กรุงเทพฯ--28 ก.ค.--กบข.
กบข. ประกาศตัวเลขผลตอบแทนการลงทุนสะสม 12 เดือน (กรกฎาคม 2545 - มิถุนายน 2546) เท่ากับร้อยละ 10.42 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราผลตอบแทนจากเงินฝากประจำ 1 ปีของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 5 ธนาคารเฉลี่ยร้อยละ 2.18 และอัตราเงินเฟ้อ อยู่ที่ร้อยละ 1.34 (อัตราผลตอบแทนถ้ารวมเงินสำรองจะเป็น 10.77%)
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการ กบข. แถลงถึงผลประกอบการและผลประโยชน์สุทธิ ณ ไตรมาสที่ 2/2546 ดังนี้ "ผลตอบแทนการลงทุนสุทธิในไตรมาสสองของปีนี้ (เมษายน - มิถุนายน 2546) ประมาณ 8,544.36 ล้านบาท ผลตอบแทน 6 เดือน (มกราคม - มิถุนายน 2546) 12,146.58 ล้านบาท จากสินทรัพย์สุทธิตามมูลค่ายุติธรรม ณ 30 มิถุนายน 2546 จำนวนทั้งสิ้น 215,597.44 ล้านบาท โดยประกอบด้วยเงินกองกลาง เงินรายบุคคลและผลประโยชน์ จำนวน 197,645.20 ล้านบาท เงินสำรองและผลประโยชน์ จำนวน 17,952.24 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วนการลงทุนแยกตามประเภทตราสาร โดยประกอบด้วยตราสารหนี้ร้อยละ 87 ตราสารทุนร้อยละ 10 และอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ร้อยละ 3 และหากพิจารณาอัตราผลตอบแทนสุทธิ สะสมย้อนหลัง 12 เดือน (ตั้งแต่กรกฎาคม 2545 - มิถุนายน 2546) อยู่ที่ ร้อยละ 10.42 "
สำหรับผลประโยชน์สุทธิที่สมาชิกได้รับเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง นับตั้งแต่กรกฎาคม 2541 - มิถุนายน 2546 อยู่ที่ร้อยละ 9.37 ต่อปี เป็นผลจากกระบวนการลงทุนที่มีการจัดสรรการลงทุน การวิเคราะห์และติดตามการลงทุนอย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอ ซึ่งถือว่า กบข. บรรลุเป้าหมายในการบริหารเงินออมระยะยาวของสมาชิก
อนึ่งแนวโน้มการลงทุนของ กบข.ในครึ่งปีหลังนั้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ในเกณฑ์ต่ำภายหลังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กบข. จึงต้องกระจายการลงทุน โดยหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจที่มีแนวโน้มการเจริญเติบโตสูง ในส่วนของตราสารหนี้นั้นยังคงเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความมั่นคง ประเภทพันธบัตรรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลค้ำประกัน ต่อไป และลงทุนในตราสารหนี้ธุรกิจภาคเอกชนที่มีลำดับความน่าเชื่อถือที่ดี นอกจากนี้คงเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นสูงขึ้นตามสภาวะของตลาดโดยมีเป้าหมายอยู่ที่ร้อยละ 12 แต่จะเน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัย พื้นฐานดี มีการบริหารจัดการ องค์กรที่ดี และหุ้นที่ให้เงินปันผลดี.
เรื่องน่ารู้จาก กบข.
สมาชิก กบข. สามารถทดลองคำนวณเงินที่จะได้รับเมื่อพ้นสมาชิกภาพได้
1. เข้าที่เว็บไซต์ กบข. www.gpf.or.th
2. ติดต่อผ่านศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก กบข. โทร 1179 และ กด 2 เพื่อรับบริการคำนวณเงินเมื่อพ้นสมาชิกภาพผ่านทางโทรศัพท์ระบบอัตโนมัติ โดยเตรียมข้อมูล วัน เดือน ปี เกิด วัน เดือน ปี ที่บรรจุเข้ารับราชการ และเงินเดือน ณ วันสมัครสมาชิก กบข. และปฏิบัติตามขั้นตอนที่ระบบแนะนำ หรือ โทร 1179 และ กด 6 เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่
3. ส่ง E-mail มาที่ [email protected] โดยแจ้งข้อมูลสมาชิก ดังนี้
เก็บมาฝากสมาชิก กบข.
ความคืบหน้าการแก้ไข พรบ. กบข.
คณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอ ครม.คณะที่ 2 ที่มีนายสมคิด จาตุศรีทักษ์ รองนายกฯ เป็นประธาน มีมติเห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ที่เพิ่มอำนาจ กบข.ให้ กว้างขวางขึ้นเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินกิจการ และส่งเสริมการออมของสมาชิก ทั้งนี้ ได้เพิ่มอำนาจให้ กบข.จัดตั้งบริษัท จำกัด หรือบริษัทมหาชน จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการกองทุน และเข้าร่วม กิจการกับหน่วยงานอื่นไม่ว่าจะเป็นเอกชน หรือรัฐ ทั้งในและต่างประเทศ หรือกับองค์กรระหว่างประเทศได้ โดยให้กำหนดคุณสมบัติ และวิธีที่จะไปลงทุนในต่างประเทศเป็นกฎกระทรวง นอกจากนี้ ยังให้สมาชิกส่งเงินสะสมเกินกว่าอัตราขั้นต่ำได้ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ กบข.กำหนด ทั้งให้ส่วนราชการส่งเงินสมทบให้สมาชิกเท่ากับอัตราเงินสะสมขั้นต่ำในกฎกระทรวง โดย กบข.สามารถบริหารเงินของสมาชิกที่ยังไม่ประสงค์รับคืน หรือรับคืนบางส่วนต่อไปได้ และให้ กบข.จัดทำแผนลงทุนให้สมาชิกเลือกได้ตามความต้องการ ของแต่ละคนภายใต้การยอมรับความเสี่ยงของตัวเอง แต่หากสมาชิกไม่มีความพร้อม กบข.ก็จะนำเงินไปลงทุนตามแนวทางเดิม ทั้งให้เพิ่มเติมกฎหมายในกรณีที่ไม่มีการจ่ายเงินประเดิม และเงินชดเชยให้แก่สมาชิกเมื่อพ้นจากราชการ และไม่มีสิทธิได้รับบำนาญ หรือมีสิทธิได้รับบำนาญแต่เลือกรับบำเหน็จแทน.
(ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 18 กรกฎาคม 2546.)
หากท่านมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ :-
ศูนย์บริการข้อมูลสมาชิกโทร. 1179 กด 6 เพื่อติดต่อกับเจ้าหน้าที่โดยตรง
หรือ email: [email protected]
หรือฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์กบข. ตู้ปณ. 19 ปณฝ. กระทรวงการคลัง กรุงเทพฯ 10411--จบ--
-รก-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit