กรุงเทพฯ--5 มี.ค.--ดีแทค
มิจฉาชีพระบาดหนัก แอบอ้างใช้บัตรประชาชนปลอม ดีแทคออกโรงปกป้องสิทธิ์ประชาชน แนะดำเนินการกับมิจฉาชีพเพื่อส่วนรวม
พิทยาพล จันทนะสาโร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ออกโรงปกป้องสิทธิ์ของผู้บริโภคอีกครั้ง หลังจากได้นำข้อมูลวิธีการโกงแบบใหม่ของเหล่ามิจฉาชีพออกเผยแพร่เตือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง ชี้กลโกงที่เปลี่ยนรูปแบบใหม่ ๆ ตลอดเวลา นำมาซึ่งความเสียหายแก่ผู้บริโภคและเศรษฐกิจของประเทศ มูลค่ารวมความเสียหายต่อทุกธุรกิจนับพันล้านบาทต่อปี เช่น ธุรกิจบัตรเครดิต การกู้เงินธนาคาร หรือแม้แต่การค้ำประกันในระบบของศาลสถิตยุติธรรม
ลักษณะการระบาดของมิจฉาชีพในธุรกิจโทรศัพท์มือถือปัจจุบัน ประกอบด้วย
1. การนำบัตรประชาชนของบุคคลอื่นไปซื้อโทรศัพท์มือถือแล้วนำมาตั้งโต๊ะเปิดบริการราคาถูก
2. การหลอกนำบัตรประชาชนไปซื้อซิมการ์ด แล้วนำมาจำหน่ายต่อ
3. การสมคบคิดให้นำบัตรประชาชนของตนไปซื้อซิมการ์ด แล้วขายต่อให้ผู้บริโภคราคาถูก แต่ใช้ได้ระยะเวลาสั้นก็จะถูกปิดบริการ ซึ่งมีทั้งการจำหน่ายในสถานที่ที่เป็นศูนย์รวมการค้า หรือการจำหน่ายทางอินเตอร์เน็ต
4. การอ้างชื่อบริษัทมือถือขอเช่าที่ดินเพื่อติดตั้งเสาสัญญาณ แต่สุดท้ายเป็นการหลอกตุ๋นเงิน
5. การลวงให้ผู้บริโภคจ่ายเงินซื้อบัตรเติมเงินของทุกระบบในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด โดยจ่ายเงินสดล่วงหน้าก่อนแล้วจึงมารับบัตร
6. ถูกโกงจากการชำระค่าบริการผ่านตัวแทนที่ไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ กับร้านค้าที่ขึ้นป้ายว่ารับชำระค่าบริการ โดยมิใช่ร้านค้าที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนอย่างถูกต้อง
แนวทางการปฏิบัติที่รัดกุมของดีแทคในกรณีลูกค้าไปเปิดใช้บริการ เพื่อปกป้องสิทธิ์ของตน ได้แก่
1. ลูกค้าจะสามารถเปิดใช้บริการแบบ postpaid ได้ต่อเมื่อตัวผู้ที่มาเปิดบริการกับเอกสาร บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงและสำเนานั้นตรงกัน ถ้าไม่ตรงกันจะไม่มีการเปิดบริการให้ โดยมีข้อแนะนำในการใช้บัตรและสำเนาบัตรประชาชน ดังนี้
ทุกครั้งที่มีการถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนไปใช้ ควรใช้ปากกาขีดคร่อมทับรูปถ่ายด้านหน้าของสำเนาบัตร พร้อมทั้งเขียนระบุจุดประสงค์ของการใช้งานสำเนานั้น ๆ เช่น สำหรับซื้อบริการโทรศัพท์มือถือ เพราะส่วนใหญ่มักแค่ลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง ทั้งนี้ เคยปรากฏแล้วว่ามีการนำสำเนาที่สภาพสมบูรณ์ เช่น รูปถ่ายชัดเจน ไปกระทำการมิชอบ ทำให้เจ้าของบัตรผู้สุจริตต้องเสียหาย พกบัตรประชาชนติดตัวอยู่เสมอ และไม่ควรทิ้งบัตรประชาชนไว้ในมือผู้อื่นเป็นอันขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามแหล่งชุมชน ซึ่งเคยมีรายงานว่าเป็นแหล่งที่มีการนำสำเนาหลักฐานส่วนตัวไปใช้ในทางมิชอบ ควรซื้อเครื่องหรือบริการจากดีแทคช้อปหรือเซอร์วิสฮอลล์ของดีแทค หรือร้านค้าที่น่าเชื่อถือ โดยนำบัตรประชาชนตัวจริงไปแสดงด้วย
2. เมื่อเปิดใช้บริการแล้ว ภายใน 15 วันแรก ดีแทคจะให้วงเงินในการใช้โทรศัพท์จำนวนหนึ่ง เพื่อจำกัดความเสียหายในเบื้องต้น จากนั้นจะมีการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารกับฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร ในขณะเดียวกันจะมีการตรวจสอบอีกขั้นหนึ่งด้วยการโทรไปหาผู้จดทะเบียนว่าใช่ตัวจริงหรือไม่ หลังจากนั้นจึงจะมีการประเมินวงเงินในการใช้โทรศัพท์ (credit limit) ใหม่อีกครั้งหนึ่ง และจะติดตามปริมาณการใช้โทรศัพท์ หากมีมูลค่าสูงผิดปกติ ลูกค้าจะได้รับการติดต่อจากบริษัทเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค และป้องกันความเสียหายไม่ให้ขยายวงมากขึ้น
