืนยันว่า อินเทลมองเห็นความจำเป็นของโซลูชั่นในระดับเอ็นเตอร์ไพรซ์ที่ดีกว่าเดิม เร็วกว่าเดิม และมีความคุ้มค่ายิ่งกว่าเดิม ซึ่งมอร์ริสได้อธิบายให้ฟังว่าองค์กรซึ่งนำเอาคอมพิวเตอร์ที่ใช้ อินเทล ไอเทเนียม โปรเซสเซอร์ ไปใช้งานจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำอี-บิซิเนสของตนเองได้อย่างไร อินเทลสามารถปรับปรุงโซลูชั่นอี-บิซิเนสของตนเองได้โดยการนำเอาคอมพิวเตอร์ที่ใช้ อินเทล ไอเทเนียม ทู โปรเซสเซอร์ ไปรองรับการทำงานของแอพพลิเคชั่นที่มีความสำคัญ เช่น แอพพลิเคชั่นช่องทางการจัดซื้อ โครงสร้างพื้นฐานของอินเทอร์เน็ต การบริการลูกค้า การตลาด ระบบโรงงานอัตโนมัติ และงานด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งโรงงานขนาดใหญ่หลายแห่งในโลกกำลังใช้โซลูชั่นแบบนี้อยู่ในตอนนี้ ข้อมูลเกี่ยวกับงานไอดีเอฟ งานอินเทล ดิเวลล็อปเปอร์ ฟอรั่ม เป็นงานแสดงด้านเทคโนโลยีประจำปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งในอุตสาหกรรมไอที ซึ่งจัดขึ้นสำหรับนักพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์โดยเฉพาะ งานไอดีเอฟ เป็นการรวมตัวกันของบริษัทชั้นนำในวงการเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับพีซี เซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์สื่อสาร และอุปกรณ์ที่เป็นเครื่องลูกข่ายแบบพกพา ผู้สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานไอดีเอฟ และเทคโนโลยีต่างๆ ของอินเทลได้ที่ http://developer.intel.com อินเทลเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นผู้นำในการผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ระบบเครือข่าย และอุปกรณ์สื่อสาร ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทอินเทล ได้ที่เว็บไซต์ http://www.intel.com/pressroom ติดต่อ: คุณเพชราภรณ์ เจริญนิพนธ์วานิช คุณอัปษร เพชรชาติ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท คาร์ล บายร์ โทรศัพท์: (66 2) 654-0654 โทรศัพท์: (66 2) 627-3501 e-Mail: [email protected] e-Mail: [email protected]จบ-- -รก-

ข่าวอินเทล คอร์เปอเรชั่น+คอร์เปอเรชั่นวันนี้

เดอะแวลลูซิสเตมส์จับมือ อินเทล คอร์เปอเรชั่น จัดสัมมนาแก่คู่ค้าในพื้นที่ภาคใต้ สัมผัสเทคโนโลยีสุดล้ำ "Intel Experiences are Changing to 2014"

บริษัทเดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัด (ในเครืออีซีเอส โฮลดิงส์) ผู้นำกลุ่มธุรกิจค้าส่งสินค้าไอทีในประเทศไทยร่วมกับบริษัท อินเทล คอร์เปอเรชั่น จัดงานสัมมนาแก่คู่ค้าในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อร่วมสัมผัสเทคโนโลยีสุดล้ำ "Intel Experiences are Changing to 2014" ภายในงานมีการแนะนำนวัตกรรมระบบประมวลผลใหม่อย่าง Intel 4th Generation Core รวมถึงเทรนด์การใช้งานโน้ตบุ๊คแบบ 2-in-1 Device และศักยภาพที่น่าสัมผัสของอัลตราบุ๊ค All-in-One แท็บแล็ตที่มีระบบประมวลผลอินเทลอยู่ภายใน โดยครั้งนี้ มีการสาธิตการ

ฮิตาชิ จีเอสที จับมือกับ อินเทล พัฒนาฮาร์ดดิส SSD เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการบริหารข้อมูล

บริษัทอินเทล คอร์เปอเรชั่น (อินเทล) ร่วมกับ บริษัทฮิตาชิ โกลบอล สตอเรจ เทคโนโลยีส์ (ฮิตาชิ จีเอสที) ประกาศแผนความร่วมมือพัฒนา Serial Attached SCSI (SAS) และ Fiber Channel (FC) Solid-State Drive (SSD)...

