กรุงเทพฯ--26 เม.ย.--สธ.
กระทรวงสาธารณสุขเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการตามโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และให้สอดคล้องกับระเบียบกระทรวงฯ จึงได้กำหนดระเบียบการจ้างลูกจ้างชั่วคราวและลูกจ้างรายคาบ
น.พ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายเงินบำรุงเพื่อเป็นค่าจ้างลูกจ้างชั่วคราวและลูกจ้างรายคาบ ของหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้การดำเนินการตามโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยเงินบำรุง ฯ พ.ศ. 2544 โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวว่าด้วยการจ้างลูกจ้างชั่วคราวและลูกจ้างรายคาบว่าต้องไม่เป็นภาระต่อการใช้จ่ายเงินบำรุงของหน่วยบริการและต้องสอดคล้องกับแผนการใช้จ่ายเงินบำรุงของหน่วยบริการ โดยให้หัวหน้าหน่วยบริการต้องจัดทำแผนความต้องการลูกจ้างชั่วคราวในแต่ละปีงบประมาณและเสนอให้คณะกรรมการบริหารหน่วยบริการให้ความเห็นชอบล่วงหน้าก่อนปีงบประมาณที่จะจ้างไม่น้อยกว่า 1 เดือน ยกเว้นปีงบประมาณ 2545
สำหรับอัตราค่าจ้างต้องไม่เกินอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของตำแหน่งและวุฒิ ส่วนลูกจ้างชั่วคราวที่ส่วนราชการไว้ก่อนปีงบประมาณ 2549 และต้องการจ้างต่อเนื่องให้จ้างในอัตราค่าจ้างไม่น้อยกว่าอัตราที่เคยจ้างไว้และไม่เกินค่าจ้างขั้นสูงของตำแหน่ง หากต้องการจ้างสูงกว่าอัตราค่าจ้างต้องเสนอเหตุผลและความจำเป็นต่อคณะกรรมการบริหารหน่วยบริการพิจารณา ส่วนตำแหน่งที่ต้องมีหลักประกันต้องให้มีการค้ำประกันด้วยบุคคลต้องเป็นราชการตั้งแต่ระดับ 4 ขึ้นไปหรือหลักทรัพย์มูลค่าไม่น้อยกว่า 10,000 บาท
รองปลัดกล่าวต่อว่าในส่วนลูกจ้างรายคาบให้จ้างเป็นรายชั่วโมงแต่ให้จ้างได้ไม่เกินวันละ 8 ชั่วโมงติดต่อกัน ส่วนค่าตอบแทนให้เป็นไปตามวุฒิ ตำแหน่งและลักษณะงานที่ปฏิบัติ เช่น แพทย์ที่ปฏิบัติงานให้บริการผู้ป่วยนอกหรือผู้ป่วยใน ทันตแพทย์ได้รับค่าตอบแทนต้องไม่น้อยกว่าชั่วโมงละ 120 บาท เภสัชกร ชั่วโมงละ 90 บาท นักวิทยาศาสตร์ พยาบาลวิชาชีพ นักวิชาการทางด้านสาธารณสุข ชั่วโมงละ 80 บาท พยาบาลเทคนิค เจ้าพนักงานสาธารณสุข และเจ้าพนักงานเทคนิค ชั่วโมงละ 60 บาท เจ้าหน้าที่พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเจ้าหน้าที่เทคนิค ชั่วโมงละ 50 บาท
ทั้งนี้ในการจ้างดังกล่าวให้หน่วยบริการจัดทำบัญชีการจ้างแจ้งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและปลัดกระทรวงสาธารณสุขทราบปีละ 1 ครั้ง โดยระเบียบดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2545 เป็นต้นไป ส่วนลูกจ้างชั่วคราวและลุกจ้างรายคาบที่จ้างก่อนหน้านี้ให้ถือว่าถูกต้องตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น รองปลัดกระทรวงกล่าว--จบ--
-ตม-