3. สำหรับลูกค้าที่ได้รับความเสียหายในกรณีที่ถูกปลอมแปลงเอกสาร ทางบริษัทจะแนะนำให้ไปแจ้งความ และดีแทคจะทำการลดหนี้ให้ (ยกเลิกค่าบริการที่มิใช่ส่วนที่ลูกค้าใช้จริง)
แนวทางปฏิบัติที่ดีแทคใช้กับดีลเลอร์และซับดีลเลอร์
1. ร้านค้ามีสองประเภท คือ ร้านค้าที่จดทะเบียนเป็นคู่ค้ากับดีแทค ถ้าบริการและดูแลลูกค้าได้ดี บริษัทจะมีเงื่อนไขตอบแทนเป็นพิเศษ แต่ถ้าร้านค้าละเลย บริหารงานจนเกิดผลกระทบจากการใช้เอกสารปลอม บริษัทจะพิจารณาความรุนแรงของเหตุการณ์และลงโทษ โดยเริ่มจากการไม่จ่ายเงิน หรือจ่ายเงินช่วยเหลือให้ช้าลง และสูงสุดคือยกเลิกสัญญาคู่ค้า
สำหรับมาตรการควบคุมระหว่างการส่งเอกสารหลังจากจดทะเบียน ถ้าร้านค้าส่งช้ากว่า 7 วันจะถูกปรับเป็นเงินจำนวนหนึ่ง และหากเอกสารผิดพลาด ไม่ตรงตามที่วางมาตรฐานไว้ หรือพบว่าเป็นเอกสารปลอม จะถูกปรับในอัตราที่สูงขึ้น
2. ในกรณี ร้านค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นคู่ค้า แต่ทำธุรกรรมผ่านดีลเลอร์ของดีแทค ทางดีลเลอร์จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบแทน และดีแทคสามารถตรวจสอบได้ทางระบบคอมพิวเตอร์ว่าจำหน่ายไปจากดีลเลอร์รายใด
ที่ผ่านมา ดีแทคได้มีการปรับในกรณีใหญ่ ๆ เช่นที่เกิดขึ้นกรณีร้านค้าหนึ่งซึ่งทางร้านค้าได้รับผิดชอบค่าเสียหายสูงถึง 3 ล้านบาทมาแล้ว อันแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบของคู่ค้าดีแทค นอกจากนี้ ทางดีแทคยังได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อ ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดมาโดยตลอด เฉพาะในปี 2545 ดีแทคได้มีการประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีข้อหาใช้เอกสารปลอมและฉ้อโกงเป็นจำนวน 77 คดี
"ดังนั้นประชาชนควรเพิ่มความระมัดระวัง รอบคอบ มิให้ผู้อื่นนำเอกสารสำคัญ เช่น บัตรประจำตัวประชาชนหรือทะเบียนบ้านไปแอบอ้างใช้โดยมิชอบ โดยการเขียนวัตถุประสงค์ของการใช้เอกสารกำกับไว้ในสำเนาเอกสารสำคัญทุกครั้ง เมื่อนำโทรศัพท์ไปซ่อมก็ควรถอดซิมออก และหากพบผู้กระทำผิดก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ช่วงที่ผ่านมาเราได้มีการสื่อสารข้อมูลการป้องกันการฉ้อโกงด้วยวิธีการใหม่ ๆ ของเหล่ามิจฉาชีพทางสื่อมวลชนอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาสิทธิ์ของผู้บริโภค อีกทั้งยังเน้นให้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดเพื่อประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม" นายพิทยาพลกล่าวย้ำ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
สำนัก Corporate Communications
โทร. (02) 202-8000 แฟกซ์ (02) 202-8859 e-mail:
[email protected]
สื่อมวลชนสอบถามรายละเอียดได้ที่ พรนานา อภิลักษณ์พาณิชย์ / Ponnana Apiluckpanich
Corporate Communications Office
Total Access Communication Plc.
โทร 02 202 8000 #31887
แฟกซ์ 02 202 8859, 02 202 8895
Mobile 01 623 9895
e-mail:
[email protected]
ลูกค้าดีแทคและดีพร้อมท์สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ DTAC Call Center โทร 02 202 7000
หรือกด 1800 จากโทรศัพท์มือถือระบบดีแทค--จบ--
-พห/นห-