อินเทล เพนเทียม โฟร์ โปรเซสเซอร์ รุ่นใหม่ ใช้เทคโนโลยีการผลิตการผลิตแบบ 90 นาโนเมตร

กรุงเทพฯ--4 ก.พ.--คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ อินเทล คอร์เปอเรชั่น เปิดตัวโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่สี่รุ่นที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 90 นาโนเมตรซึ่งเป็นเทคโนโลยีชั้นนำของอุตสาหกรรม โปรเซสเซอร์ ทั้งสี่รุ่นซึ่งเดิม...

อินเทลเผย High Definition Audio มาตรฐานใหม่สำหรับระบบออดิโอเจเนอเรชั่นถัดไป ดึงคุณสมบัติออดิโอในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สู่พีซี

กรุงเทพฯ--8 ม.ค.--คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ อินเทล คอร์เปอเรชั่นประกาศเปิดตัว High Definition Audio มาตรฐานเทคโนโลยีออดิโอรุ่นถัดไปซึ่งเดิมมีโค้ดเนมว่า "Azalia" เทคโนโลยี...

คอมไพเลอร์ใหม่จากอินเทลเพิ่มประสิทธิภาพแอพพลิเคชั่นระหว่างแพลตฟอร์ม

กรุงเทพฯ--12 ธ.ค.--คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ อินเทล คอร์เปอเรชั่น ประกาศเปิดตัว อินเทล คอมไพเลอร์ เวอร์ชั่น 8.0 คอมไพเลอร์รุ่นใหม่นี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอพพลิเคชั่นและยังเป็นแพคเกจพิเศษที่ใช้ในการพัฒนาแอพพลิ...

อินเทลตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีการผลิต

กรุงเทพฯ--25 พ.ย.--คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ อินเทล คอร์เปอเรชั่น เปิดตัวหน่วยความจำ SRAM (Static Random Access Memory) สมบูรณ์แบบที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 65 นาโนมิเตอร์ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิต รุ่นถัดไปที่จะนำมาใช้ในการผลิตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์...

อินเทลยกระดับซีพียูสู่ประสบการณ์เกมเหนือชั้น อินเทล เพนเทียม โฟร์ โปรเซสเซอร์ เอ็กซ์ตรีม เอดิชั่น

กรุงเทพฯ--4 พ.ย.--คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ อินเทลยกระดับซีพียูสู่ประสบการณ์เกมเหนือชั้น อินเทล เพนเทียม โฟร์ โปรเซสเซอร์ เอ็กซ์ตรีม เอดิชั่น สุดยอดชิปสำหรับคอเกมส์และเซียนคอมพิวเตอร์ อินเทล คอร์เปอ...

อินเทลเปิดตัวโซลูชั่นเมมโมรีครบเครื่องสำหรับโทรศัพท์มือถือ

กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ อินเทลเปิดตัวโซลูชั่นเมมโมรีครบเครื่องสำหรับโทรศัพท์มือถือ Intel StrataFlash‚ Wireless Memory System อุปกรณ์ราคาประหยัดที่สามารถเก็บข้อมูล โค้ด และ RAM ได้ในตัว อินเทล คอร์เปอเรชั่น ได้เปิดตัว...

อินเทลเน้นพัฒนาโซลูชั่นเอ็นเตอร์ไพรซ์ที่ดีขึ้น เร็วขึ้น และคุ้มค่ามากขึ้น

กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ มร. ไมค์ ฟิสเตอร์ รองประธานอาวุโส บริษัท อินเทล คอร์เปอเรชั่น ได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าวิศวกรและนักพัฒนาในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจำนวนหลายพันคนในงาน อินเทล ดิเวลล็อปเปอร์ ฟอรั่ม ...